“เจ๊วา” กุมขมับปัญหาน้ำมันปาล์มคลี่คลาย แต่เจอปัญหาใหญ่น้ำมันถั่วเหลืองขาดตลาดเข้ามาแทน สั่งจับตาใกล้ชิดหวั่นซ้ำรอยน้ำมันปาล์ม เผยรายใหญ่แอบขายโก่งราคาถึงลิตรละ 60 บาท แย้มนำเข้าน้ำมันปาล์มล็อตใหม่ 1.2 แสนตัน อาจขายราคาเดิมไม่ได้แล้ว ด้านผู้ผลิตสบู่-สินค้าอุปโภค ครวญต้นทุนพุ่งจ่อปรับขึ้นราคา
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่างถึงการตรวจสอบสถานการณ์จำหน่ายน้ำมันปาล์มขวด ที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาแจ้งวัฒนะ วานนี้ โดยระบุว่าขณะนี้โรงงานผลิตน้ำมันปาล์มเริ่มทยอยนำน้ำมันปาล์มโควตานำเข้าจากต่างประเทศ 3 หมื่นตัน ซึ่งมีฝาจุกสีฟ้า ออกจำหน่ายแก่ประชาชนได้แล้วในราคาขวดละ 47 บาท โดยแบ่งเป็นขายใน 5 ห้างค้าปลีก เทสโก้โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ แม็คโคร และท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้ง 1,022 สาขา รวม 6.5 แสนขวด และยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว 1.5 แสนขวด แต่เบื้องต้นยังจำกัดซื้อไม่เกินครัวเรือนละ 1-3 ขวด เพื่อกระจายน้ำมันปาล์มให้ถึงมือผู้บริโภคมากที่สุด ส่วนปาล์มถุงสีฟ้าจะวางขายได้เร็วๆ นี้ ในถุงละ 45 บาท
หลังจากนี้ โรงงานจะมีการเพิ่มกำลังผลิตและกระจายให้ครบโควตาที่กำหนด 23 ล้านขวด โดยแบ่งเป็นผ่านห้างค้าปลีก 13.75 ล้านลิตร ตลาดสดสีฟ้าดีเด่นและตลาดกลาง 1 ล้านลิตร ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดได้ให้สำนักงานการค้าภายในทุกจังหวัดกระจายแก่ร้านค้าปลีกท้องถิ่น ร้านอาหารมิตรธงฟ้า 2.25 ล้านลิตร และส่วนที่เหลือกระจายให้ร้านค้าส่ง 6 ล้านลิตร
“เชื่อว่าสถานการณ์น้ำมันปาล์มขาดแคลน และมีราคาแพงจากนี้ไป น่าจะคลี่คลายลง หลังจากน้ำมันปาล์มเริ่มกระจายได้ แต่มีความกังวลว่าตอนนี้น้ำมันถั่วเหลืองกลับไม่มีการจำหน่าย จึงมอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งตรวจสอบสต๊อกผู้ผลิต ร้านค้า อย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุน จนเกิดปัญหาเหมือนน้ำมันปาล์ม”
ส่วนน้ำมันปาล์มดิบที่จะนำเข้าอีก 1.2 แสนตัน ได้ให้กรมการค้าภายใน และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำหน้าที่กระจาย โดยให้ไปหารือกับผู้ผลิตและผู้ใช้อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มทุกส่วน เพื่อทราบความต้องการใช้ ก่อนประสานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมดำเนินการจัดสรร เพื่อกำหนดแนวทางกระจายน้ำมันปาล์มให้ทั่วถึง
ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มถือเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น สบู่ซักล้าง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงการบริโภคทั้งภาคครัวเรือนและการประกอบอาหารเพื่อการค้าอื่นๆ การนำเข้ามาครั้งนี้ เราต้องการให้ทุกภาคส่วนได้จัดสรรน้ำมันปาล์มอย่างทั่วถึง ส่วนราคาจะจำหน่ายได้ในราคาเดิม 47 บาทหรือไม่นั้น ต้องขอตรวจสอบต้นทุนการนำเข้าอีกครั้งว่าปรับสูงขึ้นเท่าไร เพราะที่ระดับราคา 47 บาท คำนวณจากต้นทุนน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ของมาเลเซียที่ 36 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันราคาขึ้นไปเป็น 43 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำมันถั่วเหลืองเริ่มวิกฤตหนัก โดยมีการลดการส่งสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้าลง 30% ขณะที่การจำหน่ายในตลาดสด พบว่ามีราคาขายสูงถึงลิตรละ 55-60 บาท มากว่าราคาแนะนำที่ 46 บาท โดยได้มีการดำเนินคดีจับกุมผู้ผลิตน้ำมันพืชรายใหญ่ ที่มีการลักลอบนำน้ำมันถั่วเหลือง 200 ตัน ไปจำหน่ายผ่านตลาดสด เพื่อบรรจุถุงขายทำกำไร เพราะขายได้ราคาดีกว่า รวมถึงนำไปส่งโรงงานผลิตไบโอดีเซลที่ขายได้ถึงกิโลกรัมละ 55 บาท
ขณะเดียวกันยังมีประชาชนร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายในว่า ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีพ่อค้าฉวยโอกาสขายน้ำมันถั่วเหลืองสูงถึงขวดละ 58 บาท จากราคาควบคุมไม่เกิน 46 บาท และหาซื้อยาก โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าไม่มีสินค้าวางขายเลย หรือปริมาณวางขายน้อยกว่าปกติต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์แล้ว ทำให้ต้องแย่งซื้อและกระทบถึงน้ำมันพืชชนิดอื่นราคาสูงและมีปริมาณน้อยลง
ด้าน นางพงษ์ทิพย์ เทศะภู ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทต้องประสบกับปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ด้วยการตรึงราคาสินค้าอย่างเต็มที่ แม้ว่าขณะนี้จะมีสินค้าบางกลุ่มได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะสบู่ เนื่องจากใช้วัตถุดิบหลักคือน้ำมันปาล์มที่เกิดปัญหาขาดแคลนและราคาสูงขึ้น ถือเป็นสินค้าที่บริษัทต้องจับมองอย่างใกล้ชิด และหากยังขึ้นราคาต่อเนื่องจนถึงปลายปีนี้ อาจไม่สามารถแบกรับต้นทุนดังกล่าวได้ และต้องมีการทบทวนเรื่องราคาสินค้าอีกครั้งว่าจะขอขึ้นราคาหรือไม่
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นมาตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นจนใกล้ถึงระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงกระทบต่อต้นทุนผลิตสินค้าทุกอย่าง ทั้งบรรจุภัณฑ์ สารเคมี และวัตถุดิบในการผลิต โดยบริษัทกำลังจับตามองปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างใกล้ชิดว่าจะปรับขึ้นราคาหรือไม่ แต่บริษัทจะทำและจะพยายามตรึงราคาสินค้าให้นานที่สุด