ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “มทภ.2” ย้ำให้เขมรรื้อถอนป้ายแผ่นหินด่าไทยรุกล้ำดินแดน “เขาพระวิหาร” ออกโดยเร็วที่สุด เผย ทุกฝ่ายกำลังดำเนินการประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาอยู่ แต่ล่าสุดเขมรยังไม่ยอม เชื่อไม่ดึงดันต่อ ยันทหารไทยปกป้องอธิปไตยรักษาดินแดนสุดชีวิต อ้างยังร่วมลาดตระเวนในวัดแก้วฯอยู่ วอนปชช.ใช้ใช้สติ อย่าใจร้อนตามการยั่วยุของกัมพูชา อาจทำให้ไทยเสียเปรียบ ชี้ สงครามความรู้สึกทำแก้ปัญหายาก
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยกรณีฝ่ายกัมพูชา จัดทำป้ายแผ่นหินระบุข้อความทหารไทยเป็นผู้รุกราน รุกล้ำดินแดนของกัมพูชาที่ บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหาร พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และไม่ยอมรื้อถอนตามข้อเรียกร้องของฝ่ายไทย ว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ชี้แจงต่อสื่อไปแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมาคงอยู่ในขั้นตอนการประสานงาน แต่ระดับพื้นที่ก็ได้มีการประสานงานกันอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดคงให้ทางส่วนกลางของเขาสั่งมา คาดว่า คงจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใดในส่วนนี้
ต่อข้อถามที่ว่าทางฝ่ายกัมพูชายอมทำตาม หรือมีท่าทีอ่อนลงหรือไม่ พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ตอนนี้เขาก็ไม่ยอม แต่เราก็พูดคุยกันตามปกติ ไม่มีอะไร ทางฝ่ายกัมพูชาคงต้องรอคำสั่งจาก สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีเพราะท่านจะดูรายละเอียดในส่วนนั้น ฝ่ายทหารเขาอ้างว่าเป็นส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ทางทหารก็ไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ขอให้ทางส่วนกลางเป็นคนแจ้งมา
จากการประสานไปได้แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทำการรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกภายในกี่วัน พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ทางเราไม่ได้กำหนดวันที่แน่ชัด แต่ขอให้ถอนออกไปเร็วที่สุด เพราะเราต้องการชี้แจงทางฝ่ายเรา ประชาชนจะได้เข้าใจในส่วนนี้ สำหรับป้ายดังกล่าวของกัมพูชา จากการตรวจสอบทราบว่ามีการนำป้ายดังกล่าวมาติดตั้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2554 ในส่วนของทหารเราได้ทำการประท้วง และสอบถามไปแล้วว่ามาปักทำไม เขาแจ้งกลับมาว่า ทางฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาเป็นคนทำมา ไม่ได้มาทำในพื้นที่แต่ยกป้ายมาตั้งเลย เพียงแต่หล่อปูนที่ฐานเท่านั้น และยังมีการเขียนข้อความเดียวกันเป็นตัวหนังสือสีทองไว้บนก้อนหินขนาดใหญ่ด้านหลังวัดแก้วฯ ด้วย
สำหรับการประท้วงกับทางการกัมพูชานั้น นอกจากการประท้วงด้วยวาจาแล้ว ยังได้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศของไทยให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังประเทศกัมพูชาด้วย ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ในส่วนของการประท้วงของฝ่ายทหาร ก็ประท้วงไปแต่ที่ผ่านมาก็ไม่เป็นผล เพียงแต่ต้องการให้ระดับผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแต่คงใช้ระหว่างประเทศไม่ได้ ก็คงต้องให้ทางฝ่ายรัฐบาลเป็นคนดำเนินการในเรื่องนี้
ต่อข้อถามที่ว่า หากกัมพูชายังดึงดันไม่ยอมรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกไปจะมีมาตรการดำเนินการกดดันอย่างไร พล.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า เขาคงไม่ดึงดันอะไร หากมีการเจรจาแล้วเชื่อว่าเขาคงเข้าใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะทำอะไรในพื้นที่ทับซ้อนไม่เป็นของใครแน่ชัดนั้น ให้คณะกรรมการปักปันเขตแดน หรือ เจบีซี เข้ามาดำเนินการก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินการก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ประชาชนทั้ง 2 ประเทศไม่สามารถจะไปดำเนินการอะไรได้
ปัญหาการปักป้ายดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดขึ้นหรือไม่โดยเฉพาะป้ายข้อความดังกล่าวมีความรู้สึกต่อประชาชนคนไทยอย่างมากว่า นั้น พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ขอเรียนตรงๆ ว่า ตนก็ไม่อยากชี้แจงอะไรมาก มันก็มองกันคนละมุม คนของเขาบอกว่ามีความรู้สึกเช่นนั้น เขาก็เขียนตามความรู้สึกของเขา แต่เรามามองของเราก็คนละความรู้สึก ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก คือ ทางเราก็ประสานงานเรื่องนี้อยู่ ทั้งผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศช่วยกันอยู่ในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนดูแลพื้นที่ชายแดนด้านนี้อยู่ยังยืนยันชัดเจนว่า ทหารทุกคนคือประชาชนเพียงแต่แต่งเครื่องแบบมาทำงาน ทำหน้าที่ดูแลปกป้องอธิปไตยของชาติ ในจุดไหนที่เป็นดินแดนของเราต้องรักษาไว้จนสุดชีวิต ไม่ต้องห่วงในส่วนนั้น แต่การที่ฝ่ายเขาจะขึ้นหรือปักป้ายอะไรมายั่วยุก็ต้องพยายามใช้สติให้คิดว่าเขาทำเช่นนี้แล้วได้อะไรขึ้นมา ถ้าเราไปใจร้อนเลยอาจไปเสียเปรียบเขาได้ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ ยืนยันว่า เราพยายามจะให้เขาดำเนินการตามที่เราต้องการในส่วนนี้อยู่ เราก็ต้องรู้ว่าเขาต้องการอะไร เพราะจริงๆ แล้วไม่ได้มีประโยชน์ในเรื่องชายแดนอะไรมากมาย เพียงแต่ว่าเป็นความรู้สึก ซึ่งสงครามความรู้สึกมันจะทำให้ตนแก้ไขปัญหาได้ยากนิดหนึ่งในส่วนนี้
“น้องๆ สื่อมวลชนก็อยากให้เข้าใจว่า ถ้าถามทุกวันแล้วไปลงผิดที่ผมพูดไปเยอะมากมันก็ทำให้ผมเจรจาลำบากในส่วนนี้ ก็ไม่อยากสัมภาษณ์อะไรมาก ต้องขอนิดหนึ่ง ในส่วนของวัดแก้วฯ นั้น ยืนยันว่า ยังมีทหารไทยร่วมลาดตระเวนกับกัมพูชาอยู่ และเราเดินเข้าไปดูในวัดได้ไม่มีปัญหาอะไร” พล.ท.ธวัชชัย กล่าว
