xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ย้ำ ส.ว.-ส.ส.รับรองบันทึก JBC มีโทษประหารเป็นเดิมพัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษกพันธมิตรฯ ย้ำ หาก ส.ว.-ส.ส.ลงมติรับรองบันทึกเจบีซีในการประชุมร่วมรัฐสภา จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา โดยมีโทษประหารชีวิตเป็นเดิมพัน ยืนยันรัฐบาลจะต้องดำเนินการ 3 ข้อเรียกร้องของ พธม.คือ ยกเลิกเอ็มโอยู 43-ถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก และขับไล่เขมรให้พ้นเขตแดนไทย เพราะถือเป็นมหันตภัยต่ออธิปไตย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนา "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน"  

วันนี้ (21 มี.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวบนเวทีเสวนาราชอาณาจักรไทย กำลังจะเสียดินแดน ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้ไปยื่นหนังสือเพื่อคัดค้านการลงมติรับรองร่างบันทึกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับของที่ประชุมร่วมรัฐสภา เป็นครั้งที่สอง ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 29 มี.ค.

“การยื่นครั้งที่สอง เพื่อเป็นการคัดค้านการลงมติรับรองร่างบันทึกเจบีซี ภายใต้ชื่อ “จุดยืนที่เหนือกว่า ของ ดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญา อดีตเลขาธิการอาเซียนคนแรก ต่อ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา โดยผ่าน นายไพโรจน์ โพธิไสย รองเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อขอให้สมาชิกไม่รับรองบันทึก (เจบีซี) และหากโหวตรับรองบันทึกฯ ดังกล่าว เท่ากับไทยยอมรับและยกเลิกการปักปันเขตแดนตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ทั้งหมด” นายปานเทพ กล่าวและว่า

โดยบทความของ ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ที่มีประสบการณ์ตรงในคดีปราสาทพระวิหาร และมีความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ บทความนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นว่ารัฐสภาไทยจะต้องไม่ยอมรับในบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) โดยเด็ดขาด เพราะหากรัฐสภาไทยลงมติให้ความเห็นชอบแล้วย่อมเท่ากับว่ารัฐสภาไทย “ยอมสละผลงานการสำรวจและปักปันเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อ ๑๐๓ ปีที่แล้ว” ว่า ให้ใช้ขอบหน้าผาเป็นสันปันน้ำและเป็นเส้นเขตแดนบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและไม่เคยต้องมีการจัดทำหลักเขตแดนใดๆ ทั้งสิ้น กลับมายินยอมให้ตกลงกันใหม่ระหว่างไทย-กัมพูชา และจัดทำหลักเขตแดนกันใหม่ในเส้นเขตแดนที่ไม่ควรมีการจัดทำหลักเขตแดน ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ.๒๕๔๓ (MOU ๒๕๔๓) ซึ่งปรากฏข้อความยอมรับแผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ ที่ผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชาเป็นครั้งแรก

แผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ มีความผิดพลาดและจะทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดนประมาณ ๑.๘ ล้านไร่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะบัดนี้ได้ปรากฏกองกำลังและชุมชนกัมพูชาได้เจตนารุกรานและยึดครองแผ่นดินไทยและสำแดงอำนาจอธิปไตยในดินแดนประเทศไทยในทางปฏิบัติไปแล้วหลายจุด หากยึดแนวทางตาม MOU ๒๕๔๓ โดยกัมพูชาไม่ยินยอมตกลงในการเจรจาตามที่ฝ่ายไทยต้องการ กัมพูชาก็จะอาศัยสิทธิ์ตาม MOU ๒๕๔๓ ในการยึดครองแผ่นดินไทยได้ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา ในทางปฏิบัติจึงเท่ากับประเทศไทยก็จะสูญเสียแผ่นดินไทยไปอย่างไม่มีกำหนดระยะเวลาเช่นกัน

กระผมขอเรียนว่าในการประชุมรัฐสภาเกี่ยวกับกรณีนี้ เป็นการลงมติเพื่อ”รับรอง” หรือ “ไม่รับรอง”เท่านั้น ดังนั้น การตั้งข้อสังเกตของสมาชิกรัฐสภาหรือคณะกรรมาธิการศึกษาบันทึกผลการประชุมดังกล่าวก็ดี หรือการรับปากที่จะแก้ไขในการประชุมในในอนาคตก็ดี หากรัฐสภาไทยลงมติรับรองเมื่อใดก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงข้อความในบันทึกผลการประชุมที่เกิดขึ้นไปแล้วและทำให้ประเทศไทยต้องเสียเปรียบ ซึ่งจะทำให้กัมพูชาสามารถนำเอามติรัฐสภาไทยครั้งนี้ไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศที่จะทำให้ประเทศไทยต้องเสียเปรียบได้ในที่สุด

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า การยื่นหนังสือคัดค้านในวันนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ยังได้มีหนังสือแนบท้ายว่า หากรัฐบาลไทยยึดเอ็มโอยู 43 ต่อไป เท่ากับยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนไร่ ทำให้ไทยต่อเสียอธิปไตยกว่า 1.8 ล้านไร่ และหากรัฐสภาลงมติรับรองบันทึกเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ จะทำให้ไทยเสียเปรียบในการประชุมในคณะกรรมการมรดโลก แต่หาก ส.ส.และ ส.ว.คนใดลงมติรับรองเจบีซีทั้ง 3 ฉบับจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต


กำลังโหลดความคิดเห็น