วานนี้(28 มี.ค) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวในโครงการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมหัวหน้างานที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ประจำปี พ.ศ.2554 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ว่า ตอนนี้คงไม่ต้องถามว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะจากการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุจะมีการยุบสภาช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมที่จะถึง รวมทั้งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดี
“การเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน ประกอบกับการทำงานของ กกต.ทั้ง 5 คนก็กำลังวางแผนกำหนดพื้นที่เขตเลือกตั้งให้ชัดเจน โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ประชุมวางแผนกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ เพื่อการเลือกตั้งที่จะถึง เป็นที่ยอมรับแก่สังคม”
นายประพันธ์ กล่าวยอมรับว่ามีความกังวลในการสร้างความวุ่นวายจากกลุ่มมือที่ 3 โดยได้ให้กกต. แต่ละจังหวัด ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้ดำเนินการทันทีหากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น หรือ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของแต่ละพรรค ลงพื้นที่ไปหาเสียงไม่ได้ ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง และควบคุมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ จะเชิญว่าผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละจังหวัด มาหารือถึงกรอบและแบบแผนในการเลือกตั้ง อีกทั้ง ยังฝากไปยังประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นกับทุจริต
นายประพันธ์ ระบุต่อว่า กระแสข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องในเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ ตนขอให้มองไปยังกระแสโลกยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่ทุกประเทศมีแนวทางที่มุ่งสู่ระบอบประชาธิปไตย ประกอบกับบรรยากาศภายในประเทศ คงไม่มีใครอยากให้เกิดการปฏิวัติอย่างแน่นอน
**กกต.แบ่งเขตส.ส.เสร็จกลางเม.ย.นี้
นายประพันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส. ว่า คาดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะแล้วเสร็จ ขณะนี้แบ่งเขตในเขตเลือกตั้งในจังหวัดต่างๆ ก็ได้มีการประกาศรูปแบบการแบ่งเขตพร้อมกับรับฟังความคิดเห็นประชาชนและตัวแทนพรรคการเมือง
สำหรับในพื้นที่กทม.ที่มีการท้วงติงว่า ยังไม่มีการแบ่งเขตในบางเขตให้ชัดเจน นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะไปติดตามสอบถาม และการแบ่งเขตส.ส.เมื่อเข้าสู่การพิจารณากกต.กลางก็จะต้องเร่งพิจารณาเสร็จก่อนกลางเดือนเมษายนนี้
**“สดศรี”กลับลำไม่ออกพร้อมจัดเลือกตั้ง
นางสดศรี สัตธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวที่จ.ขอนแก่น ถึงกรณีที่เคยระบุว่าอาจจะลาออกหากมีการกดดัน ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องตีความที่ผิดพลาด เพราะแรงกดดันนี้จะหมายถึงกรณีที่หากกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง สามฉบับยังไม่ผ่านและมีการยุบสภาเกิดขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กกต. ต้อง ประกาศระเบียบมาใช้
“ เรายินดีที่จะจัดการเลือกตั้งเต็มที่ แต่เมื่อไม่มีกฎหมายรองรับ เราก็จะมีปัญหาทันที นี่เป็นจุดสำคัญ และอาจจะถูกฟ้องร้องหากผลเลือกตั้งที่ออกมาก้ำกึ่ง”
เมื่อถามถึงการลาออกจากตำแหน่ง นางสดศรีกล่าวว่า เรื่องการลาออก มันเรื่องผลพลอยได้ เพราะตนไปสมัครเป็นสมัชชาปฏิรูปกฎหมาย แต่โอกาสได้ยากมาก เพราะมีคนสมัครถึง 234 คนและต่างเป็นคนที่มีคุณภาพ ตนก็ไม่ได้วิเศษไปกว่าคนอื่น จึงไม่คิดว่าจะได้ แต่เมื่อมีเรื่องนี้เขาก็คงไม่เอาตนเพราะกลัวว่าจะไม่มีคนจัดการเลือกตั้ง แต่หากมีองค์กรอิสระอื่นเปิดก็ไปสมัคร ตนเป็นคนธรรมดาไม่ตายก็ต้องหาสิ่งที่ดี เมื่อเห็นอันตราย ไม่ใช่ต้องชนหรือกระโดดเข้ากองไฟ คงไม่มีใคร เสียสละขนาดนั้น
