วานนี้ (10 ก.พ.) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ร่วมหารือกับบรรดาแกนนำพรรค โดยมีนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมด้วย เพื่อเตรียมการจัดประชุมใหญ่ประจำปี 2554 ในวันที่ 25 มี.ค. และงานระดมทุนของพรรค ในวันที่ 12 มี.ค.54
นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ไม่เกินครึ่งปีแรกนี้ว่า อำนาจการยุบสภาอยู่ที่นายกฯ แต่ตอนนี้เหตุการณ์บ้านเมืองตึงเครียด พอสมควร ตนก็เห็นใจนายกฯ ที่ต้องใช้ความอดทน ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าขณะนี้สถานการณ์ไม่เหมาะสมแก่การยุบสภาหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่นายอภิสิทธิ์ จะคิดอย่างไร ต้องดูว่าเหตุการณ์ขณะนี้จะคลี่คลายได้หรือไม่ เพราะถ้านายอภิสิทธิ์ คลี่คลายสถานการณ์ไม่ได้ ก็อาจจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา เช่น การยุบสภา เพื่อให้เรื่องราวต่างๆจบลง แต่ตนคิดว่า แม้จะยุบสภาแล้วก็ไม่จบ ไม่มีทางจบ เช่น ปัญหาชายแดนจะต้องแก้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ให้บ้านเมืองสงบราบเรียบ ถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสม
นายบรรหาร กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การโหวต วาระ 3 ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ไม่น่าจะมีปัญหา และรัฐบาลยังต้องเจอกับปัญหารับมติการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อีกภายในเดือนนี้ เมื่อถามว่าเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เคยงดออกเสียง จะกลับมาโหวตให้กับเสียงส่วนใหญ่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็คงมีบ้าง
ต่อข้อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สบายใจต่อกรณี การโหวตวาระ 3 ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ขอให้ดูการโหวตในวาระ 2 นั่นคือคำตอบ ส่วนกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา มีจุดยืนอย่างไร ก็ต้องปล่อยไป ต้องให้เกียรติท่านด้วย ในเมื่อเดินหน้าไปไกลแล้ว จะให้หันหลังกลับทันที คงไม่ได้ เพราะถ้าเป็นตนเอง ก็ทำไม่ได้ ดังนั้นต้องให้เกียรติพล.ต.สนั่น ซึ่งนายกฯ และนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เข้าใจดี
เมื่อถามว่าหากนายกฯ ยุบสภาในเร็ววันนี้ ทางพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมเลือกตั้งหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า พร้อม แต่ยุบสภาก็ไม่ทำให้เหตุการณ์สงบ ไม่เกิดประโยชน์ รัฐบาลต้องแก้ปัญหาสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ให้เรียบร้อย ให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันเสียก่อน ถ้าไปจัดการเลือกตั้งตอนนี้ ยิ่งยุ่งกันใหญ่ ให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่เรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะดำเนินการได้
** "บรรหาร"ดักคอ ปฏิวัติยิ่งยุ่ง
นายบรรหาร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติว่า คงเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีการปฏิวัติ จะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมสีเสื้อต่างๆออกมา ยิ่งเพิ่มความวุ่นวายไปกันใหญ่ เป็นการถอยหลังเข้าคลอง ไม่ควรมีการปฏิวัติในตอนนี้
"ปัญหามันพอๆกัน ทั้งภายใน ภายนอก มันไม่มีใครที่จะเหนือกว่าใคร ภายในก็เยอะ ภายนอกก็เยอะ เห็นใจนายกฯ ผมก็อยากขอร้องฝ่ายต่างๆว่า ให้เห็นแก่ชาติบ้านเมืองกันหน่อย ตอนนี้ประเทศชาติจะแย่อยู่แล้ว อย่าให้แย่ยิ่งไปกว่านี้เลย ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ความจริงผมจะด่าคนบางคน ทั้งที่ไม่อยากจะด่า"
