xs
xsm
sm
md
lg

เมินยูเอ็นเอสซีหวังดึงอาเซียนกันชน เขมรถล่มชุดใหญ่ มทภ.2โยนพันธมิตรฯอิจฉาเป็น“ฮีโร่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “เขมร” เย้ยมติ ยูเอ็นเอสซี แอบเข้ามาโจมตีทหารไทย ที่ภูมะเขือตลอดคืนวันที่ 15 ก.พ. ทหารไทยตอบโต้ตามความเหมาะสม รวบสปายเขมรสอดแนมฐานทหารไทย ผบ.สส. อ้างพันธมิตรฯโจมตีเรื่องมีเอี่ยวผลประโยชน์ชายแดน เพราะอิจฉา อ้างพร้อมถูกตรวจสอบทุจริตจากนายกฯ เลขาฯ"กษิต" ชี้เขมรไม่หยุดยิง อาจมีผลเจรจาทวิภาคี พร้อมแฉชาวโลกเพื่อนบ้านเกเรก่อน โยน"ประวิตร" เจรจา "เตียห์ บัน"

วานนี้ (16 ก.พ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยถึงการปะทะของทหารไทย กับทหารกัมพูชา ตลอดคืนวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า การปะทะเกิดขึ้นที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยเริ่มปะทะตั้งแต่เวลา 20.00 น. โดยทหารกัมพูชาได้ขว้างระเบิดมือเข้ามาใส่ที่ตั้งของทหารไทย

ต่อมาเวลา 21.00 น. ทหารกัมพูชาได้พยายามเจาะแนวรั้วของทหารไทย เราจึงใช้ระเบิดขว้างตอบโต้ จนทำให้ทหารกัมพูชาต้องถอยกลับไป และยุติการปฏิบัติการดังกล่าว ต่อมาเวลา 22.00 น. ทหารกัมพูชาได้ปฏิบัติการแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง พร้อมขว้างระเบิดมือมายังที่ตั้งของทหารไทย ทางเราก็ขว้างระเบิดมือ เพื่อเป็นการตอบโต้ ตามความเหมาะสม

ต่อมาในเวลา 02.00 น. ทหารกัมพูชา ได้พยายามแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่ของทหารไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนกล ปืนครก (เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง) และยิงจรวดอาร์พีจี ระดมยิงเข้ามาบริเวณที่ตั้งทหารไทยตรงภูมะเขือ ทำให้เราต้องใช้มาตรการตอบโต้ ตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการป้องกันตัว และผลักดันให้ทหารกัมพูชาล่าถอยออกไป

นอกจากนี้ ช่วงเวลา 03.50 - 04.00 น. ทหารกัมพูชาได้พยายามโจมตีที่ตั้งทหารไทยบริเวณภูมะเขืออีกครั้งก่อนล่าถอยกลับไป

" ทหาร กัมพูชาพยายามเจาะแนวป้องกันของทหารไทยบริเวณภูมะเขือ ตลอดทั้งคืนแต่ไม่สำเร็จ มีการปะทะกันตลอดทั้งคืน ใช้เวลาแต่ละครั้งไม่นาน อย่างไรก็ตาม การปะทะของทหารไทย -กัมพูชาได้ยุติเวลา 05.25 น. เช้ามืด (16 ก.พ.) ทั้งนี้ การปะทะตลอดคืน ทหารไทยไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะทหารทุกคนได้ปฏิบัติตามที่ผู้บังคับบัญชาที่ได้เน้นย้ำในเรื่องการ รักษาความปลอดภัย การป้องกันตำแหน่งที่ตั้ง และมาตรการตอบโต้ของทหารไทย อยู่ในระดับที่เหมาะสม ใช้แค่อาวุธเบาเท่านั้น เพราะไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลาย" โฆษกทบ.ระบุ

