xs
xsm
sm
md
lg

“อิสระ สมชัย” ค้านหัวทิ่ม ปากมูลแห้วครม.ไร้มติเปิดเขื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(22 ก.พ.)นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องผู้ชุมนุมเขื่อนปากมูล ให้เปิดเขื่อนเป็นเวลา 5 ปี จากเดิมให้เปิด 4 เดือนปิด 8 เดือน ที่ประชุมครม.ไม่มีมติ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นพ.วรรณรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.พลังงาน และรัฐมนตรีที่สนใจเสนอความเห็น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการรวบรวมความคิดเห็น เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งว่ามีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร
ก่อนหน้านี้ มีผู้ชุมนุมสมัชชาคนจน จำนวน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.พิบูลมังสาหาร อ.สิรินธร และ อ.โขงเจียม ได้ปักหลักชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร และเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ หลังปิดบานเขื่อนมาแล้วร่วม 2 เดือน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่า หากที่ประชุมครม. ไม่พิจารณาตามที่นายกฯรับปากไว้ทางเครือข่ายจำเป็นต้องยกระดับการชุมนุมเพื่อกดดันให้มีการเปิดเขื่อนอย่างถาวร

** “อิสระ สมชัย” ค้านหัวทิ่ม
รายงานข่าวจากที่ประชุมครม. ระบุว่า ในที่ประชุมครม.มีการถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวางโดยนายอิสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นคนเสนอคัดค้านการเปิดเขื่อนเป็นเวลา 5 ปี ต่อเนื่อง โดยให้เหตุผลว่า ชาวบ้านต้องการทำการเกษตรและระบบชลประทาน และระบบชลประทานดังกล่าวจะยังเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งขัดต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) ที่ประกอบด้วยเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เครือข่ายสลัม 4 ภาค สมัชชาคนจน เป็นต้น
ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯเป็นประธานการเจรจากลุ่มย่อยโดยหาข้อสรุป คือ เสนอให้ทดลองเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการฟื้นตัวของระบบนิเวศและวิถีชีวิตชุมชน รวมทั้งผลกระทบการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลนอกจากนี้ยังมีแนวคิดเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมให้แก่ผู้มีอาชีพประมงที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนปากมูล รายละ 310,000บาท โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับการเยียวยา

**ผ่าน167 ลบ.นำร่องธนาคารที่ดิน
นายศุภชัย แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็ง ภายใต้นโยบายกองทุนธนาคารที่ดิน วงเงิน 167 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินและการไม่สามารถเข้าถึงที่ดินของเกษตรกรราย่อยและผู้ยากจน เป็นปัญหาสำคัญของประเทศที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน ซึ่งที่ประชุม ครม.จึงเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนองค์กรชุมชนที่มีปัญหาเร่งด่วน 5 พื้นที่
ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณะประโยชน์ที่ดินเอกชนปล่อยร้าง และเหมืองแร่ ได้มอบหมายให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย จัดประชุมร่วมกันระหว่างสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) คณะทำงานจัดหาที่ดินเพื่อรองรับนโยบายการกระจายการถือครองที่ดินของรัฐบาล จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน และตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศ รวบรวมรายข้อมูลและจัดทำรายละเอียดโครงการส่งเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศต่อไป

**52.7 ล้านสร้างบ้านมั่นคง 200หน่วย
นพ.มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม. ) ขอสนับสนุนเพื่อดำเนินการตามโครงการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน จัดสร้างที่พักอาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนไร้บ้านโดยใช้งบประมาณอุดหนุนในมาตรฐานเดียวกันกับโครงการบ้านมั่นคง ประมาณ 80,000 บาทต่อหลัง ซึ่งในการนี้เกิดจากเครือข่ายสลัมสี่ภาคและเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ที่เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 54 เบื้องต้นพบว่ามีคนไร้บ้านในพื้นที่ 3 เมืองใหญ่คือ จ.กทม. จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ ประมาณ 200 คน ซึ่งทั้งประเทศมีคนไร้บ้านประมาณ 6,000 คน ในการนี้จะสร้างบ้านมั่นคง คนไร้บ้าน โดยใช้งบกลางของปี 2554 มอบให้กับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ( องค์กรมหาชน) จำนวน 200 หน่วย ๆ 80,000 บาทรวมงบประมาณ 52.7 ล้านบาท.
กำลังโหลดความคิดเห็น