เมื่อถามว่า คนที่อยากด่าอยู่ในหรือนอกประเทศ นายบรรหาร กล่าวว่า " เอาอย่างนี้ดีกว่า ใครทำดี ก็ได้ดี ใครทำไม่ดี ก็ไม่ดี กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นก็รับไป มันอาจจะเจอเข้ากับใครบางคนก็ได้ ส่วนคนนั้นเป็นใคร ผมไม่บอก"
**ตั้งเป้าได้ส.ส.40-5 คน
ด้านนายชุมพล กล่าวว่า การโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.พ.นี้ พรรคมีมติโหวตเช่นเดียวกับเมื่อครั้งรับร่างวาระ 2 แม้ว่าจะงดออกเสียงไปบ้าง ก็ไม่มีปัญหา เพราะทุกพรรคก็มีเหมือนกัน แล้วแต่บุคคลไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และเท่าที่ทราบ เห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย
"การยุบสภาขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเงื่อนไขต่างๆ ถ้าทุกอย่างลงตัว นายกฯคงยุบสภาในครึ่งปีแรก แต่ถ้าไม่เรียบร้อย อาจจะมียืดเยื้อไปบ้าง เชื่อไม่ถึงสิ้นปี ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา มีความพร้อมทุกนาที พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเมื่อไร ได้ทั้งนั้น โดยเป้าหมายของพรรค ขอให้ได้เท่าเดิม 40-50 คน ก็พอแล้ว เพราะเรามักน้อย
**วอนส.ว.หนุนแก้รธน.วาระ 3
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า ขอเรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุนการโหวตครั้งนี้ เพราะเป็นโอกาสสำคัญในการปฏิรูปการเมืองและแก้วิกฤตของบ้านเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่มีความสงบ ยุติธรรม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลมีการล็อบบี้ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ส.ว.ให้มาโหวตสนับสนุนนั้น ยืนยันว่า ส.ว.ทำงานอิสระ และรัฐบาลก็ไม่มีแนวคิดเช่นนั้นแน่นอน รัฐบาลจะใช้เหตุผลเรื่องประโยชน์ต่อส่วนรวมในการขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ให้โหวตตามแนวทางของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง การเลือกตั้งที่ยุติธรรม และไม่ให้มีการเมืองนอกสภาอีก
นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ไม่เกินครึ่งปีแรกนี้ว่า อำนาจการยุบสภาอยู่ที่นายกฯ แต่ตอนนี้เหตุการณ์บ้านเมืองตึงเครียด พอสมควร ตนก็เห็นใจนายกฯ ที่ต้องใช้ความอดทน ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าขณะนี้สถานการณ์ไม่เหมาะสมแก่การยุบสภาหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่นายอภิสิทธิ์ จะคิดอย่างไร ต้องดูว่าเหตุการณ์ขณะนี้จะคลี่คลายได้หรือไม่ เพราะถ้านายอภิสิทธิ์ คลี่คลายสถานการณ์ไม่ได้ ก็อาจจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา เช่น การยุบสภา เพื่อให้เรื่องราวต่างๆจบลง แต่ตนคิดว่า แม้จะยุบสภาแล้วก็ไม่จบ ไม่มีทางจบ เช่น ปัญหาชายแดนจะต้องแก้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ให้บ้านเมืองสงบราบเรียบ ถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสม
นายบรรหาร กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การโหวต วาระ 3 ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ไม่น่าจะมีปัญหา และรัฐบาลยังต้องเจอกับปัญหารับมติการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อีกภายในเดือนนี้ เมื่อถามว่าเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เคยงดออกเสียง จะกลับมาโหวตให้กับเสียงส่วนใหญ่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็คงมีบ้าง
ต่อข้อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สบายใจต่อกรณี การโหวตวาระ 3 ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ขอให้ดูการโหวตในวาระ 2 นั่นคือคำตอบ ส่วนกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา มีจุดยืนอย่างไร ก็ต้องปล่อยไป ต้องให้เกียรติท่านด้วย ในเมื่อเดินหน้าไปไกลแล้ว จะให้หันหลังกลับทันที คงไม่ได้ เพราะถ้าเป็นตนเอง ก็ทำไม่ได้ ดังนั้นต้องให้เกียรติพล.ต.สนั่น ซึ่งนายกฯ และนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เข้าใจดี