**** ชี้เขมรใช้ระเบิดยั่วยุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ และ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.กันทรลักษ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจเข้มเป็นประจำทุกคืน ทุกหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย- กัมพูชาด้านเขาพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย ต.ภูผาหมอก และ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนมากที่สุด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันกันก่ออาชญากรรม และรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับฝ่ายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาได้นอนพักค้างคืนอยู่ที่บ้านรุง ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มากนัก และมีเสียงคล้ายระเบิดที่ดังขึ้นนั้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้อยู่ในเขตแดนไทยแต่มีเสียงดังอยู่ในเขตของกัมพูชา ซึ่งคาดว่าเป็นการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชาที่อาจใช้ระเบิดขว้างเข้ามาใกล้กับฐานที่ตั้งของทหารไทย แต่ทหารไทยไม่ได้มีการตอบโต้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเผชิญเหตุภัยการสู้รบที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นจึงต้องเร่งดำเนินซ่อมแซมหลุมหลบภัย รวมทั้งสร้างหลุมหลบภัยขึ้นมาใหม่ตามหมู่บ้านชายแดนด้านเขาพระวิหารโดยหลุมหลบภัยเดิมมีอยู่จำนวน 326 จุด ต้องทำการซ่อมแซมจำนวน 297 จุด และต้องสร้างเพิ่มเติมขึ้นใหม่ทุกหมู่บ้านจำนวน 451 จุด ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างรออนุมัติงบประมาณจากส่วนกลาง ส่วนการดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยจะแล้วเสร็จภายใน 30 วันครบทุกจุด

**รวบสปายเขมรสอดแนมฐานทหาร

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้(16 ก.พ.)พ.ต.ท.ไพบูลย์ วันงาม พงส.ผบ.2 สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ ร.ต.ชาตรี ผลนาค หัวหน้าชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 กองทัพภาคที่ 2 และกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมตัวชายผู้ต้องสงสัย เนื่องจากเข้ามาสอดแนมใกล้กับฐานที่ตั้งทหารของไทย ที่บ้านด่าน ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.บึงมะลู

จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสีดำที่ชายต้องสงสัยถือมาด้วย พบมีดคัตเตอร์ ขนาดเล็ก 1 อัน มีดพับ 1 อัน ไฟแช็ก ผงชูรส 1 ซอง และยาเส้น 1 ซอง เงินกีบ สปป.ลาว ฉบับละ 5,000 กีบ 1 ฉบับ เงินไทยใบละ 20 บาท 1 ฉบับ

ชายดังกล่าวอ้างว่าตัวเองชื่อ นายก้อง ทองคำพงษ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 4 บ้านไผ่ ต.ทับเบิก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยเดินเท้ามาจาก จ.อุบลราชธานี กำลังจะไปที่กรุงเทพฯ และได้ขออาหารชาวบ้านกินไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่ผ่านไป ซึ่งบริเวณที่เดินมานั้นไม่ทราบว่าเป็นค่ายทหาร แต่กำลังตามหาช้างที่ไปรบอยู่ที่พม่า และพลัดหลงเข้ามา จึงได้รีบออกตามหาช้างของตน

จากคำให้การดังกล่าว ชายที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับฝ่ายกัมพูชา ได้พยายามพูดจาวกวนไปมา เหมือนกับคนสติไม่สมประกอบ ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวไว้เพื่อทำการสอบสวน เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่างว่าอาจแกล้งทำเป็นบ้าสติไม่ดี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เข้ามาหาข่าวในเขตที่ตั้งฐานทหารของฝ่ายไทย

***จับสปายเขมรแล้ว7คน

พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับของทางฝ่ายกัมพูชาแล้วจำนวนทั้งสิ้น 7 คน ขณะนี้กำลังเร่งทำการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง รวมทั้งได้ประสานกับทางฝ่ายทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยและเพื่อความมั่นคงในเขตพื้นที่จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่ต่อไป

** เจรจาหยุดยิงเป็นเรื่องของรัฐบาล

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. กล่าวถึง กรณียูเอ็นเอสซี มีมติให้ทั้งไทย และกัมพูชา ยุติการยิงถาวร และให้มีการเจรจาแบบทวิภาคี ว่า กองทัพมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างเต็มความสามารถ ส่วนเรื่องการเจรจาเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเจรจาตามกลไก ทั้งการประชุม เจบีซี หรือ การเจรจาในระดับทวิภาคี หรือเรื่องสนธิสัญญา กองทัพมีหน้าที่รักษาชีวิตทรัพย์สินไม่ให้มีอะไรมากระทบต่อประชาชน

