xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“มาร์ค”จ่อขึ้นเชียง ป.ป.ช.-ดัน JBC ขายชาติขายแผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันจะมีภาพลักษณ์เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีความด่างพร้อยเรื่องการโกงกินคอร์รัปชั่น แต่แล้วกรณีเขตแดนไทย-กัมพูชก็ทำให้นายอภิสิทธิ์มีชะนักติดหลังจนได้ เมื่อมีพฤติกรรมที่ส่อว่าเขาเป็นต้นเหตุทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดน

โดยเมื่อวันที่ 22 มีนาคมทีผ่านมา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะตัวแทนพันธมิตรฯ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ขอให้ดำเนินคดีอาญากับนายอภิสิทธิ์กับพวก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119,120, 157 กรณีนำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความเข้าใจการจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ.2543 (MOU2543) มาใช้ทั้งที่ MOU2543 ฉบับนี้ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 เมื่อทราบแล้วไม่ดำเนินการยกเลิก MOU2543 ไม่ถอนตัวจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก ไม่ผลักดันกองกำลังทหารของกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชาออกไปจากบริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหารอันเป็นการทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียอธิปไตยและเสียดินแดนรอบปราสาทพระวิหารและพื้นที่อื่นๆ ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ปมสำคัญของ MOU2543 นอกจากมีเงื่อนไขที่ทำให้ไทยเสียเปรียบจาการต้องยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 แล้ว ยังมีปัญหาการนำมาใช้โดยมิชอบตามกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540 มีเพียงการเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบเท่านั้น
ดังนั้นการดำเนินการต่อมาตามเงื่อนไขและข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้แก่
-ข้อกำหนดและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ลงวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2546 หรือ TOR 2546

-มติรัฐสภาที่เห็นชอบ “กรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชาตลอดแนว ในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชาตลอดแนว ในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชาและกลไกอื่นๆภายใต้กรอบนี้” วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

-บันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) รวม 3 ฉบับ เพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภา (บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา สมัยสามัญ วันที่ 10-12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ครั้งที่ 4 วันที่ 3 - 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 และ สมัยวิสามัญ ณ กรุงพนมเปญ วันที่ 6 - 7 เมษายน พ.ศ. 2552)

-ร่างข้อตกลงชั่วคราวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยปัญหาชายแดนในพื้นที่ปราสาท ที่จัดทำขึ้นเมื่อประมาณเดือนเมษายน พ.ศ. 2552

การที่นายอภิสิทธิ์ฯ กับพวก เสนอเรื่องบันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง 3 ครั้ง เข้าสู่ที่ประชุมของสมาชิกรัฐสภาโดยเปิดให้มีการอภิปราย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2553 ทั้งๆ ที่ทราบถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายและขั้นตอนดังกล่าวแล้วจากการที่ประชาชนชาวไทยได้โต้แย้งคัดค้านมาโดยตลอด เมื่ออภิปรายเสร็จที่ประชุมได้กำหนดวาระที่จะลงมติในการประชุมสมาชิกรัฐสภาในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ต่อมาสมาชิกรัฐสภาจึงมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาและจะนำวาระดังกล่าวและจะนำผลบันทึกการประชุมของ JBC ทั้ง 3 ฉบับมาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 25 มีนาคม 2554 ซึ่งหากปล่อยให้มีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวต่อไป จะก่อให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศชาติ 4 ประการคือ

1. หากรัฐสภาไทยลงมติให้ความเห็นชอบกับบันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับ ย่อมเท่ากับเป็นการสละผลงานการปักปันระหว่างสยาม-ฝรั่งเศสซึ่งได้ทำเสร็จสิ้นเมื่อ 103 ปีที่แล้ว ว่าให้ใช้ขอบหน้าผาเป็นสันปันน้ำและเป็นเส้นเขตแดนตามธรรมชาติสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องทำหลักเขตแดนใดๆ ทั้งสิ้นในบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งอยู่บริเวณทิวเขาดงรักให้กลายเป็นว่าต้องมาตกลงกันใหม่ระหว่างไทย-กัมพูชาและจัดทำหลักเขตแดนกันใหม่

