พณ.ชี้ ปัญหาน้ำมันปาล์ม-น้ำมันพืช ยิ่งแก้ยิ่งวุ่น เพราะยอมรับหมดปัญญาแก้ไขสถานการณ์แล้ว เพราะใช้มาตรการดูแลไปหมดไส้หมดพุงแล้ว พร้อมจี้ ก.เกษตรฯ ออกมาชี้แจงเรื่องผลผลิต
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำมันปาล์มบรรจุขวดขาดแคลน รวมถึงน้ำมันพืชชนิดต่างๆ เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนตามมานั้น ตอนนี้ได้ส่งผลให้ทำให้ห้างสรรพสินค้าบางแห่งเริ่มจำกัดการซื้อเหลือเพียงครอบครัวละ 1 ขวด เท่านั้น ทำให้ประชาชนมีความเดือดร้อน
“ตอนนี้เราเองก็ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะทำอย่างเต็มที่ทั้งการเชื่อมโยงตลาด ประสานงานผู้ผลิตให้มีการเร่งผลิตมากขึ้น อีกทั้งประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข แต่ก็ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งคงต้องถามไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ผลผลิตปาล์มขณะนี้จะมีผลผลิตออกมาตามความต้องการหรือไม่”
ขณะนี้ ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่กระทรวงพาณิชย์แล้ว แต่อยู่ที่ผลผลิต ที่จะออกมาเมื่อไร เพียงพอไหม ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์ทำเต็มที่แล้ว หากมีสินค้า ก็พร้อมจะกระจายให้กับผู้บริโภค โดยกระทรวงพาณิชย์ก็เร่งนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากต่างประเทศ แต่ก็ยอมรับว่าจำนวนที่อนุมัตินำเข้าเพียง 3 หมื่นตัน ไม่เพียงพอต่อความต้องการ คงต้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาพูดบ้าง
“ก่อนหน้านี้ กระทรวงเกษตรฯ ออกมาเปิดเผยว่า ช่วงนี้ผลผลิตปาล์มจะออกมาประมาณ 50% ซึ่งเป็นการคาดการณ์ไว้นั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบเลยว่า ผลผลิตออกมาตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ คงต้องให้กระทรวงเกษตรฯ ออกมาชี้แจงว่า ตั้งแต่ช่วงธันวาคม 2553 จนถึงขณะนี้ มีผลผลิตปาล์มออกมาเท่าไร”
สำหรับการประสานงานกับผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองให้เร่งผลิตเพื่อน้ำมันถั่วเหลืองออกมาจำหน่ายนั้น ขณะนี้ผู้ประกอบการทำการผลิตอย่างเต็มที่ ซึ่งผลผลิตที่ออกมามีเพียง 5% ในตลาดน้ำมันพืช ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะน้ำมันปาล์มหายจากตลาดกว่า 50% อีกทั้งผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองยังติดปัญหาเรื่องกากถั่วเหลืองที่เหลือจากผลิตน้ำมันพืชจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ กรมได้เร่งประสานงานให้ผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์เข้ามารับซื้อ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะผู้ประกอบการได้นำเข้าอาหารสัตว์จากต่างประเทศมาก จึงไม่สามารถรับซื้อได้
ทั้งนี้ กากถั่วเหลืองในประเทศเริ่มล้นตลาด ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ไม่กล้าที่จะนำออกขายในประเทศ เกรงจะถูกกดราคา กรมจึงประสานงานให้กรมการค้าต่างประเทศช่วยเหลือโดยนำกากถั่วเหลืองที่มี ส่งออกไปขายต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาว่า จะส่งออกได้อย่างไร
รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการสินค้าหลายชนิดที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบสำคัญ ได้ยื่นหนังสือให้กับกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอปรับขึ้นราคา เนื่องจากแบกต้นทุนไม่ไหว โดยกลุ่มสินค้าที่ขอปรับราคาขึ้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าบริโภค อาทิ บะหมี่สำเร็จรูปมาม่า เนย ส่วนกลุ่มสินค้าอื่น อาทิ สบู่ ปุ๋ย คาดว่า หลังจากสิ้นสุดการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าเดือนมีนาคม 2554 นี้ กระทรวงพาณิชย์อาจต้องพิจารณาอนุมัติให้ขึ้นราคาได้บางรายการส่วนสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วไป ก็เริ่มมีราคาสูงขึ้น อาทิ หมู ไข่ไก่ นมผง กะทิ