“เจ๊วา” สั่งกรมการค้าภาย รุดตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์ม พบต่ำกว่าปกติ 4.3 หมื่นตัน คาดปลายเดือน ม.ค.นี้ สถานการณ์ขาดแคลนจะคลี่คลายได้ หลังการนำเข้า 3 หมื่นตัน “เทือก” สั่งตำรวจดำเนินการเด็ดขาด หากพบขายเกินราคา
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในดูแลการจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์ม เพื่อไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาและกักตุนสินค้าสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้บริโภค โดยส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสต๊อกน้ำมันพืชทั้งระบบ
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ตนเองส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสต๊อกของผู้ประกอบการผลิตนำเข้าโรงงานสกัดและโรงกลั่นน้ำมันปาล์มในแหล่งผลิตสำคัญ 3 จังหวัดหลัก ได้แก่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี และ ชุมพร โดยพบว่า ระดับสต๊อกปกติควรอยู่ที่ 66,000 ตัน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 23,800 ตัน ส่งผลให้ช่วงนี้น้ำมันปาล์มไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค กรมการค้าภายในจึงประสานโรงกลั่นน้ำมันปาล์มนำสินค้าออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ปลายเดือนมกราคม 2554 นี้ จะมีการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 30,000 ตัน สถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนน้ำมันถั่วเหลือง จากการตรวจสอบยังคงมีปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภคของประชาชน ราคาวัตถุดิบทรงตัว ไม่ได้ปรับสูงจากเดิมมากนัก ซึ่งประสานงานกับโรงงานสกัดให้กระจายขายน้ำมันถั่วเหลืองในท้องตลาดให้เพียงพอ และไม่ให้ขายเกินราคาที่กำหนดขวดละ 46 บาท
นอกจากนี้ ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบปริมาณสถานที่จัดเก็บ และกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาน้ำมันพืช ร่วมกับตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อติดตามและดำเนินคดีผู้กระทำผิด กรณีปฏิเสธการขาย กักตุน หรือขายเกินราคา เพื่อให้ปริมาณสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศ
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบและคุมเข้มพ่อค้าและผู้ประกอบการที่กักตุนน้ำมันปาล์ม หลังจากที่มีการขึ้นราคาขวดละ 9 บาท การขึ้นราคาสินค้าต่างๆ เป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ที่จะดูแล แต่หากตรวจสอบพบว่ามีการกักตุนเพื่อหวังกำไรเกินควร จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด