ASTVผู้จัดการรายวัน- พันธมิตรฯยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา ค้านรับรองบันทึก เจบีซี 3 ฉบับที่จะนำไปสู่การเสียดินแดนให้เขมร เตือน ส.ส.-ส.ว. ที่ยกมือหนุนจะเจอคดี โทษถึงประหาร แฉมีกลุ่มทุนพรรคร่วมสมคบเขมร เล็งเปิดกาสิโนเขาพระวิหาร
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ได้กล่าวถึงกรณีการคัดค้านการพิจารณารับรองบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ของที่ประชุมรัฐสภาว่า เราคัดค้านเรื่องนี้มาตั้งแต่การนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภาครั้งแรก เมื่อ 26 พ.ย. 53 และ 2 ธ.ค. 53 ที่มีการชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อเห็นประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วย ทางรัฐสภาจึงเลื่อนการพิจารณาออกไป โดยตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา และคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 22 มี.ค.ที่จะถึงนี้
ดังนั้น ทางพันธมิตรฯ และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย จึงต้องทำหนังสือเพื่อเป็นการเตือนถึงสมาชิกรัฐสภาทุกคนว่าหาก ส.ส.หรือ ส.ว.คนใด สนับสนุนให้ร่างบันทึกการประชุมทั้ง 3 ฉบับ ผ่านการรับรองของรัฐสภา จะต้องมีความผิด และถูกฟ้องคดีให้ถึงที่สุดโดยมีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯเปิดเผยว่า ในเวลา 11.00 น. พล.ต.จำลอง นายประพันธ์ และ ตน จะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อเป็นลายลักษณ์อักษรให้ ส.ส.และ ส.ว.ทราบว่า หากมีการพิจาณารับรองบันทึกเจบีซี 3 ฉบับ จะก่อให้เกิดผลที่จะทำให้ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน โดยในบันทึกเจบีซีนี้ ได้มีข้อกำหนดว่า ต้องมีการปักปันหลักเขตแดนบริเวณเขาพระวิหาร จากเดิมซึ่งมีการปักปันกันเรียบร้อยแล้วเมื่อกว่า 100 ปีก่อน โดยยึดขอบหน้าผาเป็นสันปันน้ำ การทำหลักเขตแดนใหม่ เท่ากับสละผลงานการปักปันเขตแดนระหว่างสยามและฝรั่งเศส ทั้งยังมีการระบุถึงการรับรองเอ็มโอยู 2543 และทีโออาร์ 2546 รวมทั้งแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ที่จะนำไปจัดทำหลักเขตแดนนี้ด้วย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่เคยยืนยันในเวทีนานาชาติ ย่อมทำให้ประเทศสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของข้อตกลงชั่วคราว ให้ถอนกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ออกจากพื้นที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ทั้งที่เป็นผืนแผ่นดินไทย ซึ่งหากไม่มีกำลังทหารประจำการอยู่ กัมพูชา สามารถนำพื้นที่เข้าสู่แผนบริหารจัดการมรดกโลกได้ต่อไป ที่สำคัญยังระบุให้ทั้ง 2 ประเทศ ยึดถือการเจรจา โดยการถอนทหาร และเปิดโอกาสให้นานาชาติเข้ามาแทรกแซง ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ต่อการสูญเสียดินแดน
ดังนั้นการยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อให้ ส.ว.และ ส.ส. รู้ว่า หากมีการรับรองบันทึกเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119, 120 และ 157 โทษมีเพียง 2 ทางคือ จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แม้จะอ้างว่ารัฐบาลจะแก้ไขในอนาคต ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแผลงบันทึกการประชุมที่รับรองไปแล้ว และกัมพูชาจะสามารถนำไปอ้างในเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะในเวทีคณะกรรมการมรดกโลกว่า รัฐสภาไทยให้การรับรองแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน รวมทั้งยอมรับว่า ฝ่ายไทยรุกรานกัมพูชาตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน จากคำปราศรัยของ นายวาร์ คิม ฮง ประธานแทนเจบีซี ฝ่ายกัมพูชาอีกด้วย
" หากรับทราบแล้วยังดำเนินการต่อไป พันธมิตรฯ จะยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินคดีทางอาญา หลังจากที่รัฐสภาลงมติแล้ว เพราะจะเป็นผลเสียหายต่อประเทศไทย และเป็นข้อได้เปรียบของกัมพูชา ทั้งนี้ ยังจะเป็นหลักฐานว่าสมาชิกรัฐสภารับรู้ข้อเท็จจริงแล้ว ก่อนมีการลงมติ หากยังฝืนลงต่อไป ก็จะมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนว่า กระทำผิดกฎหมายโดยที่รู้อยู่แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่ลงมติรับรอง" นายปานเทพ กล่าว