2. ปรากฏคำปราศรัยของวาร์ คิม ฮง ประธาน JBC ของกัมพูชากล่าวร้ายประเทศไทยว่าเป็นฝ่ายรุกรานกัมพูชาตามแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้โต้แย้งใดๆ หากรัฐสภาไทยให้ความเห็นชอบก็จะทำให้กัมพูชานำไปอ้างได้ว่ารัฐสภาไทยยอมรับคำปราศรัยดังกล่าวโดยไม่โต้แย้งและนิ่งเฉย

3. ปรากฏร่างข้อตกลงชั่วคราวระหว่างไทย-กัมพูชา ในการยืนยันที่ไทย-กัมพูชาจะปฏิบัติตาม MOU 2543 และ TOR 2546 ซึ่งสร้างความเสียหายและไม่เป็นคุณต่อประเทศไทยตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นหากรัฐสภาไทยให้ความเห็นชอบบันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับ

4.ปรากฏในร่างข้อตกลงชั่วคราวระหว่างไทย-กัมพูชาว่าให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาถอนออกจากวัดแก้วสิขาคีรีศวร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนประเทศไทย หากรัฐสภาไทยให้ความเห็นชอบบันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับ ทหารไทยจะต้องถอนออกจากดินแดนไทยบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะเป็นผลทำให้กัมพูชาสามารถนำพื้นที่ของไทยดังกล่าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารจัดการมรดกโลกเป็นของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว

5. ได้ปรากฏข้อมูลว่าบันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับยังดำเนินการไม่ถูกต้องก่อนที่จะมีการนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา เช่น ยังไม่มีการลงนามจากคณะกรรมการสำรวจฝ่ายไทย ยังไม่มีการผ่านความเห็นชอบจากกรมแผนที่ทหารบริเวณหลักเขตที่ 23 ถึง 51 หากรัฐสภาไทยให้ความเห็นชอบก็จะถือว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและผิดขั้นตอน

6.ได้ปรากฏรายงานของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อศึกษาเกี่ยวกับกรณีปัญหาเขาพระวิหาร สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า การให้ข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดขึ้นนั้น เป็นการให้ข้อมูลจากมุมมองด้านเดียว ไม่มีการให้ข้อมูลของฝ่ายที่เห็นแย้ง บางแห่งไม่มีการแจ้งให้ประชาชนผู้เข้าร่วมทราบอย่างชัดเจนว่าเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ การจัดวันที่ 11 สิงหาคม 2552 มีประชาชนและนักวิชาการจำนวนมากได้แสดงความเห็นคัดค้านเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา แต่ภายหลังพบว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกการจัดงานในวันดังกล่าวไป นอกจากนี้การจัดอีกหลายครั้งยังจัดในจังหวัดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขตแดนระหว่างไทย - กัมพูชา

นอกจากนี้บันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับ ถือเป็นการแสดงเจตนายืนยันอย่างชัดแจ้งถึงการยอมรับในแผนที่กำหนดแนวเขตตาม MOU43 อันจะส่งผลให้เป็นสนธิสัญญาที่มีผลบังคับระหว่างทั้งสองฝ่าย เป็นการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตอย่างชัดเจน

การร่วมกันกระทำการของนายอภิสิทธิ์ฯ กับพวกถือว่ามีเจตนากระทำความผิดโดยไม่ยึดถือปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 และบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มีผลเสียหายต่ออาณาเขตดินแดนของประเทศไทย กระทบกระเทือนต่อพระราชอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์และกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยทุกคน

นี่คือปมที่นายอภิสิทธิ์ จะต้องไปแก้ต่างต่อ ป.ป.ช.ในขั้นตอนต่อไป และหากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิถุนายนนี้ เห็นชอบแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ก็จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนบริเวณ 4.6 ตารางกิโลเมตรอย่างเป็นทางการ นายอภิสิทธิ์คงดิ้นไม่หลุดจากข้อกล่าวหาที่พันธมิตรฯ ยื่นต่อ ป.ป.ช.รวมทั้งจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติขายแผ่นดินอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น