หัวหน้า ปชป.ซ้อมลูกพรรคแจงซักฟอก เตือน รมต.รับมือโดนพาดพิง ไร้ปัญหา “เหลิม” โวใช้บุหรี่นอกน็อก ยันแจงได้ ซัดญัตติมุ่งการเมือง โยนดุลพินิจประธานสภาฯ สอบคลิป ชี้ชทพ.จับมือภท.ก็ทำได้ แต่อ้างทุกอย่างอยู่ที่ผลเลือกตั้ง ถาม “สมเกียรติ” พูดไม่มีเลือกตั้งเอามาจากไหน บีบพ้น ส.ส.
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถึงการซักซ้อมในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ความพร้อมในการชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะขึ้นในวันอังคารที่ 15 มี.ค.นี้ว่า มีการซักซ้อมขอให้ทุกคนพร้อมในการชี้แจง รวมทั้งรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ในญัตติ แต่อาจจะถูกพาดพิงก็ควรจะเตรียมความพร้อมด้วย ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ประชาชนจะได้อะไรนั้น ก็อยู่ที่การอภิปรายของฝ่ายค้าน หลายเรื่องที่หยิบขึ้นมาน่าเสียดายที่มุ่งไปเรื่องอื่นมากกว่าปัญหาของประชาชนที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า กรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด กรณีเลี่ยงภาษีบุหรี่จำนวน 68,881 ล้านบาท จะเป็นหมัดน็อกนายกฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหา ก็เสนอข้อมูลมา ตนพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว สิ่งที่กล่าวหาในคำถอดถอนไม่มีความเป็นจริง และเรื่องนี้ทั้งหมดมีความเข้าใจสับสนกันเยอะมาก ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ชี้แจงเรื่องทั้งหมด เมื่อถามต่อว่าดูเหมือนว่าฝ่ายค้านมุ่งไปที่คนที่อยู่แวดล้อมนายกฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ธรรมดา ก็ดูจากตัวญัตติ การเลือกถอดถอน พยายามมุ่งไปเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องข้อเท็จจริง
เมื่อถามต่อว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำอย่างไรไม่ให้มีการนำไปขยายผลสร้างความแตกแยกในสังคม นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ตนหวังว่า ส.ส.ทุกคนจะมีความรับผิดชอบ ถ้าเราเล่นการเมืองถึงขั้นที่ว่า ทำอะไรก็ได้ จนถึงขั้นที่ว่าบ้านเมืองมีความวุ่นวาย มีความแตกแยกก็คงไม่ค่อยไม่เหมาะสม ประชาชนจะได้เห็นว่าแต่ละพรรคการเมืองมีบทบาทอย่างไร ยืนยันว่า ตนพยายามทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ว่าฝ่ายค้านได้เวทีไป 4 วัน ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่า อยากจะให้มีแต่ประเด็นความขัดแย้ง เดือนพฤษภาคมประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน เวลามีการยุบสภาต่อไป ส่วนเรื่องของการตรวจสอบคลิปที่จะนำมาเปิดในการอภิปรายนั้น ก็เป็นเรื่องของประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับ การนำเอกสาร นำสื่ออะไรมานำเสนอ ประธานสภาฯต้องเป็นคนอนุญาต เพราะฉะนั้นเป็นดุลพินิจของประธานสภาฯ ที่ผ่านมาก็เข้าใจว่า ประธานสภาฯต้องการที่จะให้มีคนเข้าไปช่วยกลั่นกรอง รูปแบบ วิธีการเป็นเรื่องของประธานสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการจับมือกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาหลังการเลือกตั้งจะเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาลคราวหน้า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องซึ่งสามารถกำหนดท่าทีนั้นได้ เมื่อถามว่าการที่ 2 พรรคเลือกที่จะจับมือกัน แต่ยังไม่เริ่มที่จะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์มีนัยอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อันนี้ต้องถาม 2 พรรค ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าไม่มีอะไร เป็นสิทธิของแต่ละพรรคการเมือง ประชาธิปัตย์เคยร่วมรัฐบาล พอหลังการเลือกตั้งแล้วพรรคร่วมรัฐบาลตัดสินใจไปร่วมกับพรรคอื่น เป็นไปตามกระบวนการปกติ เมื่อถามต่อว่าทำให้อำนาจการต่อรองเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าขนาดของพรรครวมกันแล้วมันใหญ่ขึ้น ก็ต้องมีความหมายมากขึ้นในเรื่องของดุลอำนาจ เมื่อถามว่า การร่วมกันจะทำให้พรรคขนาดกลางเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาลมาก น้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง “วันนี้ไม่มีใครพูดได้ว่าใครใหญ่ ใครกลาง ใครเล็ก เพราะว่าประชาชนจะเป็นคนให้ตัวเลขมาหลังการเลือกตั้ง”
เมื่อถามว่า ในขณะที่อนุมัตินับถอยหลังยุบสภาแล้ว แต่หลายฝ่ายกลับบอกว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าการเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม จะไม่ยอมรับไม่ได้หรอกครับ ไม่อย่างนั้นเราจะพูดได้อย่างไรว่าเรามีความยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ถ้าบอกว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เมื่อถามต่อว่า กรณีนี้นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แล้วบอกว่าสิบกว่าวันจากนี้จะไม่มีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบไปเอามาจากไหน
“ความจริงผมก็ไม่มีโอกาสได้คุยด้วย แต่ถ้าคุณสมเกียรติเห็นว่าแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกต้องก็ควรแสดงจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจนไปเลย เพราะว่าไม่ไปเดือดร้อนประชาชนอยู่แล้ว ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม” นายอภิสิทธิ์กล่าว