“มทภ.2” อ้าง พธม.โจมตีเพราะ “อิจฉา”- พร้อมให้ตรวจสอบ เผยบิ๊กทหารไทย-เขมร จ่อถกหยุดยิงสิ้นเชิง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “มทภ.2” อ้างพันธมิตรฯโจมตีเรื่องเอี่ยวผลประโยชน์ชายแดน เพราะ “อิจฉา” ยกคำครูสอนชี้ทำให้คนอิจฉาดีกว่าทำให้คนสงสาร เพราะไม่ใช่ “ขอทาน” ระบุ ขี้เกียจขึ้นศาล ไม่สนใจแจ้งดำเนินคดี ยันพร้อมให้ตรวจสอบ เผย ล่าสุด ส่ง “ผบ.กลล.สุรนารี” เจรจาผู้นำทหารกัมพูชาในพื้นที่ เพื่อเคลียร์ปัญหา ส่วนทหารระดับสูงได้ประสานแล้ว คาด คุยกันเพื่อหยุดยิงโดยสิ้นเชิงเร็วๆ นี้


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2  

วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ศูนย์รับบริจาคและส่งต่อความช่วยเหลือสู่ทหารและประชาชนผู้ประสบภัยจากการสู้รบ กองทัพภาคที่ 2 ภายในสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นประธานรับมอบเงิน 198,877.50 บาท พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง ขนมปัง ยารักษาโรค น้ำดื่ม ของใช้ในชีวิตประจำวัน จาก นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และรับมอบสิ่งของจากตัวแทนองค์กรภาครัฐ-เอกชน ที่บริจาคสมทบเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำส่งไปช่วยเหลือ ทหาร และราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งทางด้าน จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์ และ จ.อุบลราชธานี ในช่วงเย็นวันนี้

พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะประชาชนเกิดความเครียดหวาดผวากับเสียงปืนที่ยังดังขึ้นเกือบทุกวัน ว่า ตนเรียนว่าปัจจุบันหมู่บ้านที่อยู่ชายแดนบริเวณ จ.ศรีสะเกษ กว่า 10 หมู่บ้าน เรามีทหารไปเข้าเวรยามรักษาการณ์และนอนเป็นเพื่อนอยู่แล้ว พร้อมมีการซักซ้อมการลงหลุมหลบภัยที่บ้านตัวเอง และที่หลุมหลบภัยส่วนรวมต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า ประชาชนแถบนั้นไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มา 30 ปีแล้ว บางคนแค่เปิด-ปิดประตูรถเสียงดังก็ทำให้ตกใจแล้ว ซึ่งตนมีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนปัจจุบันนี้ก็น่าจะดีขึ้น ที่มีเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ยิงกันประปรายไม่มีเสียงปืนขนาดหนักก็มีการอพยพน้อยลง แต่บางคนยังไม่มั่นใจพอตกเย็นจะไปนอนที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ เช้ากลับไปบ้านกรีดยาง

ส่วนสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และประชาชนสามารถกลับไปอยู่บ้านได้อย่างสบายใจนั้น เรากำลังเจรจากับฝ่ายกัมพูชาอยู่ ในช่วงสายวันนี้ (16 ก.พ.) ตนให้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ซึ่งเป็นหน่วยในพื้นที่ไปเจรจาพูดคุยกับทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชาว่า ทำไมที่คุยกันหลายครั้งแล้วมันยังมีการโยนกันไปมา ซึ่งอาจมีอะไรที่ยังกินแหนงแคลงใจกันอยู่หรือเปล่าก็จะได้จับมาพูดคุยกัน

ในส่วนตนทางผู้บังคับบัญชาข้างบนก็ให้ประสาน ซึ่งตนจะหาวันเวลานัดระดับสูงข้างบนมาคุยอีกทีหนึ่งในเร็วๆ นี้ ส่วนปัญหาที่มีการยิงกันโดยใช้ปืนเล็ก เช่น อาก้า เอ็ม 16 นั้น ต้องไปถามฝ่ายเขา(กัมพูชา) เพราะว่าฝ่ายเราหากเขายิงมาเราต้องตอบโต้กลับไป โดยเรามีจุดแจ้งเตือนไปก่อน

