พาณิชย์ อนุมัติปรับขึ้นราคาขายน้ำมันปาล์มขวดอีก 9 บาท มีผลพรุ่งนี้ ส่งผลให้ราคาจำหน่ายขยับขึ้นเป็นขวดลิตรละ 47 บาท โดยคิดคำนวณจากต้นทุนนำเข้าน้ำมันปาล์มที่ กก.ละ 36 บาท พร้อมเสนอตั้งกองทุนดูแลเสถียรภาพราคา ก่อนนำเรื่องเสนอต่อ ครม.พิจารณา เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ด้าน อคส.เตรียมประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่น เพื่อรวมรวบปริมาณความต้องการน้ำมันปาล์ม ภายหลังที่ประชุมบอร์ดปาล์มน้ำมันชุดใหญ่ อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 3 หมื่นตันจากต่างประเทศ
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาน้ำมันพืชบริโภคมีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอีก 9 บาทต่อขวดลิตร ส่งผลให้ราคาจำหน่ายขยับเพิ่มเป็นขวดละ 47 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2554 (พรุ่งนี้) เป็นต้นไป โดยเป็นการคิดคำนวณจากต้นทุนราคานำเข้าน้ำมันปาล์มดิบที่ 36.50 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคานั้นเป็นปรับตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และถือเป็นราคาที่เป็นธรรมทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ผลิต โดยได้คำนวณจากต้นทุนการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากมาเลเซียที่กิโลกรัมละ 36.50 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ผลิต ทางกรมการค้าภายในจะเจรจาให้ห้างค้าปลีกรายใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในการจำหน่ายน้ำมันปาล์มลง เพื่อไม่ให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะเริ่มจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจตามห้างร้านต่างๆ เพื่อติดตามไม่ให้มีการจำหน่ายเกินกว่าราคาที่กำหนด รวมถึงไม่ให้มีการกักตุนสินค้า
ขณะเดียวกัน ทางคณะอนุกรรมการได้มีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนดูแลรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาอาหาร และค่าครองชีพของประชาชน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปาล์มในระยะยาว ซึ่งจะมีการศึกษารูปแบบกองทุน และหน้าที่ในการดำเนินการ ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวด้วยว่า ในเดือนมีนาคม 2554 นี้ กรมการค้าภายในจะพิจารณาปรับราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอีกครั้งว่าจะมีการปรับลดราคาได้เท่าไร เนื่องจากผลผลิตปาล์มจะออกสู่ตลาดมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า ในการปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน เนื่องจากกรมการค้าภายในได้มีมาตรการในการควบคุมราคาสินค้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับการปรับขึ้นราคาสินค้าประเภทอื่น โดยเฉพาะน้ำตาลทรายตามที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) จะพิจารณาให้ราคาน้ำตาลทรายเป็นแบบกึ่งลอยตัว โดยหลักการกรมการค้าภายในไม่ขัดข้อง แต่การปรับราคาน้ำตาลทรายขึ้นหรือลง โดยยึดหลักเป็นไปตามสถานการณ์ตลาดโลก ถือว่าเป็นสิ่งที่รับได้ เพราะจะเป็นการขึ้นลงของราคาตามกลไกตลาด ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ ปริมาณน้ำตาลทรายในตลาดมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคที่ไม่สามารถหาซื้อน้ำตาลทรายได้ ดังนั้นการปล่อยให้ราคาน้ำตาลทรายเป็นแบบกึ่งลอยตัวจะต้องบริหารจัดการให้น้ำตาลทรายมีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดก่อน
ด้าน นายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่อคส.จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่น เพื่อรวบรวมข้อมูลว่าผู้ประกอบการมีความต้องการน้ำมันปาล์มปริมาณเท่าใด ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้อนุมัติให้ อคส.นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากต่างประเทศ เพื่อแก้ไขน้ำมันปาล์มในประเทศขาดแคลน โดยต้องอยู่ในโควตานำเข้า 30,000 ตัน และคาดว่าจะดำเนินการสั่งซื้อภายในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งเมื่อนำเข้ามาแล้ว อคส.จะสามารถระบายให้กับผู้ประกอบการได้ทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ คาดว่าจะนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จาก 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ส่วนภายหลังการนำเข้าและการระบายน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ให้กับผู้ประกอบการหมดแล้ว ผู้ประกอบการจะสามารถนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดวางจำหน่ายได้เมื่อใดนั้น ผู้ประกอบการโรงกลั่นต้องรอดูนโยบายของทางกระทรวงพาณิชย์ หรือกรมการค้าภายใน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