ทั้งนี้หากยุบสภาก่อนกฎหมายผ่านสภา จะลาออกหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า “ก็ต้องอยู่ ก็ต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง เขาลิขิตมาแล้ว แต่ก็ต้องดูว่าเราจะสู้คดีแบบไหน เราต้องเตรียมพร้อมที่จะสู้คดี และขอยืนยันว่าไม่เคยท้อ ถ้าท้อต้องท้อตั้งแต่ปีแรก เพราะ กกต. ชุดนี้เป็นชุดที่ไม่เคยสงบ บ้านเมืองมีปัญหาตลอด เป็นเรื่องที่ไม่ถึงเช่นกัน เพราะถ้านึกถึงก็คงเป็นผู้พิพากษาอาวุโสต่อไปแล้ว” นางสดศรีกล่าว
**วอนทุกฝ่ายยอมรับผลเลือกตั้ง
ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กทม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “Enhancing Thailand’s Competitiveness Over the Next Decade” ใจความตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งที่จะถึงเร็ววันนี้ จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางการเมือง ตนมั่นใจว่าเมื่อคนไทยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย การเมืองไทยจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น เพราะการเมืองไทยยังมีพื้นฐานดีอยู่ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ารัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้ง แม้จะเป็นรัฐบาลผสม คงไม่มีปัญหาใด หากทุกพรรค ทุกกลุ่มการเมืองจะมองการเมืองที่ผลการเลือกตั้ง ไม่ใช่บนท้องถนน ซึ่งการแสดงความเห็นด้วยการชุมนุมประท้วงสามารถทำได้ แต่ควรจะชุมนุมอย่างสงบ และฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ให้น้อยที่สุด เพื่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
** เทือกเชื่อการเมืองไม่คลุมเครือ
นายุสเทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ถนนทุกสายมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง พรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลและพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่ทุกคนก็เตรียมตัวไปสู่ การเลือกตั้งทั้งนั้น การเมืองวันนี้มีความชัดเจนไม่คลุมเครือ
ส่วนใครที่จะมาเบี่ยงเบนขัดขวาง พี่น้องประชาชนเขาไม่ยอมหรอกและทำไม่ได้ ทั้งนี้ยังยืนยันว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเช่นการปฏิวัติรัฐประหาร การยึดอำนาจเด็ดขาด เพราะว่าบรรดาผู้นำกองทัพทุกท่านที่รู้จัก ตนเรียนแทนว่า เขาปรารถนาที่จะเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อยากเห็นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความราบรื่น
**เฉไฉ! “มาร์ค”ท้า“แม้ว”ดีเบต
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปท้าทายให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาดีเบตแข่งขันในการเลือกตั้ง ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า คงฟังสับสน เพราะนายกรัฐมนตรีได้ชักชวนบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองโดยเฉพาะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือคนที่พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจว่าจะให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายกฯจึงอยากชวนคน ๆนี้มาพูดเสนอแนวทางต่อประชาชนผ่านโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้มีโอกาสรับรู้รับทราบว่าคนที่เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคมีวิสัยทัศน์อย่างไร
ส่วนที่คนประชาธิปัตย์ พยายามบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงอยู่ตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องแยกกันเรื่องที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง นั่นใช่ แต่เรื่องจะให้ใครมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นอีกคนหนึ่ง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่อยู่ในฐานะที่จะกลับมาลงสนามแข่งเลือกตั้งได้ ก็ต้องเป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามแย้งว่า คำพูดที่ว่าคนที่อยู่ดูไบให้มาดีเบตกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่สั่งให้มาออกทีวีใครก็มาออกไม่ได้ ถามว่ากรณีนายกฯได้เปรียบเพราะซ้อมบนโพลเดียมทุกวัน นายสุเทพ กล่าวว่า คนอื่นเขาก็อาจจะแอบซ้อมอยู่ทุกวันก็ได้ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร
**เด็กปชปให้ค่า“พิชัย” แค่นอมินี
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย หริพทะพันธุ์ อดีตรมช.คลัง คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ออกมารับคำท้าดีเบตแทนพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ ต้องการที่จะให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง และเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีความสับสนในตัวผู้นำของพรรคและทุกครั้งที่มีการเสนอนโยบายสู่ประชาชนก็ล้วนแล้วแต่เป็นการเสนอมาจากตัวพ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ควรจะให้พ.ต.ท.ทักษิณออกมาดีเบทกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ
“การที่นายพิชัยออกมารับคำท้าแทนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องของลูกน้องประเภทนายว่า ขี้ข้าพลอย ไม่ควรที่จะยกตัวขึ้นมาดีเบทกับนายกฯ คนระดับนายพิชัยซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีฯขัดตาทัพ”
**ลูกบัญญัติลงสนามกทม.ประเวศ
นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ส.ส.กทม.เขต 8 (สวนหลวง ประเวศ บางนา พระโขนง) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน บุตรชายนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป. จะลงมาสมัคร ส.ส.กทม.ในเขตประเวศว่า เป็นเรื่องจริงเพราะนายณัฎฐ์มีบ้านอยู่ในเขตดังกล่าว และทำพื้นที่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว
**ตั้ง“เพื่อธรรม”อะไหล่“เพื่อไทย”
นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำคนสำคัญกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า เชื่อว่ากำลังมีสัญญาณขบวนการที่จะยุบพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องมีพรรคสำรองไว้ โดยกลุ่มได้รับสัญญาณจากผู้ใหญ่ในการตั้งพรรคสำรองในชื่อ “พรรคเพื่อธรรม” โดยได้รับสมัครสมาชิกทั่วประเทศ ซึ่งตนจะเดินทางเข้าจดทะเบียนพรรคในสัปดาห์หน้า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้นำกรณีที่นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ที่ได้โหวตสวนกับทางมติของพรรคในหการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาหารือในพรรค ซึ่งถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมและขัดต่อข้อบังคับของพรรค หากพบว่ามีความผิดก็อาจโดนโทษตัดสิทธิการลงสมัคร
“การเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน ประกอบกับการทำงานของ กกต.ทั้ง 5 คนก็กำลังวางแผนกำหนดพื้นที่เขตเลือกตั้งให้ชัดเจน โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ประชุมวางแผนกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ เพื่อการเลือกตั้งที่จะถึง เป็นที่ยอมรับแก่สังคม”
นายประพันธ์ กล่าวยอมรับว่ามีความกังวลในการสร้างความวุ่นวายจากกลุ่มมือที่ 3 โดยได้ให้กกต. แต่ละจังหวัด ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้ดำเนินการทันทีหากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น หรือ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของแต่ละพรรค ลงพื้นที่ไปหาเสียงไม่ได้ ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง และควบคุมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ จะเชิญว่าผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละจังหวัด มาหารือถึงกรอบและแบบแผนในการเลือกตั้ง อีกทั้ง ยังฝากไปยังประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นกับทุจริต
นายประพันธ์ ระบุต่อว่า กระแสข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องในเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ ตนขอให้มองไปยังกระแสโลกยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่ทุกประเทศมีแนวทางที่มุ่งสู่ระบอบประชาธิปไตย ประกอบกับบรรยากาศภายในประเทศ คงไม่มีใครอยากให้เกิดการปฏิวัติอย่างแน่นอน
**กกต.แบ่งเขตส.ส.เสร็จกลางเม.ย.นี้
นายประพันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส. ว่า คาดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะแล้วเสร็จ ขณะนี้แบ่งเขตในเขตเลือกตั้งในจังหวัดต่างๆ ก็ได้มีการประกาศรูปแบบการแบ่งเขตพร้อมกับรับฟังความคิดเห็นประชาชนและตัวแทนพรรคการเมือง
สำหรับในพื้นที่กทม.ที่มีการท้วงติงว่า ยังไม่มีการแบ่งเขตในบางเขตให้ชัดเจน นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะไปติดตามสอบถาม และการแบ่งเขตส.ส.เมื่อเข้าสู่การพิจารณากกต.กลางก็จะต้องเร่งพิจารณาเสร็จก่อนกลางเดือนเมษายนนี้
**“สดศรี”กลับลำไม่ออกพร้อมจัดเลือกตั้ง
นางสดศรี สัตธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวที่จ.ขอนแก่น ถึงกรณีที่เคยระบุว่าอาจจะลาออกหากมีการกดดัน ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องตีความที่ผิดพลาด เพราะแรงกดดันนี้จะหมายถึงกรณีที่หากกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง สามฉบับยังไม่ผ่านและมีการยุบสภาเกิดขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กกต. ต้อง ประกาศระเบียบมาใช้
“ เรายินดีที่จะจัดการเลือกตั้งเต็มที่ แต่เมื่อไม่มีกฎหมายรองรับ เราก็จะมีปัญหาทันที นี่เป็นจุดสำคัญ และอาจจะถูกฟ้องร้องหากผลเลือกตั้งที่ออกมาก้ำกึ่ง”
เมื่อถามถึงการลาออกจากตำแหน่ง นางสดศรีกล่าวว่า เรื่องการลาออก มันเรื่องผลพลอยได้ เพราะตนไปสมัครเป็นสมัชชาปฏิรูปกฎหมาย แต่โอกาสได้ยากมาก เพราะมีคนสมัครถึง 234 คนและต่างเป็นคนที่มีคุณภาพ ตนก็ไม่ได้วิเศษไปกว่าคนอื่น จึงไม่คิดว่าจะได้ แต่เมื่อมีเรื่องนี้เขาก็คงไม่เอาตนเพราะกลัวว่าจะไม่มีคนจัดการเลือกตั้ง แต่หากมีองค์กรอิสระอื่นเปิดก็ไปสมัคร ตนเป็นคนธรรมดาไม่ตายก็ต้องหาสิ่งที่ดี เมื่อเห็นอันตราย ไม่ใช่ต้องชนหรือกระโดดเข้ากองไฟ คงไม่มีใคร เสียสละขนาดนั้น
ทั้งนี้หากยุบสภาก่อนกฎหมายผ่านสภา จะลาออกหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า “ก็ต้องอยู่ ก็ต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง เขาลิขิตมาแล้ว แต่ก็ต้องดูว่าเราจะสู้คดีแบบไหน เราต้องเตรียมพร้อมที่จะสู้คดี และขอยืนยันว่าไม่เคยท้อ ถ้าท้อต้องท้อตั้งแต่ปีแรก เพราะ กกต. ชุดนี้เป็นชุดที่ไม่เคยสงบ บ้านเมืองมีปัญหาตลอด เป็นเรื่องที่ไม่ถึงเช่นกัน เพราะถ้านึกถึงก็คงเป็นผู้พิพากษาอาวุโสต่อไปแล้ว” นางสดศรีกล่าว
**วอนทุกฝ่ายยอมรับผลเลือกตั้ง
ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กทม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “Enhancing Thailand’s Competitiveness Over the Next Decade” ใจความตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งที่จะถึงเร็ววันนี้ จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางการเมือง ตนมั่นใจว่าเมื่อคนไทยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย การเมืองไทยจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น เพราะการเมืองไทยยังมีพื้นฐานดีอยู่ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ารัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้ง แม้จะเป็นรัฐบาลผสม คงไม่มีปัญหาใด หากทุกพรรค ทุกกลุ่มการเมืองจะมองการเมืองที่ผลการเลือกตั้ง ไม่ใช่บนท้องถนน ซึ่งการแสดงความเห็นด้วยการชุมนุมประท้วงสามารถทำได้ แต่ควรจะชุมนุมอย่างสงบ และฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ให้น้อยที่สุด เพื่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ
** เทือกเชื่อการเมืองไม่คลุมเครือ
นายุสเทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ถนนทุกสายมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง พรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลและพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่ทุกคนก็เตรียมตัวไปสู่ การเลือกตั้งทั้งนั้น การเมืองวันนี้มีความชัดเจนไม่คลุมเครือ
ส่วนใครที่จะมาเบี่ยงเบนขัดขวาง พี่น้องประชาชนเขาไม่ยอมหรอกและทำไม่ได้ ทั้งนี้ยังยืนยันว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเช่นการปฏิวัติรัฐประหาร การยึดอำนาจเด็ดขาด เพราะว่าบรรดาผู้นำกองทัพทุกท่านที่รู้จัก ตนเรียนแทนว่า เขาปรารถนาที่จะเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อยากเห็นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความราบรื่น
**เฉไฉ! “มาร์ค”ท้า“แม้ว”ดีเบต
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปท้าทายให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาดีเบตแข่งขันในการเลือกตั้ง ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า คงฟังสับสน เพราะนายกรัฐมนตรีได้ชักชวนบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองโดยเฉพาะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือคนที่พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจว่าจะให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายกฯจึงอยากชวนคน ๆนี้มาพูดเสนอแนวทางต่อประชาชนผ่านโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้มีโอกาสรับรู้รับทราบว่าคนที่เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคมีวิสัยทัศน์อย่างไร
ส่วนที่คนประชาธิปัตย์ พยายามบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงอยู่ตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องแยกกันเรื่องที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง นั่นใช่ แต่เรื่องจะให้ใครมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นอีกคนหนึ่ง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่อยู่ในฐานะที่จะกลับมาลงสนามแข่งเลือกตั้งได้ ก็ต้องเป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามแย้งว่า คำพูดที่ว่าคนที่อยู่ดูไบให้มาดีเบตกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่สั่งให้มาออกทีวีใครก็มาออกไม่ได้ ถามว่ากรณีนายกฯได้เปรียบเพราะซ้อมบนโพลเดียมทุกวัน นายสุเทพ กล่าวว่า คนอื่นเขาก็อาจจะแอบซ้อมอยู่ทุกวันก็ได้ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร
**เด็กปชปให้ค่า“พิชัย” แค่นอมินี
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย หริพทะพันธุ์ อดีตรมช.คลัง คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ออกมารับคำท้าดีเบตแทนพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ ต้องการที่จะให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง และเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีความสับสนในตัวผู้นำของพรรคและทุกครั้งที่มีการเสนอนโยบายสู่ประชาชนก็ล้วนแล้วแต่เป็นการเสนอมาจากตัวพ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ควรจะให้พ.ต.ท.ทักษิณออกมาดีเบทกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ
“การที่นายพิชัยออกมารับคำท้าแทนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องของลูกน้องประเภทนายว่า ขี้ข้าพลอย ไม่ควรที่จะยกตัวขึ้นมาดีเบทกับนายกฯ คนระดับนายพิชัยซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีฯขัดตาทัพ”
**ลูกบัญญัติลงสนามกทม.ประเวศ
นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ส.ส.กทม.เขต 8 (สวนหลวง ประเวศ บางนา พระโขนง) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน บุตรชายนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป. จะลงมาสมัคร ส.ส.กทม.ในเขตประเวศว่า เป็นเรื่องจริงเพราะนายณัฎฐ์มีบ้านอยู่ในเขตดังกล่าว และทำพื้นที่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว
**ตั้ง“เพื่อธรรม”อะไหล่“เพื่อไทย”
นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำคนสำคัญกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า เชื่อว่ากำลังมีสัญญาณขบวนการที่จะยุบพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องมีพรรคสำรองไว้ โดยกลุ่มได้รับสัญญาณจากผู้ใหญ่ในการตั้งพรรคสำรองในชื่อ “พรรคเพื่อธรรม” โดยได้รับสมัครสมาชิกทั่วประเทศ ซึ่งตนจะเดินทางเข้าจดทะเบียนพรรคในสัปดาห์หน้า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้นำกรณีที่นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ที่ได้โหวตสวนกับทางมติของพรรคในหการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาหารือในพรรค ซึ่งถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมและขัดต่อข้อบังคับของพรรค หากพบว่ามีความผิดก็อาจโดนโทษตัดสิทธิการลงสมัคร