ASTVผู้จัดการรายวัน-"พรทิวา"เดือดสั่งฟันขายน้ำมันปาล์มจุกสีฟ้าเกินราคา หลังได้รับร้องเรียนราคาทะลุ 65-70 บาท เหตุพ่อค้าแสบเข้าคิวซื้อทั้งจากห้างและที่พาณิชย์ในราคา 47 บาทมาขายฟันกำไรต่อ อคส.เตรียมเชิญมาเลเซีย อินโดนีเซีย เสนอราคาขายน้ำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน พร้อมเคาะเงื่อนไขให้นำเข้าแบบสำเร็จรูป กะป้อนให้อุตสาหกรรม และใส่ขวด ใส่ถุง ขายได้เลย
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการกักตุน และการจำหน่ายน้ำมันปาล์มเกินราคา ภายหลังจากได้รับการร้อนเรียนจากประชาชนถึงกรณีที่ร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) มีการนำน้ำมันปาล์มจุกสีฟ้าจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจำหน่ายในราคาขวดละ 47 บาท ไปขายให้ผู้บริโภคในราคาขวดละ 65-70 บาท
ทั้งนี้ รายงานข่าว แจ้งว่า มีผู้ประกอบการหลายๆ ราย โดยเฉพาะร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ได้ใช้วิธีการซื้อน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจากร้านค้าปลีกรายใหญ่ โดยแม้จะจำกัดการปริมาณการซื้อคนละ 1 ขวด แต่ก็ใช้ระบบการหมุนเวียนให้หลายๆ คนเข้าไปซื้อ เพื่อให้ได้น้ำมันปาล์มมากขึ้น และบางรายได้ใช้วิธีมาเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์มที่กระทรวงพาณิชย์นำมาขาย ซึ่งทั้ง 2 แห่งได้ขายในราคาขวดละ 47 บาท และยังสามารถหาซื้อน้ำมันปาล์มแบบถุงที่ห้างแม็คโครในราคาถุงละ 45 บาท โดยเมื่อได้น้ำมันปาล์มมาแล้วก็จะนำมาจำหน่ายปลีกให้กับประชาชนทั่วไปในราคา 65-70 บาท
ผลจากการตรวจสอบ ร้านค้าปลีกอ้างว่า ต้องไปเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์มทั้งจากกระทรวงพาณิชย์ และห้างค้าปลีก ซึ่งจำกัดปริมาณการซื้อ ทำให้เสียเวลา จึงต้องบวกกำไรเพิ่ม และไม่ใช่ว่าการเดินทางไปซื้อจะได้น้ำมันปาล์มทุกครั้ง เพราะบางครั้งในห้างค้าปลีกก็ไม่มีจำหน่าย โดยพนักงานอ้างว่ามีน้ำมันปาล์มจำหน่ายวันละไม่มาก
นายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า จะส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการธุรกิจปาล์มน้ำมันในต่างประเทศ ทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซียเข้าร่วมเสนอราคาขายน้ำมันปาล์มให้กับอคส. ซึ่งจะต้องนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ปริมาณ 1.2 แสนตัน โดยกำหนดให้เสนอราคาเป็นซีไอเอฟในรูปเงินเหรียญสหรัฐต่อตัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะกรรมการติดตาม ควบคุม กำกับดูแลและแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มพืชเพื่อการบริโภค ที่มีนายชาญชัย สิงโตโรจน์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์เป็นประธาน ได้หารือแนวทางการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน เบื้องต้นกำหนดแนวทางนำเข้าน้ำมันปาล์มแบบบริสุทธิ์ไม่แยกไข (RBD Palm Oil) และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ใส (RBD Palm Olein) แทนการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เหมือนการนำเข้าครั้งแรกปริมาณ 3 หมื่นตัน เพราะน้ำมันปาล์มชนิดบริสุทธิ์สามารถส่งให้ผู้ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การเปลี่ยนชนิดการนำเข้าน้ำมันปาล์ม ทำให้การสอบถามราคาจากผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มในต่างประเทศต้องล่าช้าออกไป
ทั้งนี้ การนำเข้าในลักษณะดังกล่าว จะทำให้อุตสาหกรรมนำไปใช้ได้ทันที คือ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไม่แยกไข ได้แก่ นมข้นหวาน บะหมี่ ขนมกรอบ ไอศรีม ไบโอดีเซล ขณะที่น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ใส สามารถนำไปใช้เพื่อการบริโภคแบบบรรจุขวดหรือถุงได้ทันที
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวว่า จะเร่งประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคา และปริมาณผลผลิตน้ำมันพืชบริโภคทุกชนิด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำมันพืชบริโภคตึงตัว และมีราคาสูงอย่างเร่งด่วนที่สุดตามนโยบายของรมว.พาณิชย์
