xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ปลุกลูกพรรครับศึก ท้า “แม้ว” ดีเบตเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประชุมใหญ่ประชาธิปัตย์ “อภิสิทธิ์” ย้ำยุบสภาไม่เกิน 7 วันแรกเดือน พ.ค. ชี้เลือกตั้งครั้งหน้าสูสีแน่ไม่มีใครสบาย ลั่นพร้อมสู้ศึกทุกรูปแบบ ไม่ยอมให้ข่มขู่ ท้า “สรยุทธ” ขณะเชิญออกรายการ ให้เชิญคู่แข่งที่ “คนดูไบ” มาดีเบตศึกเลือกตั้งด้วย


วันนี้ (26 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวสุนทรพจน์ขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรับรองงบการเงินของพรรคในปี 2553 และพิจารณาแผนดำเนินงานปี 2555 ว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคที่ทำให้เราผ่านอุปสรรคปี 2553 มาได้ เพราะปีที่ผ่านมาถือเป็นปีรุนแรงที่สุด และคู่แข่งทางการเมืองใช้ทุกวิธีทางกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนวันยุบสภาที่ตนได้ประกาศว่าต้นเดือน พ.ค.แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน เมื่อตนไม่รู้คนอื่นก็ไม่น่ารู้ ซึ่งการยุบสภาจะเกิดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.แต่ยังไม่ระบุวัน สัปดาห์หนึ่งมี 7 วัน คงไม่ใช่วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนถูกถามเสมอว่าทำไมต้องยุบสภา ถูกถามในประเทศและต่างประเทศ คนเรียกร้องให้ยุบสภา มาวันนี้กลับมาถามทำไมจะยุบ แต่การตัดสินใจ ตนมองการพัฒนาประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ ขณะนี้ยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งทำกิจการทางการเมือง แทนที่จะตั้งหลักให้ประเทศก้าวหน้าอย่างไร แต่ก็ยังวังวนกับความขัดแย้ง ซึ่งเสียงคนส่วนใหญ่อยากให้พอแล้ว ดังนั้นการเลือกตั้งจะทำให้เสียงคนส่วนใหญ่มาก กลบเสียงส่วนของคนบางกลุ่มเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า

“ใครบอกการเลือกตั้งครั้งนี้เราจะชนะสบายๆ หรือเพื่อไทยจะชนะสบายๆ ซึ่งไม่จริง ของจริงคือ การเลือกตั้งสูสีมาก อยู่ที่เราจะเข้าใจว่าการเดินหน้าของประเทศไปทางไหน ผมก็มีความเชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้ความสำคัญ เชื่อว่าคู่แข่งเราทำทุกรูปแบบ และการต่อสู้ทางการเมืองใช้พรรคการเมืองคู่ขนานกับการเคลื่อนมวลชน ถูกผิดกฎหมาย ไม่ทราบ แต่เขาทำได้หมด เราไม่ต้องโอดครวญว่า เล่นสกปรก เอาเปรียบกันหรือไม่ เพราะมาอย่างไร เราก็สู้ เราไม่ยอมให้คนที่ข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรงมาบริหารประเทศ คู่แข่งของเราวาระเยอะ เพราะยังไม่รู้ว่าคนที่เป็นหัวหน้าตัวจริงต้องการอะไร บางทีก็พูดถึงประชาชน แต่ก็วกกลับไปที่เดิม ทางเลือกประชาชนจะเดินหน้าหรือเดินวนเวียนกับความขัดแย้ง มีทางเลือกชัด แต่ยังไม่ชัด ที่เขายังไม่รู้จะเสนอใครมาเป็นนายกฯเท่านั้นเอง เมื่อเช้าผมไปอวยพรวันเกิดที่ช่อง 3 เจอนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของประเทศไทย เชิญออกรายการก่อนเลือกตั้ง ผมก็บอกว่า ได้ขอให้เอาคู่แข่งจากดูไบมาออกด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งที่นายอภิสิทธิ์กล่าวสุนทรพจน์ได้กล่าวแซวนายสุเทพว่า “ดีใจที่ท่านเลขาธิการพรรคพูดถึงโซเชียลมีเดีย ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้เปิดข้อความทางโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้เปิดอ่านเลย ดังนั้น ที่พรรคมีความมุ่งมั่นในการทำสารสนเทศเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้การเชื่อมโยงติดต่อในพรรคเป็นเอกภาพ และทำให้การดำเนินงานทางการเมืองมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้ขอสมาชิกพรรครับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญฯ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2553 รายงานการดำเนินกิจการของพรรค รับรองงบการเงิน รวมทั้งพิจารณาแผนการใช้เงิน และแผนการดำเนินงานประจำปี 2555 มีสมาชิกพรรคใหม่จำนวน 7,564 คน มีสมาชิกลาออก 864 คน สรุปยอดสมาชิกพรรค ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2553 มีจำนวน 2,873,961 คน ส่วนงบประมาณรายรับในรอบปี จำนวน 36,697,216.24 บาท รายจ่าย 74,852,917.93 บาท และมีหนี้สิน 22,020,489.90 บาท รายรับจากการจัดกิจกรรมการระดมทุนของพรรค 639,433 บาท และรายรับจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง 12,137,281.38 บาท

จากนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ต้องเอาแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินมาขอรับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ เพื่อจะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กตต.) วันที่ 31 มี.ค.นี้ ส่วนแผนจริงๆ ที่สมบูรณ์จะต้องมาประชุมใหญ่กันอีกครั้ง เพื่อรับรองแผนการดำเนินงานปี 2555 โดยจะเป็นช่วงปลายเดือนก.ค. ก่อนจะยื่นผลการรับรองให้ กกต.ได้ทันในเดือน ส.ค. แต่ไม่รู้ว่าครั้งนั้นจะมาประชุมในฐานะฝ่ายค้านหรือรัฐบาลคงต้องมาลุ้นกัน นอกจากนี้ แผนนี้จะทำให้เราสามารถขยายสมาชิกเป็น 4 แสนคนในปีหน้า โดยพรรคจะจัดระดมทุนพรรคให้มากขึ้น เพราะปีที่ผ่านมา มีคดียุบพรรค ซึ่งกกต.ได้สั่งอายัดเงินของเราไปทั้งหมด แม้คดีสิ้นสุด และกกต.ได้คืนเงินให้พรรค แต่พรรคก็มีฐานะการเงินสะดุด จึงทำให้บัญชีของพรรคติดลบไป 38 ล้านบาทเศษ

นายสุเทพกล่าวต่อว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก จึงจำเป็นต้องจัดระดมทุนให้มากขึ้น ทั้งแข่งกอล์ฟ โบว์ลิ่ง จัดคอนเสิร์ต รวมทั้งจำหน่ายของที่ระลึกต่าง นอกจากนี้ พรรคจะเน้นการประชาสัมพันธ์และจัดทำโฆษณาเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางการเมือง เพราะปัจจุบันมีการบิดเบือนให้ข้อมูลที่สับสนกับประชาชน ในฐานะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เป็นหลักในสังคม เราต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งเป็นเขตเดียวเบอร์เดียวดังนั้นทุกเขตจะต้องจัดตั้งสาขาพรรค แต่ต้องอยู่ที่ความพร้อมของสมาชิกพรรคด้วย แต่ตอนนี้อยากให้สมาชิกพรรคสนใจเรื่องการเลือกตั้งทำอย่างไรให้พรรคได้คะแนนเยอะๆ ก่อน





กำลังโหลดความคิดเห็น