ต่อข้อถามว่า ปัญหาการเจรจาทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศยืดเยื้อไม่ได้ข้อยุติ ในฐานะผู้ปฏิบัติหนักใจหรือไม่ เพราะมีการยิงไปมาอยู่ทุกวัน พล.ท.ธวัชชัย ตอบว่า ไม่หนักใจ เพราะเราเองไม่ได้มีปัญหา แต่จริงๆ เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นานๆ เจ็บที การสาดน้ำเข้าหากันเขา (ฝ่ายกัมพูชา) ก็คงเจ็บบ้าง เพราะเขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรา เขาจะเจ็บมากกว่า แต่เราไม่ได้ไปสนใจเอาละเอียดมากนัก

การเจรจาอยากให้จบกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยเร็วอยู่แล้ว เพราะได้ไปคุยกับผู้บังคับบัญชาเขา (ฝ่ายกัมพูชา)ทุกครั้งเราก็ยืนยันว่า เราไม่เคยคิดจะไปทำอะไรเขาก่อนแน่นอน ส่วนระดับนโยบายของรัฐบาลทางกระทรวงต่างประเทศก็ได้ไปชี้แจงกับทาง UNSC ซึ่งเขาก็ให้เป็นเรื่องของอาเซียนด้วยกัน และจะมีการพูดคุยกันต่อในวันที่ 22 ก.พ.นี้

ฉะนั้น ทางเขา (ฝ่ายกัมพูชา) เองต้องมากำกับข้างล่าง (ทหารระดับปฏิบัติในพื้นที่) เพียงแต่ว่าปัญหาเรื่องการปักปัน ไม่ปักปันคงจะต้องมีอะไรกันยาวในส่วนนั้น แต่โดยภาพรวมหากฟังที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชาพูดเมื่อครั้งเดินทางมาเปิดถนนล่าสุดก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านเพียงแต่ไม่อยากให้มันขยายจากจุดนั้น (เขาพระวิหาร) ออกไป ซึ่งคงจะเอาแค่จุดเดียว

ส่วนตนในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 ก็พยายามเสนอให้ปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายที่มีปัญหากัน ซึ่งมันอาจแค้นกันเหมือนกับกลุ่มวัยรุ่น หากเอาทั้ง 2 ฝั่งออกไปอยู่ข้างล่างหรือด้านหลังแล้วเอากลุ่มใหม่เข้ามาซึ่งอาจจะไม่มีเรื่องกินแหนงแคลงใจกัน ตรงนี้เป็นไปตามหลักสากลธรรมดา

“อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้ขวัญกำลังใจทหารไทยในชายแดนดีมาก ไม่มีปัญหา ทหารเราเต็มร้อยทุกอย่าง ทุกเรื่องเราดีหมด และจะไม่มี การปรับอะไรเพียงแต่ระวังป้องกันเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เพราะฝ่ายเขายิงอะไรก็ไม่ถูกเรา เขาอาจจะอยากให้ประชาชนตกใจบ้างหรืออาจจะให้เราเหนื่อย แต่เราก็มีการหมุนเวียนชุดใหม่ขึ้นไป พอเขาทำแบบนี้เราก็เฉยๆ บ้าง” พล.ท.ธวัชชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงนี้เวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวโจมตีเรื่องการมีผลประโยชน์ตามแนวชายแดนมีความรู้สึกอย่างไร พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ผมเรียนตรงๆ ว่า ผมเข้าเตรียมทหารปี 2512 ยังจำได้ว่าท่าน พล.ท.ปิยะ สุวรรณพิมพ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ประชุมครั้งแรกแล้วบอกว่า เราต้องทำตัวให้เขาอิจฉา ไม่ต้องให้ใครเขาสงสาร เพราะว่าไม่มีใครไปอิจฉาขอทาน ฉะนั้นผมก็ฟังความนี้แล้วใช้สติ ก็เฉยๆ ไป ใครจะว่าอะไรก็ไม่มีปัญหา เชิญเขาพูดไปเรื่อยๆ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นไปตามที่เขาพูดก็ถือว่าเรามีความสุขแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะดำเนินคดีหรือฟ้องร้องหมิ่นประมาทหรือไม่ พล.ท.ธวัชชัย ตอบว่า ตนขี้เกียจขึ้นศาล เพราะขึ้นศาลแล้วเรื่องยาว 4-5 ปี และเราก็ไม่เคยทำอย่างนั้น

ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะสั่งตรวจสอบพฤติกรรมแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น พร้อมที่จะให้ตรวจสอบหรือไม่ พล.ท.ธวัชชัย ตอบว่า “ได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร”