ASTVผู้จัดการรายวัน-"โสภณ"เปิดเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยารถไฟฟ้าสายสีแดงบางชื่อ-ตลิ่งชัน คาดเปิดให้บริการได้ตามแผนปี 2555 นี้ สั่งใช้รถไฟดีเซลวิ่งไปก่อนระหว่างรถสายบางซื่อ-รังสิต ด้าน "คมนาคม" ชงร่างเอ็มโอยูรถไฟความเร็วสูงต่อบอร์ดชุด "สุเทพ" พิจารณาวันนี้ ก่อนเสนอครม.เห็นชอบเดินหน้าเจรจาจีน
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในการเป็นประธานในพิธี “เชื่อมสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี โครงการระบบรถไฟชานเมือง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน” ณ ทางยกระดับรถไฟสายสีแดง สะพานพระราม 6 วานนี้ (15 ก.พ.) ว่า เป็นการเชื่อมสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ช่วยให้โครงข่ายรถไฟสายสีแดงช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาให้สมบูรณ์ เชื่อมต่อฝั่งพระนคร (เขตบางซื่อ) และฝั่งธนบุรี (เขตบางพลัด และอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยก่อสร้างเป็นสะพานรถไฟทางคู่ สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีสถานีบางกรวย-กฟผ. และสถานีสะพานพระราม 6 ให้บริการประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ ตามกำหนดรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จะก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จในปี 2555 แต่มีปัญหางานระบบรถไฟฟ้ายังไม่เรียบร้อย เนื่องจากสัญญางานระบบรถไฟฟ้ายังอยู่ในระหว่างการเปิดประมูล ซึ่งระยะเวลาดำเนินการไม่สอดคล้องกับการก่อสร้างงานโยธา ดังนั้น จึงมอบนโยบายแก่ร.ฟ.ท.ให้นำรถดีเซลที่มีในปัจจุบันวิ่งให้บริการไปก่อน เพื่อโครงการเกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ยอมรับว่าการนำรถดีเซลวิ่งบริการ อาจจะทำให้ผู้โดยสารไม่สะดวกมากนัก
นายยุทธนา ทัพเจริญผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้รถดีเซลวิ่งให้บริการประมาณ1-2ปี หลังก่อสร้างเสร็จเนื่องจากสัญญางานระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเป็นสัญญาเดียวกับช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งจะเปิดเดินรถได้ต้องรอให้การก่อสร้างงานโยธาช่วงบางซื่อ-รังสิตแล้วเสร็จก่อน คาดว่าประมาณปี 2557โดยล่าสุดอาจจะล่าช้าไปถึงปี 2558เนื่องจากใช้เงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งมีขั้นตอนในการพิจารณาผลการประมูลที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบราง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2550 และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.2552 เป็นต้นมา ในวงเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 8,749 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 1,100 วัน ซึ่งคาดว่างานก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแก่ประชาชนในปี 2555 นี้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันนี้ (16 ก.พ.) กระทรวงคมนาคมจะเสนอร่างบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทย-จีน ฝ่ายไทย ให้กับคณะกรรมการประสานงานความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนากรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณา และหากที่ประชุมไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม
ในขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการเสนอร่างดังกล่าวให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ก่อนเริ่มการเจรจากับจีนต่อไป
ส่วนแนวทางการลงทุนนั้น กระทรวงการคลังจะรับหน้าที่ไปศึกษาความเหมาะสม โดยเฉพาะการแบ่งสัดส่วนการลงทุน ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงการคลังอยากให้ไทยถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า 51% ขึ้นไป แต่จะต้องมีการหารือกันในคณะกรรมการอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสม
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในการเป็นประธานในพิธี “เชื่อมสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี โครงการระบบรถไฟชานเมือง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน” ณ ทางยกระดับรถไฟสายสีแดง สะพานพระราม 6 วานนี้ (15 ก.พ.) ว่า เป็นการเชื่อมสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ช่วยให้โครงข่ายรถไฟสายสีแดงช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาให้สมบูรณ์ เชื่อมต่อฝั่งพระนคร (เขตบางซื่อ) และฝั่งธนบุรี (เขตบางพลัด และอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยก่อสร้างเป็นสะพานรถไฟทางคู่ สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีสถานีบางกรวย-กฟผ. และสถานีสะพานพระราม 6 ให้บริการประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ ตามกำหนดรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จะก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จในปี 2555 แต่มีปัญหางานระบบรถไฟฟ้ายังไม่เรียบร้อย เนื่องจากสัญญางานระบบรถไฟฟ้ายังอยู่ในระหว่างการเปิดประมูล ซึ่งระยะเวลาดำเนินการไม่สอดคล้องกับการก่อสร้างงานโยธา ดังนั้น จึงมอบนโยบายแก่ร.ฟ.ท.ให้นำรถดีเซลที่มีในปัจจุบันวิ่งให้บริการไปก่อน เพื่อโครงการเกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ยอมรับว่าการนำรถดีเซลวิ่งบริการ อาจจะทำให้ผู้โดยสารไม่สะดวกมากนัก
นายยุทธนา ทัพเจริญผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้รถดีเซลวิ่งให้บริการประมาณ1-2ปี หลังก่อสร้างเสร็จเนื่องจากสัญญางานระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเป็นสัญญาเดียวกับช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งจะเปิดเดินรถได้ต้องรอให้การก่อสร้างงานโยธาช่วงบางซื่อ-รังสิตแล้วเสร็จก่อน คาดว่าประมาณปี 2557โดยล่าสุดอาจจะล่าช้าไปถึงปี 2558เนื่องจากใช้เงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งมีขั้นตอนในการพิจารณาผลการประมูลที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบราง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2550 และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.2552 เป็นต้นมา ในวงเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 8,749 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 1,100 วัน ซึ่งคาดว่างานก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแก่ประชาชนในปี 2555 นี้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันนี้ (16 ก.พ.) กระทรวงคมนาคมจะเสนอร่างบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทย-จีน ฝ่ายไทย ให้กับคณะกรรมการประสานงานความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนากรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณา และหากที่ประชุมไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม
ในขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการเสนอร่างดังกล่าวให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ก่อนเริ่มการเจรจากับจีนต่อไป
ส่วนแนวทางการลงทุนนั้น กระทรวงการคลังจะรับหน้าที่ไปศึกษาความเหมาะสม โดยเฉพาะการแบ่งสัดส่วนการลงทุน ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงการคลังอยากให้ไทยถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า 51% ขึ้นไป แต่จะต้องมีการหารือกันในคณะกรรมการอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสม