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ รมว.กลาโหมไทยและกัมพูชา ลงนาม เพื่อหยุดยิง พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของกองทัพ ตนไม่พูดถึงการเจรจา จะเชิญใครไปคุยกับใคร ตนไม่ทราบ แต่อย่าสร้างความเสียหายให้ประชาชน เมื่อถามว่าท่าทีไทยดูไม่ค่อยตอบโต้กัมพูชา พล.อ.ทรงกิตติ ย้อนถามว่าใครบอกว่า ไม่ได้ตอบโต้ แต่จะน้อยไปหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เราทำด้วยระบบ รวมถึงมีกฎการใช้กำลัง แต่ตนไม่ทราบของประเทศบ้านอื่น

**ไม่ยุ่งมทภ.2 อ้างเป็นเรื่องการเมือง

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่า แม่ทัพภาคที่ 2 มีผลประโยชน์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับการนำประเด็นทางการเมืองมาสู่กองทัพ

“ส่วนจะลดความสัมพันธ์กับเขมรหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของตน หน้าที่ของเรา ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ถึงไม่สั่งก็ต้องทำ

** มทภ.2 ส่งทหารไปเจรจากับเขมร

ด้านพล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ที่ประชาชนเกิดความเครียดหวาดผวา กับเสียงปืนที่ยังดังขึ้นเกือบทุกวัน แม้ยูเอ็นเอสซีจะมีมติให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงว่า ปัจจุบันหมู่บ้านที่อยู่ชายแดนจ.ศรีสะเกษ กว่า 10 หมู่บ้าน เรามีทหารไปเข้าเวรยามรักษาการณ์ มีการซักซ้อมการลงหลุมหลบภัยที่บ้านตัวเอง และที่หลุมหลบภัยส่วนรวมต่างๆ

ส่วนสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และประชาชนสามารถกลับไปอยู่บ้านได้อย่างสบายใจนั้น เรากำลังเจรจากับฝ่ายกัมพูชาอยู่ ในช่วงสาย (16 ก.พ.) ตนให้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ( ผบ.กกล.สุรนารี ) ซึ่งเป็นหน่วยในพื้นที่ ไปเจรจาพูดคุยกับทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ว่า ทำไมที่คุยกันหลายครั้งแล้วมันยังมีการโยนกันไปมา ซึ่งอาจมีอะไรที่ยังกินแหนงแคลงใจกันอยู่หรือเปล่า จะได้มาพูดคุยกัน

ส่วนปัญหาที่มีการยิงกันโดยใช้ปืนเล็ก เช่น อาก้า เอ็ม 16 นั้น ต้องไปถามฝ่ายเขา(กัมพูชา) เพราะว่าฝ่ายเราหากเขายิงมา เราต้องตอบโต้กลับไป โดยเรามีจุดแจ้งเตือนไปก่อน

ส่วนระดับนโยบายของรัฐบาล ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ไปชี้แจงกับทาง UNSC ซึ่งเขาก็ให้เป็นเรื่องของอาเซียนด้วยกัน และจะมีการพูดคุยกันต่อ ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ฉะนั้น ทางฝ่ายกัมพูชา ต้องมากำกับทหารระดับปฏิบัติในพื้นที่ เพียงแต่ว่าปัญหาเรื่องการปักปัน ไม่ปักปัน คงจะต้องมีอะไรกันยาวในส่วนนั้น แต่โดยภาพรวมหากฟังที่ ฮุน เซน พูดเมื่อครั้งเดินทางมาเปิดถนนล่าสุด ก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านเพียงแต่ไม่อยากให้มันขยายจากจุดนั้นออกไป

** มทภ.2 โยนพธม.อิจฉา
ไม่สนเรื่องจะถูกสอบทุจริต

ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงนี้เวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีการกล่าวโจมตี เรื่องการมีผลประโยชน์ตามแนวชายแดน มีความรู้สึกอย่างไร พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า "ไม่เป็นไร ผมเรียนตรงๆว่า ผมเข้าเตรียมทหารปี 2512 ยังจำได้ว่า ท่านพล.ท.ปิยะ สุวรรณพิมพ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ประชุมครั้งแรก แล้วบอกว่า เราต้องทำตัวให้เขาอิจฉา ไม่ต้องให้ใครเขาสงสาร เพราะว่า ไม่มีใครไปอิจฉาขอทาน ฉะนั้นผมก็ฟังความนี้แล้วใช้สติ ก็เฉยๆไป ใครจะว่าอะไรก็ไม่มีปัญหา เชิญเขาพูดไปเรื่อยๆ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นไปตามที่เขาพูด ก็ถือว่าเรามีความสุขแล้ว"

