xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด” ลั่นไขก๊อก หวั่นซ้ำรอยแก๊ง 3 หนา “ประพันธ์-วิสุทธิ์” ยังแทงกั๊ก ลุยจัดเลือกตั้งสนองตัณหา รบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม
“สดศรี” กร้าวพร้อมจะลาออกจาก กกต.เหตุถูกโดดเดี่ยวเป็นตัวตั้งตัวตีผลักดันให้แก้ไข กม.ลูกทั้ง 3 ฉบับ รับเบื่อการเมือง หวั่นตกเป็นเครื่องมือซ้ำรอยแก๊ง 3 หนา ยันไปลงสมัคร คกก.ปฏิรูปการเมืองไว้แล้ว  ลั่นไม่มีใครชี้นำได้ ด้าน “ประพันธ์-วิสุทธิ์” ยังแทงกั๊ก เกรงกระทบต่อการจัดการเลือกตั้งใหม่ สนองตัณหารัฐบาลไม่ได้

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จากกระแส กกต.จะลาออก แล้วจะทำให้ไม่มีการเลือกตั้ง ทำให้สื่อมวลชนพยายามที่ติดต่อเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับ กกต.แต่ละคน แต่ก็ไม่มี กกต.คนใดยอมให้สัมภาษณ์ กกต.บางคนก็ปิดโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อติดต่อผ่านทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับการประสาน ว่า หากผู้สื่อข่าวคนใดต้องการสัมภาษณ์ให้โทรศัพท์สัมภาษณ์ แต่จะไม่มีการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ จนกระทั่งวานนี้ (24 มี.ค.) มีการตรวจสอบชื่อ นางสดศรี สัตยธรรม ไปสมัครเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายในลำดับที่ 127 ของกระทรวงยุติธรรม จึงทำให้กระแสข่าวการลาออกถูกกระพือขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งมองว่าหากไม่ลาออกจากการเป็น กกต.แล้วไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย จะทำให้มีปัญหาถูกร้องเรื่องคุณสมบัติการเป็น กกต.หรือไม่

ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามขอสัมภาษณ์นางสดศรีผ่านทางโทรศัพท์ โดยยอมรับว่า ได้ไปสมัครเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายจริง เนื่องจากเบื่อหน่ายในเรื่องของการเมือง และหากได้รับการคัดเลือกก็จะลาออกจากการเป็น กกต.ทันที แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หวังที่จะได้เป็นคณะกรรมการปฏิรูป เพียงเห็นว่ามีช่องทางที่ดีกว่าก็ต้องดิ้นรนกันไป ซึ่งเท่าที่ทราบช่วงเวลาการสรรหาคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายน่าจะแล้วเสร็จสิ้นไม่เกินเดือน พ.ค.นี้

เมื่อถามว่ามีผู้เสนอให้ไปสมัครเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เพื่อที่จะได้มีเหตุผลให้ลาออกจากการเป็น กกต.หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดเอง ที่จะไปสมัคร ไม่มีใครมาติดต่อ และตนไปสมัครในวันสุดท้ายด้วย อีกทั้งผู้สมัครคนอื่นๆ ต่างก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง จึงอยากลองดู หากไม่ได้รับการสรรหาก็ไม่เสียใจ และจะยังทำหน้าที่ กกต.อยู่

