ASTVผู้จัดการรายวัน - แอร์พอร์ตลิ้งก์ เร่งกู้ขบวน City Line กลับมาให้บริการได้เพิ่มเป็น 4 ขบวน ทดแทน Express Line ขณะที่ซีเมนส์ มั่นใจอะไหล่ 16 ชุดถึงไทยและติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมให้บริการภายในเย็นวันนี้ ร.ฟ.ท.แก้เกี้ยวเรียกค่าเสียหายซีเมนส์ ทำสูญรายได้ 1.2 ล้านบาทต่อวัน พร้อมทำแผนของบสำรองอะไหล่ 270 ล้านบาท
จากกรณีที่รถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง (แอร์พอร์ตลิงก์) ขบวนรถไฟฟ้าด่วน (Express Line) หยุดวิ่งให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2554 เนื่องจากตัวแปลงถ่าน ซึ่งเป็นตัวรับกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ตัวรถไฟฟ้าชำรุด และไม่มีอะไหล่สำรองเหลือให้บริการได้เพียงขบวนรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) เพียง 3 ขบวนเท่านั้นทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกอย่างมากนั้น
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด หรือแอร์พอร์ตลิ้งก์ เปิดเผยว่า วานนี้ (30 มี.ค.) สามารถเปิดให้บริการรถ City Line ได้เพิ่มอีก 1 ขบวน เป็น 4 ขบวน ด้วยการใช้วิธีกลับด้านตัวแปลงถ่านที่ยังไม่สึกหรออีกฝั่งขึ้นมาใช้งาน
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ได้แจ้งว่า ตัวแปรงถ่านที่สั่งซื้อเร่งด่วน จำนวน 16 ชุด จะมาถึงไทยในช่วงบ่ายวันนี้ (31 มี.ค.) หากไม่มีปัญหาใดๆ จะนำมาติดเข้ากับขบวนได้ทันทีและเร่งเปิดให้บริการรถ Express Line ตามตารางการเดินรถปกติให้ทันช่วงเย็นของวันเดียวกัน พร้อมกันนี้ ร.ฟ.ท.ได้ทำหนังสือถึงซีเมนส์แจ้งขอสงวนสิทธิ์เรียกค่าเสียหายจากซีเมนส์แล้ว เนื่องจากการหยุดให้บริษัทได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแอร์พอร์ตลิงก์และทำให้สูญรายได้ประมาณวันละ 1.2 ล้านบาทด้วย
นายภากรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามปกติรถไฟฟ้าจะต้องมีสต๊อกอะไหล่มูลค่าประมาณ 10% ของราคารถ ไว้รองรับการให้บริการ ซึ่งรถแอร์พอร์ตลิ้งก์มูลค่าประมาณ 4,650 ล้านบาท จะต้องมีสต๊อกอะไหล่ประมาณ 460 ล้านบาท แต่เนื่องจากในช่วงเริ่มต้นโครงการมีปัญหางบประมาณจึงไม่ได้ทำสัญญาในส่วนนี้ไว้ทำให้ไม่มีสต๊อกอะไหล่ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ขณะนี้ได้ทำแผนเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เพื่อของบประมาณ 270 ล้านบาท ในการจัดซื้ออะไหล่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เฉพาะที่ต้องสั่งบริษัทซีเมนส์ ผลิต ซึ่งกระบวนการสั่งซื้อและผลิตใช้เวลาประมาณ 1 ปีจึงต้องทำแผนล่วงหน้า
“เรื่องนี้บอร์ดบริษัทฯ จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้งบประมาณจากไหน อาจจะต้องใช้งบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในปี 2554 ที่ตั้งไว้สำหรับแอร์พอร์ตลิ้งค์ก่อน เนื่องจากบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. มีทุนจดทะเบียนเพียง 140 ล้านบาท ส่วนกรณีการขาดอะไหล่ครั้งนี้ ซีเมนส์ต้องรับผิดชอบเนื่องจากยังอยู่ในระยะรับประกัน ซึ่งจะครบกำหนด 2 ปี ในเดือนมี.ค.2555ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ “นายภากรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แอร์พอร์ตลิ้งค์ยังมีปัญหาที่น่าเป็นห่วง ซึ่งได้แจ้งให้ซีเมนส์เร่งแก้ไขแล้ว เช่น จานเบรกร้าว ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นปัญหาของการตั้งซอฟต์แวร์ระบบการเบรก, ผ้าเบรกมีการสึกในอัตราเร็วกกว่าปกติถึง 2 เท่า แต่ยืนยันว่า การเดินรถให้บริการยังคงมีความปลอดภัย 100% แม้จะมีการตรวจพบอาการผิดปกติต่างๆ เนื่องจากเมื่อมีปัญหาระบบจะแจ้งและทำการหยุดขบวนรถอัตโนมัติทันที
