รมว.คมนาคม ร่วมสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ 113 ปี ยันรัฐพร้อมทุ่มงบ จำนวนกว่า 1.5 แสนล้าน เพื่อพัฒนารถไฟไทยแบบครบวงจร รอบด้าน เดินหน้ายกเครื่ององค์กรใหม่ แจงแผนรูปธรรม ทั้งการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ การพัฒนารถไฟทางคู่ การปรับปรุงบริการ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทางรถไฟ หลังพบประชาชนนิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟย้อนยุค
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ 113 ปี โดยในช่วงเช้าได้มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 59 รูป และสักการะพระรูปรัชกาลที่ 5 และกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน รวมทั้งได้ทำพิธีเปิดขบวนรถพิเศษรถจักรไอน้ำ เส้นทางกรุงเทพฯ-อยุธยา
นายโสภณ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 113 ปี ของการดำเนินกิจการรถไฟฯและตรงกับปีที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายจะพัฒนากิจการรถไฟทุกด้าน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยตามนโยบายปีแห่งความปลอดภัย โดยปีนี้จะมีการเร่งรัดแก้ปัญหาเพื่อการใช้บริการรถไฟให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยเฉพาะจุดตัดรถไฟที่สำคัญ
“ปีนี้รัฐบาลทุ่มงบประมาณกว่า 150,000 ล้านบาท พัฒนารถไฟ เช่น การจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ การพัฒนารถไฟทางคู่ การปรับปรุงบริการ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทางรถไฟ ซึ่งวันนี้เห็นได้ชัดว่าประชาชนจำนวนมากได้ให้ความสนใจท่องเที่ยวทางรถไฟโดยหัวรถจักร เพื่อย้อนรำลึกประวัติศาสตร์”
ขณะเดียวกัน ปีนี้โครงการแอร์พอร์ตลิงก์จะเปิดให้บริการด้วย โดยการพัฒนาด้านต่างๆ กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายประชาชนผู้ใช้บริการจะต้องสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนในปีนี้
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ ร.ฟ.ท.จะดำเนินงานเร่งรัดการแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยเฉพาะปัญหาจุดตัดรถไฟกับถนนประมาณ 100 จุด ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้ทำการของบไทยเข้มแข็งเพื่อเร่งแก้ปัญหาจำนวน 450 ล้านบาท
โดยทั้งหมดจะมีการก่อสร้างเครื่องกั้นทางรถไฟให้แล้วเสร็จในปีนี้ โดยวันที่ 2 เมษายน 2553 นี้ ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.และผู้บริหารกระทรวงคมนาคมจะชี้แจงถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณดังกล่าวกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์