กกต.ด้านบริหารกิจการพรรคการเมืองเดินหน้าจัดเลือกตั้ง วางแผนประชุม กกต.ระดับจังหวัด 4 เม.ย. ปฏิเสธ กกต.จัดทำสัตยาบันไม่ลาออกก่อนการเลือกตั้ง อ้างโตๆ กันแล้ว พร้อมปัดข้อเสนอนายกฯ เป็นเจ้าภาพจับพรรคการเมืองลงสัตยาบันห้ามขัดขวางเลือกตั้งชี้มีโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์อยู่แล้ว แต่เป็นห่วงมือที่ 3 สร้างสถานการณ์มากกว่า เผยหากตำแหน่ง กกต.ว่าง กลไกสรรหาตาม รธน.ไม่ปล่อยให้ว่างนาน
วันนี้ (28 มี.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกิจการพรรคการเมือง กล่าวตอนหนึ่งระหว่างมอบนโยบายให้แก่ผู้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้างานกกต.ใหม่ประจำปี 2554 ถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า ตนเจอคำถามเยอะไม่เว้นแม้แต่จากพระว่าจะมีเลือกตั้งจริงหรือ ซึ่งไม่ควรถามอย่างนี้แล้วเพราะนายกฯประกาศแล้วว่า จะนำทูลเกล้าฯ ร่างพ.ร.ฎ.ยุบสภาสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. ดังนั้นมีเลือกตั้งชัดเจนอยู่แล้ว อีกทั้ง รมว.กห. ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็บอกว่าสนับสนุนเลือกตั้งให้ทหารเป็นกลางทางการเมือง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จึงไม่ควรมีข้อสงสัยอะไรแล้วเดินเพื่อจัดการเลือกตั้ง ซึ่งในวันที่4เม.ย.นี้ก็จะเชิญประธาน กกต.จว. กกต.จว.และ ผอ.กต.จว.มาวางแผนประชุมเตรียมการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ที่มีการถามกันว่า กกต.จะลาออกหรือไม่ ก็ควรเลิกถามเช่นกัน ไม่มีเหตุผลอะไรต้องลาออกให้เกิดความยุ่งยากไปอีก กกต.เดินหน้าจัดเลือกตั้งอย่างเดียว คนที่พูดเรื่องกกต.ลาออกบางคนก็ไม่ค่อยดูข้อกฎหมาย ซึ่งตาม พ.ร.ป.กกต.มาตรา 8 ก็ระบุชัดว่า องค์ประชุมกกต.ต้องมีไม่น้อยกว่า 3 คน ดังนั้น ถ้ามี กกต.คนใดลาออกแล้วยังเหลือ กกต.3 คนก็ไม่มีปัญหา อีกทั้งโครงสร้างการสรรหา กกต.ใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างตามรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีทางปล่อยให้ตำแหน่งว่างนาน เพราะกำหนดว่าในคณะกรรมการสรรหา 7 คน หากขาดบุคคลใดไปก็ให้เท่าที่มีอยู่ปฏิบัติหน้าที่สรรหาต่อไป ดังนั้น แม้จะยุบสภาแล้วกรรมการสรรหา ไม่มีประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้าน ที่เหลือก็ยังเดินหน้าสรรหาได้ หรือถ้าคณะกรรมการสรรหาทำหน้าที่ไม่ได้ก็ยังมีที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหา กกต.ได้อีกทางหนึ่ง ฉะนั้น ไม่มีทางที่ตำแหน่งจะว่างนาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ กกต.ยังไม่มีการพูดถึงการที่จะยับยั้งนางสดศรี สัตยธรรม หากมีการลาออกจริง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มี กกต.คนไหนลาออก ส่วนตัวก็ไม่มีใครมากดดัน แม้แต่โทรศัพท์มาก็ไม่มี และมองว่า กกต.ชาย 4 คนก็ไม่ต้องทำสัตยาบันร่วมกันว่าจะไม่ลาออกจนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ เพราะก็โตๆ กันแล้ว
“ที่พูดกันถึงการปฏิวัติรัฐประหาร กกต.ก็ไม่วอกแวก เพราะจะเห็นว่าสถานการณ์โลกขณะนี้หลายประเทศล้วนเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย สะท้อนว่าไม่มีระบอบใดดีกว่าประชาธิปไตยอีกแล้ว ดูอย่างกกต.เสนอร่างแก้ไขกฎหมายลูก 3 ฉบับต่อสภา น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ไม่มีใครคัดค้านเลย แสดงว่าทุกคนเห็นพ้องที่จะต้องร่วมกันออกกฎหมายเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และเป็นสิ่งที่บอกว่าในระบอบประชาธิปไตยอย่าไปหวังพึ่งอัศวินม้าขาว ประชาชนต้องตัดสินชะตาตัวเอง ซึ่งการพิจารณากฎหมายลูกก็คาดว่าในส่วนของรัฐสภาน่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเม.ย.นี้ และที่ต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็ไม่คิดว่าน่าจะมีปัญหา ดังนั้น ที่นายกฯ คาดว่าจะยุบสภาช่วงสัปดาห์แรก พ.ค.ก็น่าจะใกล้เคียง หรือหากตัดสินใจยุบสภาก่อนกฎหมายลูกแล้วเสร็จ กกต.ก็สามารถออกประกาศกำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์การเลือกตั้งได้”