“ตอนนี้เราก็คิดแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้เราเหมือน กกต.ชุดที่สองหรือไม่ เพราะกฎหมายก็ไม่เรียบร้อย และลักษณะการเลือกตั้งก็ดูแปลกๆ เหมือนกันจะโยนลูกให้ กกต.รับทั้งหมด ไม่ใช่จะกลัว มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ต้องทำทุกอย่าง เบื่อตรงนี้ ถ้าหากดิฉันออกก็คงจะมีคนดีใจอีกเยอะ ที่ผ่านมา ทุกวันนี้โดนโจมตีทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสไปกว่านี้แล้ว หากจะโดนโจมตีเรื่องไปสมัครเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายก็คงจะไม่เป็นไร แต่ที่ไม่สบายใจขณะนี้ คือ เรื่องของกฎหมายลูก 3 ฉบับที่เขาพยายามจะไม่ให้เสร็จ และทำให้ กกต.ต้องออกประกาศในการเลือกตั้ง ดิฉันเป็นคนเดียวที่ออกมาตีโพยตีพายและติงในเรื่องนี้คนเดียว จากนี้ไปหากมีองค์กรอิสระไหนเปิดรับสมัครก็จะไปสมัครทุกองค์กร จะไม่หยุดแค่นี้ จะทำทุกอย่างไม่กลัวผลกระทบที่จะเกิดกับตัวเองแล้ว มาถึงขณะนี้แกร่งขึ้นมากแล้ว ตรงไหนที่มีหนทางมากกว่าก็น่าจะไปที่ตรงนั้น ช่องทางไหนที่ดูแล้วรกรุงรัง เต็มไปด้วยน้ำสกปรก เฉอะแฉะ เราก็ไม่ควรเดินไปไม่ใช่หรือ ข้างหน้าไม่รู้จะเจออะไรอีกเยอะ ถ้าขืนอยู่ตรงนี้ และเราเองก็เปรียบเสมือนสายล่อฟ้า มีคนไม่ชอบเยอะ จึงต้องไปข้างหน้า” นางสดศรี กล่าวและว่าตำแหน่งที่อยากเป็นที่สุดคือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกระแสข่าวอาจลาออกเพื่อไปเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายว่า เป็นเพียงกระแสข่าวลือเท่านั้น ไม่เป็นความจริง ตนยังไม่ได้มีความคิดจะลาออกในตอนนี้ เนื่องจากไม่มีเหตุผลใดที่จะทำเช่นนั้น เพราะการเลือกตั้งก็กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน หากตนลาออกก็จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งกฎหมายพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับสภาก็ได้รับในหลักการไปแล้ว คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร หรือหากกฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับไม่ผ่านตนก็ไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาต่อการเลือกตั้ง เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข ได้ระบุในมาตรา 7 วรรคท้าย ว่า กกต.สามารถออกประกาศเพื่อให้มีการเลือกตั้งได้ และประกาศของ กกต.ก็จะเป็นการรวมเอา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับมารวมไว้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ส่วนตัวก็ยังคิดว่าการพิจารณากฎหมายลูก 3 ฉบับของสภาน่าจะเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และเสร็จก่อนจะมีการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มีใครมาติดต่อให้ไปสมัครคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า และตนก็ไม่ได้คิดว่าจะไหน แต่หากมี กกต.คนใดลาออกไประหว่างมีการเลือกตั้ง ก็จะไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งมีปัญหา เนื่องจาก พ.ร.บ.กกต.ระบุไว้ว่า มี กกต.เพียง 3 คนก็สามารถทำงานต่อไปได้

ด้าน นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ไม่ได้ข่าวว่า จะมี กกต.คนใดลาออก แต่หากก่อนหรือระหว่างมีการเลือกตั้งมี กกต.คนใดลาออกจริงก็ไม่มีปัญหา เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนแล้วว่ามี กกต.3 คน ก็สามารถจัดการเลือกตั้ง หรือการให้ใบเหลืองใบแดงก็ทำได้ตามกฎหมาย ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครติดต่อ หรือทาบทามให้ไปสมัคร หรือดำรงตำแหน่งอื่น อีกทั้งการประชุม กกต.ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ไม่มีใครหยิบยกข่าวเรื่องลาออก หรือแรงกดดันภายนอกให้ กกต.ลาออก มาพูดคุยกันแต่อย่างใด มีการคุยกันเรื่องการเตรียมการแบ่งเขต จ.บึงกาฬ ที่จะแยกมาจาก จ.หนองคาย และจะจัดตั้งคณะผู้ดำเนินการการเลือกตั้งใน จ.บึงกาฬ ที่จะต้องแต่งตั้ง ผอ.และ กกต.จังหวัดที่จะเข้าไปดูแล เพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากมีการลาออกจริงของ กกต.จะ 1 หรือ 2 คนก็ยังไม่กระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง การสั่งเลือกตั้งใหม่ และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพราะตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.มาตรา 8 กำหนดว่าการลงมติในการประชุมของ กกต.ให้ใช้คะแนนเสียงข้างมาก เว้นแต่การลงมติวินิจฉัยให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง ให้ใช้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ของจำนวนกรรมการเลือกตั้งที่มาประชุม ซึ่งเท่ากับว่า ถ้าเหลือ กกต.3 คน จะสั่งเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ก็ต้องใช้เสียง 3 เสียง หรือถ้าเหลือ กกต.4 คน ก็ต้องใช้เสียง 4 เสียง แต่ถ้ามี กกต.อยู่ครบ 5 คน สามารถใช้เสียงเพียง 4 เสียงในการแจกใบเหลืองใบแดงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น