จากกรณีที่รถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง (แอร์พอร์ตลิงก์) ขบวนรถไฟฟ้าด่วน (Express Line) หยุดวิ่งให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2554 เนื่องจากตัวแปลงถ่าน ซึ่งเป็นตัวรับกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ตัวรถไฟฟ้าชำรุด และไม่มีอะไหล่สำรองเหลือให้บริการได้เพียงขบวนรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) เพียง 3 ขบวนเท่านั้นทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกอย่างมากนั้น
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด หรือแอร์พอร์ตลิ้งก์ เปิดเผยว่า วานนี้ (30 มี.ค.) สามารถเปิดให้บริการรถ City Line ได้เพิ่มอีก 1 ขบวน เป็น 4 ขบวน ด้วยการใช้วิธีกลับด้านตัวแปลงถ่านที่ยังไม่สึกหรออีกฝั่งขึ้นมาใช้งาน
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ได้แจ้งว่า ตัวแปรงถ่านที่สั่งซื้อเร่งด่วน จำนวน 16 ชุด จะมาถึงไทยในช่วงบ่ายวันนี้ (31 มี.ค.) หากไม่มีปัญหาใดๆ จะนำมาติดเข้ากับขบวนได้ทันทีและเร่งเปิดให้บริการรถ Express Line ตามตารางการเดินรถปกติให้ทันช่วงเย็นของวันเดียวกัน พร้อมกันนี้ ร.ฟ.ท.ได้ทำหนังสือถึงซีเมนส์แจ้งขอสงวนสิทธิ์เรียกค่าเสียหายจากซีเมนส์แล้ว เนื่องจากการหยุดให้บริษัทได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแอร์พอร์ตลิงก์และทำให้สูญรายได้ประมาณวันละ 1.2 ล้านบาทด้วย
นายภากรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามปกติรถไฟฟ้าจะต้องมีสต๊อกอะไหล่มูลค่าประมาณ 10% ของราคารถ ไว้รองรับการให้บริการ ซึ่งรถแอร์พอร์ตลิ้งก์มูลค่าประมาณ 4,650 ล้านบาท จะต้องมีสต๊อกอะไหล่ประมาณ 460 ล้านบาท แต่เนื่องจากในช่วงเริ่มต้นโครงการมีปัญหางบประมาณจึงไม่ได้ทำสัญญาในส่วนนี้ไว้ทำให้ไม่มีสต๊อกอะไหล่ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ขณะนี้ได้ทำแผนเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เพื่อของบประมาณ 270 ล้านบาท ในการจัดซื้ออะไหล่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เฉพาะที่ต้องสั่งบริษัทซีเมนส์ ผลิต ซึ่งกระบวนการสั่งซื้อและผลิตใช้เวลาประมาณ 1 ปีจึงต้องทำแผนล่วงหน้า
“เรื่องนี้บอร์ดบริษัทฯ จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้งบประมาณจากไหน อาจจะต้องใช้งบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในปี 2554 ที่ตั้งไว้สำหรับแอร์พอร์ตลิ้งค์ก่อน เนื่องจากบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. มีทุนจดทะเบียนเพียง 140 ล้านบาท ส่วนกรณีการขาดอะไหล่ครั้งนี้ ซีเมนส์ต้องรับผิดชอบเนื่องจากยังอยู่ในระยะรับประกัน ซึ่งจะครบกำหนด 2 ปี ในเดือนมี.ค.2555ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ “นายภากรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แอร์พอร์ตลิ้งค์ยังมีปัญหาที่น่าเป็นห่วง ซึ่งได้แจ้งให้ซีเมนส์เร่งแก้ไขแล้ว เช่น จานเบรกร้าว ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นปัญหาของการตั้งซอฟต์แวร์ระบบการเบรก, ผ้าเบรกมีการสึกในอัตราเร็วกกว่าปกติถึง 2 เท่า แต่ยืนยันว่า การเดินรถให้บริการยังคงมีความปลอดภัย 100% แม้จะมีการตรวจพบอาการผิดปกติต่างๆ เนื่องจากเมื่อมีปัญหาระบบจะแจ้งและทำการหยุดขบวนรถอัตโนมัติทันที
