ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “มทภ.2” บุกเจรจา “บิ๊กทหารเขมร” ทุบป้ายด่าทหารไทยรุกรานดินแดนกัมพูชา ที่วัดแก้วฯ บนเขาพระวิหาร เผย ทหารเขมรสุดแสบป่วนจนนาทีสุดท้าย ผุดป้าย “ที่นี่ คือ กัมพูชา” ระบุ ทหารพรานไทยสลักข้อความบนก้อนหิน ตอกกลับ “เขาพระวิหาร เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์” เช่นกัน ทำสถานการณ์ชายแดนศรีสะเกษ ตึงเครียดหนักหวิดปะทะ สุดท้ายนายทหาร 2 ฝ่าย เจรจาลงเอยด้วยดี จับมือร่วมทุบรื้อถอนป้ายแผ่นหิน และลบข้อความบนก้อนหินทิ้งทั้งหมด
วันนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่ทหารกัมพูชาได้จัดทำป้ายประณามกล่าวหาทหารไทย ว่า รุกรานรุกล้ำดินแดนของกัมพูชา ที่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และฝ่ายไทยเรียกร้องให้กัมพูชารื้อถอนป้ายดังกล่าวออก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ซึ่งต่อมาในวันนี้หนังสือพิมพ์ของกัมพูชารายงานระบุว่า ล่าสุด กัมพูชาได้ทำการรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกแล้ว และได้ขึ้นป้ายข้อความใหม่ระบุข้อความชัดเจนกว่าเดิม ว่า “Here is Cambodia” หรือ ที่นี่ คือกัมพูชา แทนนั้น
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องการเปลี่ยนป้ายของฝ่ายกัมพูชา ที่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ตนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตรับผิดชอบของทหาร ซึ่งต้องให้ทางฝ่ายทหารได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องป้ายในเร็วๆ นี้ ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ศรีสะเกษ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องป้ายดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงกับนายทหารระดับสูง ของกองทัพภาคที่ 2 แต่ยังไม่ได้ให้ข้อมูลหรือความกระจ่างที่ชัดจัดในเรื่องดังกล่าว ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากขึ้นป้ายว่า “ที่นี่ คือ กัมพูชา” แล้ว ฝ่ายกัมพูชาได้มีการเคลื่อนกำลังทหารจำนวนมากมาประชิดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร
โดยฝ่ายทหารกัมพูชาที่เคลื่อนกำลังมาตรึงกำลังบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นี้ ส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารเขมรแดง ซึ่งอดีตอยู่ภายใต้การนำของ นายพล ตาม็อก อดีตนายพลขาด้วนจอมโหดแห่งกัมพูชา ที่เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากหากมีการปะทะกันกับทหารไทยขึ้นมา อดีตทหารเขมรแดงเหล่านี้จะมีความเชี่ยวชาญในการรบบริเวณพื้นที่เขาพระวิหารมากกว่า เพราะมีความเชี่ยวชาญและรู้พื้นที่บริเวณเขาพระวิหารเป็นอย่างดีมาก่อน
ขณะที่ทหารไทยยังไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารเพิ่มเติม แต่มีคำสั่งให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยทหารที่ประจำการอยู่ในแนวรบทุกนายได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อม 100% และให้ขึ้นลำกล้องอาวุธประจำกาย ส่งผลให้สถานการณ์ชายแดนเขาพระวิหารตลอดช่วงเช้าวันนี้ (26 ม.ค.) ตึงเครียดเป็นอย่างมาก
แหล่งข่าวทหารกองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนี้ (26 ม.ค.) พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อมด้วย พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนาร, รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2, พ.อ.วุฒิ แสงจักร รอง ผบ.