เมื่อถามว่าหากนายกฯ ยุบสภาในเร็ววันนี้ ทางพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมเลือกตั้งหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า พร้อม แต่ยุบสภาก็ไม่ทำให้เหตุการณ์สงบ ไม่เกิดประโยชน์ รัฐบาลต้องแก้ปัญหาสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ให้เรียบร้อย ให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันเสียก่อน ถ้าไปจัดการเลือกตั้งตอนนี้ ยิ่งยุ่งกันใหญ่ ให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่เรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะดำเนินการได้
** "บรรหาร"ดักคอ ปฏิวัติยิ่งยุ่ง
นายบรรหาร ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติว่า คงเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีการปฏิวัติ จะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมสีเสื้อต่างๆออกมา ยิ่งเพิ่มความวุ่นวายไปกันใหญ่ เป็นการถอยหลังเข้าคลอง ไม่ควรมีการปฏิวัติในตอนนี้
"ปัญหามันพอๆกัน ทั้งภายใน ภายนอก มันไม่มีใครที่จะเหนือกว่าใคร ภายในก็เยอะ ภายนอกก็เยอะ เห็นใจนายกฯ ผมก็อยากขอร้องฝ่ายต่างๆว่า ให้เห็นแก่ชาติบ้านเมืองกันหน่อย ตอนนี้ประเทศชาติจะแย่อยู่แล้ว อย่าให้แย่ยิ่งไปกว่านี้เลย ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ความจริงผมจะด่าคนบางคน ทั้งที่ไม่อยากจะด่า"
เมื่อถามว่า คนที่อยากด่าอยู่ในหรือนอกประเทศ นายบรรหาร กล่าวว่า " เอาอย่างนี้ดีกว่า ใครทำดี ก็ได้ดี ใครทำไม่ดี ก็ไม่ดี กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นก็รับไป มันอาจจะเจอเข้ากับใครบางคนก็ได้ ส่วนคนนั้นเป็นใคร ผมไม่บอก"
**ตั้งเป้าได้ส.ส.40-5 คน
ด้านนายชุมพล กล่าวว่า การโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.พ.นี้ พรรคมีมติโหวตเช่นเดียวกับเมื่อครั้งรับร่างวาระ 2 แม้ว่าจะงดออกเสียงไปบ้าง ก็ไม่มีปัญหา เพราะทุกพรรคก็มีเหมือนกัน แล้วแต่บุคคลไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และเท่าที่ทราบ เห็นว่าสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย
"การยุบสภาขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเงื่อนไขต่างๆ ถ้าทุกอย่างลงตัว นายกฯคงยุบสภาในครึ่งปีแรก แต่ถ้าไม่เรียบร้อย อาจจะมียืดเยื้อไปบ้าง เชื่อไม่ถึงสิ้นปี ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา มีความพร้อมทุกนาที พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเมื่อไร ได้ทั้งนั้น โดยเป้าหมายของพรรค ขอให้ได้เท่าเดิม 40-50 คน ก็พอแล้ว เพราะเรามักน้อย
**วอนส.ว.หนุนแก้รธน.วาระ 3
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า ขอเรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุนการโหวตครั้งนี้ เพราะเป็นโอกาสสำคัญในการปฏิรูปการเมืองและแก้วิกฤตของบ้านเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่มีความสงบ ยุติธรรม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลมีการล็อบบี้ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ส.ว.ให้มาโหวตสนับสนุนนั้น ยืนยันว่า ส.ว.ทำงานอิสระ และรัฐบาลก็ไม่มีแนวคิดเช่นนั้นแน่นอน รัฐบาลจะใช้เหตุผลเรื่องประโยชน์ต่อส่วนรวมในการขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ให้โหวตตามแนวทางของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง การเลือกตั้งที่ยุติธรรม และไม่ให้มีการเมืองนอกสภาอีก