ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เครือข่ายภาค ปชช.โคราช เข้ายื่นหนังสือขอบคุณ และให้กำลังใจทหารกองทัพภาค 2 กดดันเขมรรื้อป้ายหยามไทย และปักธงชาติตอบโต้เขมร บริเวณ “สถูปคู่” เขาพระวิหาร พร้อมเรียกร้องทหารทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทย โดยไม่ต้องฟังเสียงนักการเมืองไทยหัวใจเขมร มุ่งผล ปย.ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ลั่นพร้อมร่วมทุกกลุ่มปกป้องแผ่นดินไทย จี้รัฐยกเลิก MOU43 ช่วย 2 คนไทยพ้นคุกเขมรโดยเร็ว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (2 ก.พ.) ที่หน้าประตูทางเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย นครราชสีมา และ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ นครราชสีมา จำนวนกว่า 20 คน นำโดย นายไชยยงค์ การทหาร รองประธานสมัชชาฯ นครราชสีมา และ นายประจักษ์ ศิริมงคลลาวัลย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายคนไทยฯ นครราชสีมา ได้เดินทางมายื่นหนังสือพร้อมอ่านแถลงการณ์ เพื่อขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทหารกองทัพภาคที่ 2 ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องดินแดน
โดยมี พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 และ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทน พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เดินทางมารับมอบหนังสือและกล่าวขอบคุณประชาชน พร้อมยืนยันทหารจะรักษาอธิปไตยของไทยไว้ทุกตารางนิ้ว
นายไชยยงค์ การทหาร แกนนำ ได้อ่านแถลงการณ์ โดยมีสาระสำคัญระบุว่า จากกรณีที่ 7 คนไทยถูกทหารกัมพูชาจับตัวไปและถูกศาลกัมพูชาตัดสินลงโทษโดยเฉพาะล่าสุด นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ถูกตัดสินจำคุก 8 ปี และ 6 ปี และยังมีเรื่องป้ายแผ่นหินที่กัมพูชาเขียนข้อความใส่ร้ายไทยรุกรานเขาพระวิหาร และการปักธงชาติกัมพูชาอยู่เต็มวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) บนเขาพระวิหาร จนถึงขณะนี้ทางกัมพูชายังไม่ยอมปลดธงชาติดังกล่าวออก
พร้อมกันนี้ รัฐบาลกัมพูชายังแสดงท่าทีแข็งกร้าว โดยจัดส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธหนักประชิดแนวชายแดนไทย และออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พื้นที่เขาพระวิหารดังกล่าวเป็นดินแดนของฝ่ายกัมพูชา
จากการเฝ้าติดตามของสมัชชาฯ และเครือข่ายคนไทยฯ พบว่า ทหารกล้าของชาติจากกองทัพภาคที่ 2 ได้ประสานงานและกดดันให้ฝ่ายกัมพูชารื้อทำลายป้ายที่ใส่ร้ายประเทศไทย และยังส่งกำลังทหารจำนวนหนึ่งไปรักษาพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และได้นำธงชาติไทยไปปักไว้ใกล้ “สถูปคู่” บนเขาพระวิหาร ผิดกับนักการเมืองที่ปกครองประเทศอยู่ในขณะนี้ ดีแต่พูดให้คุณประโยชน์ต่อกัมพูชา ซึ่งคำพูดดังกล่าวจะมีผลต่อไปในอนาคตที่อาจทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาได้
ดังนั้น วันนี้ (2 ก.พ.) ภาคประชาชนทั้ง 2 องค์กร จึงเดินทางมารวมตัวกันเพื่อแสดงความขอบคุณ และให้กำลังใจแก่ทหารของกองทัพภาคที่ 2 ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องดินแดนไทย โดยไม่ต้องฟังเสียงนักการเมืองที่มุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม และจะทำให้ไทยเสียดินแดนในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเสียดินแดนครั้งที่ 15 ของประเทศไทย
ทั้งนี้ ภาคประชาชนหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่า ทหารหาญของชาติจากกองทัพภาคที่ 2 จะปกป้องแผ่นดินไทยไม่ยอมให้ศัตรูผู้ละโมบยึดครองแผ่นดินของเราได้
“พวกเราพร้อมเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้รักชาติทุกกลุ่ม เพื่อร่วมกันปกป้องผืนแผ่นดินไทยและเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก MOU43 ที่ทำไว้กับกัมพูชาโดยเร็ว ที่สำคัญ รัฐบาลต้องช่วยเหลือ 2 คนไทยที่ถูกเขมรสั่งจำคุกออกมาให้เร็วที่สุดเพราะทั้ง 2 ไม่มีความผิด” นายไชยยงค์ กล่าว
จากนั้นกลุ่มภาคประชาชนดังกล่าว ได้ร่วมกันร้องเพลง “สุดแผ่นดิน” เพื่อเตือนสติให้คนไทยและทหารนึกถึงความเป็นชาติของไทยที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร และร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยไม่ให้ใครมาแย่งชิงไปได้ ก่อนสลายการชุมนุมไป
