xs
xsm
sm
md
lg

ทหารไทยเสริมกำลังชักธงชาติเหนือ “เขาวิหาร” โต้เขมร ตึงเครียดหนัก-คนเขียนตำนานสร้าง “ปราสาท” จี้ รบ.ไล่กัมพูชาพ้น 4.6 ตร.กม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารพรานไทยสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชักธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาบริเวณใกล้ สถูปคู่ บนเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ตอบโต้ฝ่ายเขมร วันนี้ ( 31 ม.ค.)
ศรีสะเกษ - ทหารไทยทัพภาค 2 กว่า 300 นาย เสริมกำลังชายแดนเขาพระวิหาร เตรียมรับมือเขมรเปิดฉากโจมตี พร้อมชักธงชาติไทย ขึ้นสู่ยอดเสาตรงบริเวณใกล้ “สถูปคู่” บนเขาพระวิหาร แสดงความเป็นเจ้าของเขตแดนไทยตอบโต้ ด้านเขมรไม่ยอมปลดธงหน้าวัดแก้วฯ แต่เสริมกำลังพร้อมรบเต็มที่ทำตึงเครียดหนัก ด้านคนเขียนตำนานการสร้าง “ปราสาทพระวิหาร” วอน รบ.ไทยเข้มแข็งเร่งผลักดันเขมรพ้นพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เขาพระวิหารโดยด่วนที่สุด จี้ ทหารทำสงครามศักดิ์สิทธิ์รักษาดินแดนไทยไว้ให้ลูกหลาน

วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีทหารไทยสังกัดกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) พร้อมอาวุธปืนเต็มอัตรา มาตั้งด่านตรวจเข้มรถทุกชนิด และประชาชนที่ผ่านเข้า-ออกบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในช่วงนี้มีทหารไทยพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เดินทางโดยรถยนต์ปิกอัพส่วนตัว และรถบรรทุกทหารผ่านเข้า-ออกอย่างคึกคักแทบตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายอยู่ที่บริเวณชายแดนรอบเขาพระวิหาร

ล่าสุด ตลอดคืนวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ทหารไทยประมาณ 300 นาย สังกัดกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จาก จ.สุรินทร์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ยโสธร ได้เคลื่อนกำลังพลมาที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร โดยใช้ห้วงเวลากลางคืนเพื่อพรางตัว และเข้าไปประจำยังฐานปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทหารไทยที่เคลื่อนกำลังพลมาในครั้งนี้เป็นทหารที่มาความชำนาญในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหารเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชาที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ต่อมา เมื่อเวลา 11.45 น.วันเดียวกันนี้ (31 ม.ค.) ที่บริเวณใกล้กับสถูปคู่ติดกับฐานตรวจการณ์ผามออีแดง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารพรานสังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำเอาธงชาติไทยชักขึ้นสู่ยอดเสาตรงบริเวณใกล้กับจุดสถูปคู่ เขาพระวิหาร เพื่อเป็นการตอบโต้ทางการกัมพูชากรณีนำธงชาติมาติดตั้งบริเวณประตูทางเข้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดของทหารไทยและกัมพูชาที่ตรึงกำลังอยู่รอบเขาพระวิหาร

แหล่งข่าวทางทหารเปิดเผยว่า ขณะนี้ธงชาติของกัมพูชาที่ติดไว้บริเวณทางเข้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระก็ยังไม่ได้ถูกปลดลงมาแต่อย่างใด ซึ่งทหารกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังบริเวณบนเขาพระวิหาร เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีอย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศบริเวณเขาพระวิหารตรึงเครียดเป็นอย่างมาก

นายคณิต แสนสา อายุ 79 ปี เจ้าของโรงเรียนแสนสาวิทยา อยู่บ้านเลขที่ 085 ม.2 บ้านหนองหญ้าลาด ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นคนเขียนตำนานการสร้างปราสาทพระวิหาร กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2502 ขณะนั้นตนเป็นครูสอนอยู่ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กรมศิลาปากร ได้มาขอให้พวกตนซึ่งเป็นข้าราชการครูขึ้นไปที่บริเวณปราสาทพระวิหารเพื่อร่วมกันบูรณะปราสาทพระวิหาร ซึ่งในช่วงนั้น ทางฝ่ายกัมพูชาเองก็ไม่รู้ว่ามีปราสาทพระวิหารอยู่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ จนกระทั่งเป็นข่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาตรวจสอบและฟ้องศาลโลกจนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2505 ศาลโลกจึงได้มีคำพิพากษาให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร แต่ไม่ใช่เขาพระวิหารทั้งลูก

นายคณิต กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ชาวกัมพูชาจะอยู่บริเวณปราสาทโคปุระชั้น 2 แต่ต่อมาคนไทย และคนศรีสะเกษบางคน ใจดีเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้องไปทำการสร้างห้องแถวสังกะสีที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารขายให้กับชาวกัมพูชา ดังนั้น ชาวกัมพูชาจึงได้พากันเคลื่อนย้ายลงมาอยู่ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร หรือเชิงบันไดขึ้นปราสาทพระวิหาร และสร้างบ้านเรือน ร้านค้า รวมทั้งสร้างวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระขึ้นมา พร้อมทั้งปักธงชาติกัมพูชาเพื่อเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของดินแดนดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) รอบเขาพระวิหาร

ตนเห็นว่า รัฐบาลไทยควรแสดงความเข้มแข็งโดยการผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดน 4.6 ตร.กม.โดยด่วนที่สุด ซึ่งหากว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ยินยอมออกไปก็ควรสั่งการให้ทหารไทยใช้กำลังอาวุธเข้าผลักดันออกไป ซึ่งทหารไทยควรที่จะกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาดินแดนไทยไว้ให้ลูกหลาน และไม่ต้องกลัวว่าประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะมาประณามไทย เพราะทหารไทยทำสงครามแค่ผลักดันให้ชาวกัมพูชาออกไปจากเขตพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน 4.6 ตร.กม.เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการทำสงครามรุกรานเพื่อยึดกรุงพนมเปญของประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด

ทหาร กกล.สุรนารี กองทัพภาคที่ 2  ตั้งด่านตรวจเข้มการผ่านเข้า-ออก บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
กำลังโหลดความคิดเห็น