แกนนำพันธมิตรฯ เผย “ผู้การแต้ม” อ้าง กทม.จ่อทุบห้องน้ำทิ้ง จึงต้องเอาตำรวจมากั้นหวั่นบานปลาย เผยบิ๊กท็อปบูตอึดอัดรัฐจะสลายม็อบ เตือนตำรวจคิดให้รอบคอบ - โฆษกพันธมิตรฯ ฉะเจ้าหน้าที่ขนกำลังหวังสลายแต่เจอมวลชนเพียบจึงเปลี่ยนมาพังส้วมแทน ซัดขัด รธน.เตือนไร้สั่งการตามลายลักษณ์อักษรทำนักการเมืองส่อรอดคุก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงเหตุการณ์ความพยายามในการเข้าสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จากที่ทางตำรวจได้นำหนังสือมายื่นคำขาดให้เราออกจากพื้นที่ชุมนุมทั้งหมดภายในวันที่ 15 มี.ค. ทำให้มีประชาชนทยอยเข้ามาร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นว่าต้องออกมาช่วยพวกเราที่หากไม่สามารถชุมนุมที่นี่ได้ จะไม่สามารถทำหน้าที่ปกป้องดินแดนได้สำเร็จ ซึ่งการมาของมวลชนไม่ได้เป็นการเป่านกหวีดจากแกนนำ รวมทั้งมีข่าวที่เชื่อถือได้ว่าเวลาตี 4 วันนี้ตำรวจจะเข้ามาสลายการชุมนุม ซึ่งเมื่อถึงเวลาทางตำรวจก็มีทีท่าเช่นนั้น มีการจัดกำลังปิดทุกช่องทางที่จะเข้าสู่พื้นที่การชุมนุม ทั้งด้านสะพานชมัยมรุเชฐ แยกมิสกวัน แยกวังแดง และด้านหลังเวทีสะพานมัฆวานฯด้วย รวมทั้งยังมีเข้าหน้าที่ กทม. พร้อมรถน้ำและเครื่องทุบรื้อห้องสุขามาเตรียมพร้อม พอเมื่อตี 5 ก็เริ่มปฏิบัติการในการทุบรื้อห้องสุขา ทำให้มวลชนต้องออกไปขัดขวางจึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ และเจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกไป
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ตนทราบจาก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ว่าทาง กทม.มีแนวคิดที่จะมารื้อห้องสุขา 48 ห้องข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ตำรวจจึงต้องจัดกำลังมาคุ้มกัน เกรงว่าจะเกิดเหตุวุ่นวาย เมื่อไม่มีการทุบรื้อ ตำรวจจึงถอนกำลังกลับในที่สุด ซึ่งเราได้มีการเตรียมการรับมือเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 23.00 น.วานนี้ หลังทราบข่าวว่าจะมีการเข้ามาสลายการชุมนุม ทางตำรวจจึงอาจจะเห็นว่ามวลชนมีจำนวนมาก ดังนั้นหากใช้ความรุนแรงเกรงว่ากระแสสังคมจะตำหนิตำรวจ เพราะพันธมิตรฯ ไม่ได้มาชุมนุมเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่มาชุมนุมเพื่อปกป้องดินแดน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าจะล้มเลิกความตั้งใจการสลายการชุมนุม
“เรื่องการรื้อห้องส้วมนั้น เชื่อว่าไม่ได้เป็นความคิดของ กทม. แต่เป็นแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ชุมนุมอยู่ลำบากและออกไปเอง เพราะหากปล่อยเราไว้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ มีการเปิดโปงการทำผิดของรัฐบาล ทั้งเรื่องการรักษาดินแดน ข้าวยากหมากแพง และการทุจริตคอร์รัปชัน” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลองเปิดเผยด้วยว่า ตนได้รับการติดต่อจากนายทหารระดับพลเอกของกองทัพบก ที่แจ้งมาว่าขณะนี้นายทหารในกองทัพมีความอึดอัดเป็นเดือดเป็นแค้นแทนพันธมิตรฯ ที่ทางตำรวจพยายามมาสลายการชุมนุม โดยบอกด้วยว่าจะออกมาช่วยหากตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมตามคำสั่งของรัฐบาลจริง ซึ่งหากทหารออกมาก็ห่วงว่าจะเกิดเหตุไทยฆ่าไทยขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนถึงได้เตือนสติตำรวจให้ทำหน้าที่โดยพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีนายทหารนอกเครื่องแบบเข้ามาร่วมชุมนุมพอสมควร เรื่องนี้ตำรวจจึงต้องระวังอย่างมากว่าเหตุการณ์อาจบานปลาย
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่เราได้คาดการณ์ไว้แล้ว โดยเห็นได้ชัดว่ามีความพยายามในการสลายการชุมนุมทั้งหมด ไม่ได้ต้องพื้นที่บางส่วนหรือเพียงห้องสุขาเท่านั้น เนื่องจากในหนังสือที่ทางตำรวจนได้ยื่นคำนั้นระบุชัดว่าต้องให้ออกจากพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด ดังนั้น การขนกำลังมาเป็นจำนวนมากก็มีเจตนาเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นว่าผู้ชุมนุมมีจำนวนมากจึงเปลี่ยนแผนมาเป็นการรื้อห้องสุขาให้ผู้ชุมนุมได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเป็นความพยายามในการขัดขวางประชาชนที่ชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าการสั่งการไม่ได้มีลายลักษณ์อักษร หากเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อครั้งวันที่ 7 ต.ค.51 และเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งหากมีการดำเนินการทางกฎหมาย ก็จะเอาผิดได้เพียงข้าราชการ ส่วนนักการเมืองที่เป็นผู้สั่งการก็จะลอยตัวทุกครั้ง เป็นช่องโหว่ของเครื่องมือทางราชการในการกระทำผิดกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่ง รวมทั้งเหตุการณ์ครั้งยังเป็นไปตามแผนบันได 3 ขั้นของรัฐบาล ที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดพื้นที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ และสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งยังมีความพยายามในการดำเนินแผนนี้อยู่อย่างไม่ล้มเลิก