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการมาตรการแก้ปัญหาขาดแคลนผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบ โดยให้ลดการใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตไบโอดีเซลเป็นการชั่วคราว เพิ่มการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ทั้งผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ส่งเสริมระบบการค้าให้กลไกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และให้มีการติดตามการนำเข้าและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการกักตุน และการจำหน่ายน้ำมันปาล์มเกินราคา ภายหลังจากได้รับการร้อนเรียนจากประชาชนถึงกรณีที่ร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) มีการนำน้ำมันปาล์มจุกสีฟ้าจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจำหน่ายในราคาขวดละ 47 บาท ไปขายให้ผู้บริโภคในราคาขวดละ 65-70 บาท
ทั้งนี้ รายงานข่าว แจ้งว่า มีผู้ประกอบการหลายๆ ราย โดยเฉพาะร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ได้ใช้วิธีการซื้อน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจากร้านค้าปลีกรายใหญ่ โดยแม้จะจำกัดการปริมาณการซื้อคนละ 1 ขวด แต่ก็ใช้ระบบการหมุนเวียนให้หลายๆ คนเข้าไปซื้อ เพื่อให้ได้น้ำมันปาล์มมากขึ้น และบางรายได้ใช้วิธีมาเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์มที่กระทรวงพาณิชย์นำมาขาย ซึ่งทั้ง 2 แห่งได้ขายในราคาขวดละ 47 บาท และยังสามารถหาซื้อน้ำมันปาล์มแบบถุงที่ห้างแม็คโครในราคาถุงละ 45 บาท โดยเมื่อได้น้ำมันปาล์มมาแล้วก็จะนำมาจำหน่ายปลีกให้กับประชาชนทั่วไปในราคา 65-70 บาท
ผลจากการตรวจสอบ ร้านค้าปลีกอ้างว่า ต้องไปเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์มทั้งจากกระทรวงพาณิชย์ และห้างค้าปลีก ซึ่งจำกัดปริมาณการซื้อ ทำให้เสียเวลา จึงต้องบวกกำไรเพิ่ม และไม่ใช่ว่าการเดินทางไปซื้อจะได้น้ำมันปาล์มทุกครั้ง เพราะบางครั้งในห้างค้าปลีกก็ไม่มีจำหน่าย โดยพนักงานอ้างว่ามีน้ำมันปาล์มจำหน่ายวันละไม่มาก
นายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า จะส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการธุรกิจปาล์มน้ำมันในต่างประเทศ ทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซียเข้าร่วมเสนอราคาขายน้ำมันปาล์มให้กับอคส. ซึ่งจะต้องนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ปริมาณ 1.2 แสนตัน โดยกำหนดให้เสนอราคาเป็นซีไอเอฟในรูปเงินเหรียญสหรัฐต่อตัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะกรรมการติดตาม ควบคุม กำกับดูแลและแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มพืชเพื่อการบริโภค ที่มีนายชาญชัย สิงโตโรจน์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์เป็นประธาน ได้หารือแนวทางการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน เบื้องต้นกำหนดแนวทางนำเข้าน้ำมันปาล์มแบบบริสุทธิ์ไม่แยกไข (RBD Palm Oil) และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ใส (RBD Palm Olein) แทนการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เหมือนการนำเข้าครั้งแรกปริมาณ 3 หมื่นตัน เพราะน้ำมันปาล์มชนิดบริสุทธิ์สามารถส่งให้ผู้ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การเปลี่ยนชนิดการนำเข้าน้ำมันปาล์ม ทำให้การสอบถามราคาจากผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มในต่างประเทศต้องล่าช้าออกไป
ทั้งนี้ การนำเข้าในลักษณะดังกล่าว จะทำให้อุตสาหกรรมนำไปใช้ได้ทันที คือ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไม่แยกไข ได้แก่ นมข้นหวาน บะหมี่ ขนมกรอบ ไอศรีม ไบโอดีเซล ขณะที่น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ใส สามารถนำไปใช้เพื่อการบริโภคแบบบรรจุขวดหรือถุงได้ทันที
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวว่า จะเร่งประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคา และปริมาณผลผลิตน้ำมันพืชบริโภคทุกชนิด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำมันพืชบริโภคตึงตัว และมีราคาสูงอย่างเร่งด่วนที่สุดตามนโยบายของรมว.พาณิชย์
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการมาตรการแก้ปัญหาขาดแคลนผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบ โดยให้ลดการใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตไบโอดีเซลเป็นการชั่วคราว เพิ่มการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ทั้งผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ส่งเสริมระบบการค้าให้กลไกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และให้มีการติดตามการนำเข้าและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