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะดำเนินคดีหรือฟ้องร้องหมิ่นประมาทหรือไม่ พล.ท.ธวัชชัย ตอบว่า ขี้เกียจขึ้นศาล เพราะขึ้นศาลแล้วเรื่องยาว 4-5 ปี และ เราก็ไม่เคยทำอย่างนั้น

ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายกรัฐมนตรี จะสั่งตรวจสอบพฤติกรรม แม่ทัพภาคที่ 2 นั้น พร้อมที่จะให้ตรวจสอบหรือไม่ พล.ท.ธวัชชัย ตอบว่า " ได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร"

**"บัวแก้ว"โยนกลาโหมเจรจาหยุดยิง

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา อีก 2 ครั้ง ที่บริเวณ ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปชี้แจงสถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จากการไปให้ข้อมูลกับยูเอ็นเอสซี มีผล 2 ประเด็นหลัก คือ 1. ขอให้มีการหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่ายในพื้นที่ชายแดน และ 2. สนับสนุนกลไกทวิภาคี ซึ่งรัฐบาลไทยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ถ้ากัมพูชาไม่ยิงมาก่อน เราก็ไม่เปิดฉากยิงตอบโต้

"การปะทะที่เกิดขึ้น ต้องมีการบันทึกไว้ เพื่อให้ชาติสมาชิกที่สนับสนุนทวิภาคี ได้รับทราบว่าใคร เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งนี้การเจรจาเพื่อให้หยุดยิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กับพล.อ.เตีย บัณห์ รมว.กลาโหมของกัมพูชา จะทำหน้าที่เจรจา หลังจากที่ นายกษิต กลับมาถึงประเทศไทย ก็จะนัดหารือกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อให้การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม มีความสอดคล้องกัน “ นายชวนนท์กล่าว

ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี)ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ต้องรอฝ่ายกัมพูชาว่า จะมีท่าทีตอบสนองอย่างไร แต่ตนก็รู้สึกแปลกใจว่า เพราะเหตุใดกัมพูชาจึงปฏิเสธการเจรจาทวิภาคีกับไทย ซึ่งรายละเอียดเจบีซีฯ ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ แม้ผลการประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา 3 ฉบับ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาไทย ก็ไม่มีผล เพราะสามารถจัดการประชุมเจบีซี เพื่อหารือในด้านอื่นๆ ได้ เช่น การทำภาพถ่ายทางอากาศ การสำรวจหลักหมุด เป็นต้น
เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงคำพูดที่สนับสนุนการเจรจาทวิภาคี ตามกรอบที่เรามี กลไกอยู่ ส่วนพื้นที่เขาพระวิหาร ที่มีการตีความผิดออกไปจากคำตัดสินของศาลโลก นั้น ที่จริงคงไม่ใช่ จึงขอย้ำว่า คำตัดสินของศาลโลก ไม่เคยพูดถึงความถูกต้องของแผนที่ 1 : 200,000 และแผนที่จะถูกต้อง ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามแนวสันปันน้ำที่ระบุในอนุสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ.1904 และไทยไม่เคยทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงอดีต และดำเนินตามอนุสัญญา ที่มีมาตั้งแต่อดีตเช่นกัน ดังนั้น ถ้ากัมพูชามั่นใจ ก็ควรมาพิสูจน์กันตามกระบวนการ เจบีซี

**รอถก 2 ชาติเวทีอาเซียน

เมื่อถามว่าทำไมนายกษิต และนายฮอ นัมฮง รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา จึงไม่มีการพบปะหารือกัน ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากชี้แจงกับ ยูเอ็นเอสซี นายชวนนท์ กล่าวว่า นาย นัมฮง ไม่ได้ปฏิเสธการพบปะ แต่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าจะยังมีการพูดคุยกันอยู่แล้วในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย

นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน วันที่ 22 ก.พ.นี้ ฝ่ายไทยจะพูดเรื่อง 1. ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้น และเราใช้ความอดทนอดกลั้น การโต้ตอบของเราเป็นการดำเนินการฝ่ายทหารเท่านั้น

2. การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งเราต้องยืนยันว่า เป็นชนวนแรก ที่ทำให้เกิดความบาดหมาง จึงควรดูที่ต้นเหตุว่าเราจะสะสางปัญหานั้นได้อย่างไร

3. จะยืนยันว่า ไทยยินดีที่จะเจรจาภายใต้กรอบทวิภาคีกับกัมพูชาเสมอ และยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ ผลการพูดคุยในครั้งนี้ จะไม่เป็นการผูกมัดไทยกับกัมพูชา เพราะไม่ใช่ลักษณะที่อาเซียนจะเข้ามาแทรกแซง

เมื่อถามว่าไทยคิดอย่างไรต่อการที่กัมพูชาระบุว่า การหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่เวทีอาเซียน จะเป็นการเข้าทางฝ่ายกัมพูชา นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะกัมพูชาน่าจะทราบดีว่าที่ได้พูดคุยตกลงกันก่อนไปชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี โดย รมว.ต่างประเทศของอินโดนีเซีย ก็พูดชัดว่า กรอบเจรจาอยู่ตรงไหน อย่างไร

**"เทือก"รอให้ประชาคมโลกกดดันเขมร

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) มีมติให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงแต่กลับมีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้นอีกว่า ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ของเราให้อยู่ระเบียบ วินัย ไม่ให้โมโหเวลาที่ถูกยั่ว แล้วไล่ติดตามเข้าไปในเขตเขา จนกลายมาเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ การที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาคมโลก กัมพูชา ก็ต้องถูกกดดันด้วยประชาคมโลก

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ไม่ยอมยุติเพราะกัมพูชา จงเกลียด จงชัง รัฐบาลนี้ด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงมีหลายเรื่อง บางเรื่องก็เป็นเพราะว่าความล่าช้าในกระบวนการเจรจา ต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติ และต้องพูดด้วยความระมัดระวัง

** ส.ส.ยื่นคัดค้านขึ้นทะเบียนมรดกโลก

เมื่อวานนี้ ( 16 ก.พ. ) ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กว่า 100 คน นำโดย นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภา ผ่านพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ของยูเนสโก เนื่องจากบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร ยังมีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา และเป็นสาเหตุของการปะทะกันระหว่างทหารของทั้ง 2 ชาติ ในช่วงที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทำให้ความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาเลวร้ายลง

นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่า กัมพูชาได้ใช้ปราสาทพระวิหาร เป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งขัดต่อหลักการ และเงื่อนไข การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ดังนั้นหากยูเนสโกจะพิจารณารายงานของประเทศกัมพูชาในการขอขึ้นทะเบียนดังกล่าว ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ของไทย-กัมพูชา ก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติ และอาจนำไปสู่ภาวะสงคราม ซึ่งไม่พึงปรารถนาของประเทศทั้งสอง และประชาคมโลก

ทั้งนี้ เราเห็นว่าการจดทะเบียนมรดกโลกจะทำได้ก็ต่อเมื่อไทย-กัมพูชา ได้บรรลุข้อยุติในเรื่องเขตแดน ที่ทั้งสองชาติยอมรับ บนพื้นฐานของสนธิสัญญาที่เป็นสากล และแนวสันปันน้ำมากกว่าการยึดหลักฐานที่จัดทำขึ้นเพียงฝ่ายเดียว จึงอยากให้ความเห็นของพวกตน ได้เสนอต่อผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก ต่อไป

** อาเซียนจะส่งคณะสังเกตการณ์เข้าพื้นที่

นายฮอร์นัมฮอง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งในกรุงพนมเปญ จากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า อาเซียนกำลังจะส่ง "คณะสังเกตการณ์" เข้าไปยังพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร เพื่อตรวจสภาพการหยุดยิงอย่างถาวร หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีคำแถลงสนับสนุน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่กรุงจาการ์ตา อย่างไรก็ตาม นายฮอร์ นัมฮง ไม่ได้อธิบายว่าเรื่องนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น