**เล็งเปิดกาสิโนเขาพระวิหาร
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเสริมว่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากประชาชน และผู้รู้ จึงน่าแปลกใจว่าเหตุใดรัฐบาลจึงเดินหน้าในทุกเรื่องที่ทำให้ประเทศเสียเปรียบ ซึ่งตนทราบมาว่า ขณะนี้ความร่วมมือของรัฐไทย โดยกลุ่มทุนในพรรคร่วมรัฐบาล กับนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ในการหาประโยชน์ร่วมกัน โดยมีการดึงประเทศมหาอำนาจ เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีประโยชน์ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และบ่อนกาสิโน ในบริเวณปราสาทพระวิหาร รวมทั้งผลประโยชน์ด้านพลังงานอีกมหาศาล
** ยื่นหนังสือคัดค้านเจบีซี 3 ฉบับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมืองและคณะ ได้ยื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ไม่รับรองบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ที่ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการแล้วเสร็จ และจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ในวันที่ 22 มี.ค.นี้
ซึ่งนายชัย ซึ่งได้ออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง และได้กล่าวกับแกนนำพันธมิตรฯ ว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าวเลย เพราะคณะกรรมาธิการยังไม่ได้เสนอเรื่องมาถึงตน จึงไม่ทราบว่าทางพันธมิตรฯ ทราบเรื่องได้อย่างไร ทั้งนี้ตนจะติดตามเรื่องให้ ซึ่งตนขออย่างเดียวว่า อย่าสร้างปัญหาให้บ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการสนทนานายชัย ยังได้กล่าวหยอก พล.ต.จำลอง ด้วยว่า รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยที่พล.ต.จำลอง เป็นเลขาฯนายกฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีความเคารพกันมาก โดยตนยังนึกว่า วันหนึ่ง พล.ต.จำลอง จะได้เป็นนายกฯ แต่ก็ไม่ได้เป็นสักที ครั้งนี้คงจะได้เป็น ขณะที่ พล.ต.จำลอง สวนกลับมาว่า " ไม่ แถม 100 ล้านบาท ผมก็ไม่เอา"
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ได้กล่าวถึงกรณีการคัดค้านการพิจารณารับรองบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ของที่ประชุมรัฐสภาว่า เราคัดค้านเรื่องนี้มาตั้งแต่การนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภาครั้งแรก เมื่อ 26 พ.ย. 53 และ 2 ธ.ค. 53 ที่มีการชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อเห็นประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วย ทางรัฐสภาจึงเลื่อนการพิจารณาออกไป โดยตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา และคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 22 มี.ค.ที่จะถึงนี้
ดังนั้น ทางพันธมิตรฯ และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย จึงต้องทำหนังสือเพื่อเป็นการเตือนถึงสมาชิกรัฐสภาทุกคนว่าหาก ส.ส.หรือ ส.ว.คนใด สนับสนุนให้ร่างบันทึกการประชุมทั้ง 3 ฉบับ ผ่านการรับรองของรัฐสภา จะต้องมีความผิด และถูกฟ้องคดีให้ถึงที่สุดโดยมีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯเปิดเผยว่า ในเวลา 11.00 น. พล.ต.จำลอง นายประพันธ์ และ ตน จะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อเป็นลายลักษณ์อักษรให้ ส.ส.และ ส.ว.ทราบว่า หากมีการพิจาณารับรองบันทึกเจบีซี 3 ฉบับ จะก่อให้เกิดผลที่จะทำให้ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน โดยในบันทึกเจบีซีนี้ ได้มีข้อกำหนดว่า ต้องมีการปักปันหลักเขตแดนบริเวณเขาพระวิหาร จากเดิมซึ่งมีการปักปันกันเรียบร้อยแล้วเมื่อกว่า 100 ปีก่อน โดยยึดขอบหน้าผาเป็นสันปันน้ำ การทำหลักเขตแดนใหม่ เท่ากับสละผลงานการปักปันเขตแดนระหว่างสยามและฝรั่งเศส ทั้งยังมีการระบุถึงการรับรองเอ็มโอยู 2543 และทีโออาร์ 2546 รวมทั้งแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ที่จะนำไปจัดทำหลักเขตแดนนี้ด้วย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่เคยยืนยันในเวทีนานาชาติ ย่อมทำให้ประเทศสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของข้อตกลงชั่วคราว ให้ถอนกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ออกจากพื้นที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ทั้งที่เป็นผืนแผ่นดินไทย ซึ่งหากไม่มีกำลังทหารประจำการอยู่ กัมพูชา สามารถนำพื้นที่เข้าสู่แผนบริหารจัดการมรดกโลกได้ต่อไป ที่สำคัญยังระบุให้ทั้ง 2 ประเทศ ยึดถือการเจรจา โดยการถอนทหาร และเปิดโอกาสให้นานาชาติเข้ามาแทรกแซง ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ต่อการสูญเสียดินแดน
ดังนั้นการยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อให้ ส.ว.และ ส.ส. รู้ว่า หากมีการรับรองบันทึกเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119, 120 และ 157 โทษมีเพียง 2 ทางคือ จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แม้จะอ้างว่ารัฐบาลจะแก้ไขในอนาคต ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแผลงบันทึกการประชุมที่รับรองไปแล้ว และกัมพูชาจะสามารถนำไปอ้างในเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะในเวทีคณะกรรมการมรดกโลกว่า รัฐสภาไทยให้การรับรองแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน รวมทั้งยอมรับว่า ฝ่ายไทยรุกรานกัมพูชาตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน จากคำปราศรัยของ นายวาร์ คิม ฮง ประธานแทนเจบีซี ฝ่ายกัมพูชาอีกด้วย
" หากรับทราบแล้วยังดำเนินการต่อไป พันธมิตรฯ จะยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินคดีทางอาญา หลังจากที่รัฐสภาลงมติแล้ว เพราะจะเป็นผลเสียหายต่อประเทศไทย และเป็นข้อได้เปรียบของกัมพูชา ทั้งนี้ ยังจะเป็นหลักฐานว่าสมาชิกรัฐสภารับรู้ข้อเท็จจริงแล้ว ก่อนมีการลงมติ หากยังฝืนลงต่อไป ก็จะมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนว่า กระทำผิดกฎหมายโดยที่รู้อยู่แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่ลงมติรับรอง" นายปานเทพ กล่าว
**เล็งเปิดกาสิโนเขาพระวิหาร
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเสริมว่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากประชาชน และผู้รู้ จึงน่าแปลกใจว่าเหตุใดรัฐบาลจึงเดินหน้าในทุกเรื่องที่ทำให้ประเทศเสียเปรียบ ซึ่งตนทราบมาว่า ขณะนี้ความร่วมมือของรัฐไทย โดยกลุ่มทุนในพรรคร่วมรัฐบาล กับนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ในการหาประโยชน์ร่วมกัน โดยมีการดึงประเทศมหาอำนาจ เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีประโยชน์ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และบ่อนกาสิโน ในบริเวณปราสาทพระวิหาร รวมทั้งผลประโยชน์ด้านพลังงานอีกมหาศาล
** ยื่นหนังสือคัดค้านเจบีซี 3 ฉบับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมืองและคณะ ได้ยื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ไม่รับรองบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ที่ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการแล้วเสร็จ และจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ในวันที่ 22 มี.ค.นี้
ซึ่งนายชัย ซึ่งได้ออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง และได้กล่าวกับแกนนำพันธมิตรฯ ว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าวเลย เพราะคณะกรรมาธิการยังไม่ได้เสนอเรื่องมาถึงตน จึงไม่ทราบว่าทางพันธมิตรฯ ทราบเรื่องได้อย่างไร ทั้งนี้ตนจะติดตามเรื่องให้ ซึ่งตนขออย่างเดียวว่า อย่าสร้างปัญหาให้บ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการสนทนานายชัย ยังได้กล่าวหยอก พล.ต.จำลอง ด้วยว่า รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยที่พล.ต.จำลอง เป็นเลขาฯนายกฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีความเคารพกันมาก โดยตนยังนึกว่า วันหนึ่ง พล.ต.จำลอง จะได้เป็นนายกฯ แต่ก็ไม่ได้เป็นสักที ครั้งนี้คงจะได้เป็น ขณะที่ พล.ต.จำลอง สวนกลับมาว่า " ไม่ แถม 100 ล้านบาท ผมก็ไม่เอา"