กองกำลังสุรนารี, ผู้แทนฝ่ายอำนวยการ, กองข่าว, กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 และกำลังทหารรวมประมาณ 20 นายพร้อมอาวุธครบมือ ได้เดินทางขึ้นไปยังบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก่อนขึ้นไปยังเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ เพื่อเจรจากับคณะนายทหารกัมพูชาที่รับผิดพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร กรณีที่ฝ่ายกัมพูชาจัดทำป้ายแผ่นหินประณามทหารไทย ว่า รุกรานดินแดนของกัมพูชา ที่ บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ และต่อมาได้เปลี่ยนป้ายระบุข้อความว่า “Here is Cambodia” หรือ ที่นี่ คือกัมพูชา ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ทหารพรานไทยก็ได้สลักข้อความลงบนก้อนหินใต้ต้นไม้บริเวณวัดแก้วฯ เช่นกันในทำนองว่า เขาพระวิหารเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ พร้อมลงชื่อหน่วยสังกัดทหารพรานของไทย และทางทหารกัมพูชาเองก็ได้มาเขียนระบุข้อความเดียวกับป้ายแผ่นหินที่กล่าวหาว่าทหารไทยรุกรานดินแดนกัมพูชา ลงบนหินก้อนนี้อีกเช่นกัน
โดยเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร คณะนายทหารกัมพูชา นำโดย พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาทหารสูงสุด กัมพูชา, พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กัมพูชารับผิดชอบพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร ได้เดินทางลงมาต้อนรับคณะของแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมได้พูดคุยเจรจากันประมาณ 30 นาที จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทุบทำลายป้ายแผ่นหินและลบข้อความที่สลักบนก้อนหินบริเวณวัดแก้วฯ เขาพระวิหาร ของแต่ละฝ่าย ทั้งหมดโดยทันที
จากนั้นเวลาประมาณเวลา 12.30 น.คณะนายทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้เดินตามเส้นทางบันไดขึ้นปราสาทพระวิหาร ไปยังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหาร เพื่อร่วมกันรื้อทุบทำลายป้ายแผ่นหินและลบข้อความที่สลักบนก้อนหิน ของทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ดังกล่าว ก่อนที่นายทหารทั้ง 2 ฝ่าย จะได้ร่วมพูดคุยหารือกันอีกครั้ง
แหล่งข่าวทหารคนเดิม ระบุว่า การพูดคุยหารือร่วมกันดังกล่าว พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ย้ำกับนายทหารฝ่ายกัมพูชาในเรื่องเกี่ยวกับเงื่อนไขข้อตกลงเดิมที่ได้พูดคุยกันไว้ โดยเฉพาะการก่อสร้าง เปลี่ยนแปลงสภาพ หรือกระทำการใดๆ ในพื้นที่อ้างสิทธิ์บนเขาพระวิหารนั้นไม่สามารถได้ ส่วนเงื่อนไขการลาดตระเวนร่วมกันของทหารไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 5 นาย ตามที่ตกลงกันไว้ ก็ต้องให้ทหารฝ่ายไทยเข้าไปในวัดแก้วฯ ได้ตลอดเวลา จากนั้นคณะของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงได้เดินทางกลับ ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ลดความตึงเครียดลง
ทั้งนี้ แหล่งข่าวทหารกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเดินทางร่วมกับคณะแม่ทัพภาคที่ 2 ขึ้นไปเจรจากับคณะนายทหารกัมพูชาที่เขาพระวิหารในวันนี้ด้วยยืนยัน ว่า ข้อความที่ทหารพรานไทยสลักไว้บนก้อนหินขนาดใหญ่ใต้ต้นไม้ บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ นั้น ไม่ได้สลักข้อความ ว่า “ที่นี่ ประเทศไทย” อย่างชัดเจนตามที่สื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ขนาดนั้น แต่เป็นข้อความเดิมที่สลักไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยเป็นการสลักข้อความยาวประมาณ 2 บรรทัด มีใจความทำนองว่า เขาพระวิหาร เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ แล้วตอนท้ายได้ ระบุหน่วยต้นสังกัดทหารพรานไทย ไว้ และหินก้อนนี้ ทางฝ่ายทหารกัมพูชาก็ได้มาเขียนข้อความเดียวกับป้ายแผ่นหินที่กล่าวหาว่า ทหารไทยรุกรานดินแดนกัมพูชา ลงบนหินก้อนนี้ด้วยเช่นกัน แต่อยู่คนละด้าน