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า เวลานี้ผลสำรวจความเห็นจากหลายสำนักตรงกันว่า มองการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นว่ารุนแรง คือ 1.ใช้เงินเลือกตั้งที่แข่งขันครั้งหน้าต่อสู้เต็มที่รวมถึงค่าใช้จ่ายๆต่างๆในการหาเสียง ซึ่งในฐานะ กกต.ที่บังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำให้ประชาชนมีความมั่นใจ ที่ผ่านมา เราก็บังคับใช้กฎหมายกับทุกพรรค ไม่สนใครจะเป็นคนดัง เป็นพรรคใหญ่เก่าแก่ กกต.ก็แจกใบเหลืองใบแดง สั่งยุบพรรค 2.เรื่องความสงบเรียบร้อยในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่มีการเกรงว่าบางพรรคอาจจะไปหาเสียงในบางพื้นที่ไม่ได้ ส่วนตัวไม่ห่วงผู้สมัคร หรือพรรค เพราะคิดว่าเขาเข้าใจว่าหากรู้เห็นกับการเอามวลชนมาประท้วง ขัดขวาง ก็มีสิทธิถูกกต.แจกใบเหลือง ใบแดงได้ แต่เป็นห่วงมือที่ 3 มากกว่า เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร ดังนั้นเจ้าหน้าที่กกต.ต้องรู้จักสอดส่อง และทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ รวมทั้งศึกษากฎระเบียบต่างๆ ให้ละเอียดรอบคอบ
นายประพันธ์ยังได้กำชับให้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการแต่งตั้ง กกต.เขต กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง กรรมการนับคะแนน เพราะระยะเวลามีความกระชั้นชิดมาก ซึ่งขณะนี้ในส่วนของกกต.กลางก็เหลือเพียงในเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้ง 375 เขต ที่ทาง กกต.จังหวัดเสนอมา 3 รูปแบบและกกต.ต้องมีมติให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ รวมทั้งการแต่งตั้ง กกต.จังหวัดที่อยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติ เพื่อคัดให้ได้คนที่เป็นกลางทางการเมืองจริง ซึ่งในส่วนของจ.บึงกาฬ ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ กกต.ก็มีมติให้ กกต.จว.หนองคายไปปฏิบัติหน้าที่เป็น กกต.จว.บึงกาฬ และดำเนินการในเรื่องต่างๆ ให้พร้อมต่อการเลือกตั้ง
“ขอให้ทุกคนตั้งใจปฏิบัติงานเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ซึ่งจะมีอย่างแน่นอน โดยต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้เรียบร้อย เพื่อประเทศชาติจะได้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะถ้าเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เรียบร้อย ประเทศชาติมันก็จะเดินหน้าไปอย่างวุ่นวาย ฉะนั้นต้องช่วยกันคิดและมองว่าทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นที่น่าเชื่อถือยอมรับ”
นายประพันธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการที่นายกฯ ต้องการให้ กกต.เป็นเจ้าภาพเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมลงสัตยาบันเพื่อไม่ให้มีการขัดขวางการเลือกเลือกตั้งว่า ทุกครั้งที่จะมีเลือกตั้ง กกต.ต้องเชิญผู้แทนพรรคการเมืองมาทำความเข้าใจเรื่องกฎ ระเบียบต่างๆ และขอความร่วมมือทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งการที่ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน อยากเลือกตั้ง ก็ทำให้คิดว่าทุกพรรคน่าจะให้ความร่วมมือ โดยในส่วนกกต.การก็ทำโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์อยู่แล้ว แต่ที่เป็นห่วงก็คือเรื่องมือที่ 3 แม้ตอนนี้จะยังไม่มีรายงานเข้ามาก็ต้องคิดป้องกัน โดยมีประชุมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เข้ามาช่วยดูแลก่อนเลือกตั้งก็ให้มีการตรวจตราอาวุธสงครามที่ครั้งนี้จะเข้มข้นขึ้น และมีการพูดคุยเรื่องนี้กับตัวแทนพรรคการเมือง