โฆษกพันธมิตรฯ จี้สำนึก ส.ส.และ ส.ว.หากลงมติรับรองบันทึกเจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ในการประชุมรัฐสภา 22 มี.ค.นี้ มีโทษประหารชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะเท่ากับรองรับเอ็มโอยู 43 ทำให้ไทยเสียอธิปไตย ตามมาตราส่วนแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนไร่ เตือน ตร.อย่าหลงเชื่อสันดานนักการเมือง หากสลายพันธมิตรฯ เจอทั้งคดีแพ่งและอาญา แฉแผนยุบสภาต้นเดือน พ.ค.หนีความผิด ก่อนรู้ผล คกก.มรดกโลก ลงมติรับรองขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่สะพานมัฆวานรังสรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าขณะนี้คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้มอบเกียรติบัตรให้กับผู้ที่ยอมเสียสละเข้าร่วมการชุมนุมไปแล้วจำนวน 8 พันกว่าฉบับ เพื่อให้เป็นที่ระลึกว่า ผู้ชุมนุมทุกท่านได้ร่วมกันทำคุณงามความดีเพื่อทวงคืนอธิปไตยไทยด้วยกัน และเวทีพันธมิตรฯ จะมอบเกียรบัตรต่อไปจนกว่าเราจะได้รับชัยชนะ
ด้านเวทีเสวนาราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน นายปานเทพ พัวพันธ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวย้ำถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมเมื่อเช้ามืดวันนี้ โดยอ้างว่าเป็นดำเนินการตามประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ถือว่าขัดต่อ กม.รธน.และจะปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานไม่ได้ ดังนั้น การที่ รบ.ประกาศใช้ พ.ร.บ.นี้ถือว่าขัดต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศ
“เหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ ถือเป็นอุทาหรณ์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยุคนี้ต้องระมัดระวัง หากใช้กำลังสลายการชุมนุมพลเมืองไทย ที่ออกมาทำหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตย ในที่สุดรัฐบาลนี้จะปฏิเสธความรับผิดชอบ และโยนบาปให้ ตร.ว่าเป็นผู้ลงมือกระทำผิด และจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งในภายหลัง นี่คือสันดานนักการเมือง” นายปานเทพ กล่าว และย้อนถามเจ้าพระยาสุขขาวินาศ ว่า ส้วมพันธมิตรฯ เป็นภัยต่อความมั่นคงหรืออย่างไร
นายปานเทพ กล่าวถึงภารกิจที่ได้เดินทางไปได้ยื่นหนังสือต่อ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภาในวันนี้ เพื่อขอให้ไม่รับรองบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ที่ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการแล้วเสร็จ และจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ เพราะหากมีการรับรองร่างบันทึกทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว จะส่งผลต่อการจัดทำหลักเขตแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร รวมทั้งสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน พร้อมทั้งกล่าวเติมว่า หาก ส.ส.และ ส.ว.คนใดลงมติรับรองจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119, 120 และ 157 ซึ่งมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
นายปานเทพ กล่าวถึงการจัดตารางของรัฐบาล ที่ระบุว่า จะยุบสภาต้นเดือน พ.ค.ก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อจะพิจารณา แผนบริหารจัดการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามที่กัมพูชาจะเสนอในระหว่างการประชุมวันที่ 19-29 มิ.ย.ก็เป็นแผนการที่จะให้มีการหย่อนบัตรเลือกตั้ง เกิดขึ้นก่อนวันที่คณะกรรมการมรดกโลก จะลงมติในแผนบริหารจัดการ ทั้งนี้ ก็เพื่อหนีความผิดและใช้การเลือกตั้งเป็นข้ออ้างเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเท่านั้น
