ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.ไฟเขียวคุมราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มทุกชนิด ทั้งขวด ปี๊บและถุง “พาณิชย์”เตรียมกำหนดเพดานราคาเร็วๆ นี้ คาดหลังนำเข้า 3 หมื่นตันสถานการณ์คลี่คลายแน่ หากไม่จบเล็งนำเข้าเพิ่มอีก 2 หมื่นตัน “ยรรยง”สั่งกรมการค้าภายในดูแลราคาหมู หลังต้นทุนลดแต่ราคาหน้าเขียงไม่ลด ยันขายไข่ชั่งกิโลต้องลองดูก่อน เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล ด้าน" พาณิชย์"ชง”สุเทพ”นำเข้า ปาล์มน้ำมัน อีก 5 หมื่นตันแก้วิกฤตหนัก หลังผลผลิตต่อเดือนหาย 50%
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารวม.พาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (24 ม.ค.) ได้เห็นชอบการกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุปี๊บและถุงเพิ่มเติม จากเดิมที่กำหนดเฉพาะน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้เห็นชอบเอาไว้ไม่ได้มีการสั่งให้ทบทวนการใช้มาตรการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืชบริโภค จะไปกำหนดราคาขายปลีก ที่บรรจุปี๊บ และถุง โดยขึ้นอยู่กับต้นทุนภาชนะที่ใช้บรรจุ เช่น น้ำมันปาล์มบรรจุถุง (1 ลิตร) อาจจะให้ขายไม่เกิน 45 บาท/ถุง เพราะมีต้นทุนภาชนะที่ใช้บรรจุถูกกว่าแบบขวด รวมถึงแบบปี๊บก็เช่นเดียวกัน ซึ่งกรมการค้าภายในจะมีการคำนวณต้นทุนที่ชัดเจนอีกครั้ง
“เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน และมีราคาแพง โดยปัญหาที่ยังมีอยู่ในขณะนี้ เพราะยังมีการกักตุนและเลี่ยงการควบคุมเอาไปขายแบบปี๊บและถุงที่ขายได้ราคาดีกว่าใส่ขวด ซึ่งได้มีการติดตามและตรวจสอบการเก็บสต๊อกของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากมาเลเซีย 3 หมื่นตันภายในสิ้นเดือนนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนได้ หากไม่เพียงพอ ก็อาจมีการนำเข้าเพิ่มอีก 2 หมื่นตัน เป็น 5 หมื่นตัน เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ขาดแคลนต่อไป”นายฉัตรชัยกล่าว
พร้อมกันนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบให้เพิ่มเติมสินค้าและบริการ 2 รายการ คือ ไข่ไก่ และบริการรับฝาก (คลังสินค้า) เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งจะทำให้รายการบัญชีสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มจาก 39 รายการ เป็น 41 รายการ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับหมูทั้งระบบ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงที่ยังไม่มีการปรับลดราคาลงมาตามต้นทุนหมูเป็นหน้าฟาร์มที่ปรับราคาลงมาแล้ว โดยเบื้องต้นจะให้เข้าไปดูในขั้นตอนการขายส่งว่าเหตุใดถึงยังไม่ปรับลดราคาลงทำให้หน้าเขียงไม่ปรับราคาตาม แต่โดยปกติเมื่อราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มราคาลดลงมา จะใช้เวลาระยะหนึ่งราคาหน้าเขียงถึงปรับราคาลงตาม ซึ่งคาดว่าในอีก 2 สัปดาห์สถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนมาตรการจำหน่ายไข่แบบชั่งกิโล เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงฯ จะต้องปฏิบัติตาม แม้จะมีเสียงคัดค้านถึงความไม่สะดวก ทั้งในเรื่องตาชั่ง การซื้อไข่ไม่ครบกิโลกรัม ซึ่งส่วนนี้จะให้กรมการค้าภายในไปจัดหาวิธีการปัดเศษสตางค์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ซื้อและคงต้องทดลองใช้ระยะหนึ่งก่อนถึงจะสรุปผลออกมาได้ว่ามาตรการดังกล่าวช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้จริงหรือไม่
สำหรับการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขณะนี้มีแนวโน้มจะขอปรับขึ้นราคา เช่น สบู่ ผงซักฟอก กระทรวงฯ ยืนยันจะให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งแนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภคมีต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบนำเข้าตามราคาตลาดโลก ในส่วนนี้จะมีการพิจารณาต้นทุนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่กระทรวงฯก็จะให้ความเชื่อมั่นในสินค้าที่วัตถุดิบไม่สูงขึ้น จะไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับราคาขึ้นตามเช่นกัน
พณ.ชง”สุเทพ”นำเข้าปาล์มน้ำมันอีก 5 หมื่นตัน
ด้านนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังประชุมถานการณ์ปาล์มและแผนกระจายน้ำมันปาล์มเพื่อการการบริโภคที่อนนุมัติให้นำเข้าปลายเดิอนม.ค.นี้ จำนวน 3 หื่นตัน เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนและราคาแพง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (24 ม.ค.) ว่า จากรายงานผลผลิตปริมาณน้ำมันปาล์มดิบของโรงสกัดและโรงกลั่น พบว่าลดลงกว่าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ถึง 50% หรือหายไป 4 หมื่นตัน/เดือน สะท้อนถึงภาวะน้ำมันปาล์มจะยิ่งตึงตัวมากขึ้น กรมฯจึงเสนอ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาและนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน อนุมัตินำเข้าปาล์มเพื่อบรรจุขวดอีก 5 หมื่นตัวภายในเดือนก.พ.นี้ เพื่อลภาวะขาดแคลนและราคาแพง จนกว่าผลผลิตปาล์มสดจะเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อน้ำมันพืชชนิดอื่นราคาสูงขึ้น และไม่ต้องเพิ่มเพดานราคาควบคุมปาล์ม(ลิตร)ละ 47 บาท ซึ่งคาว่าจะประชุมต้นเดือนก.พ.นี้
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารวม.พาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (24 ม.ค.) ได้เห็นชอบการกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุปี๊บและถุงเพิ่มเติม จากเดิมที่กำหนดเฉพาะน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้เห็นชอบเอาไว้ไม่ได้มีการสั่งให้ทบทวนการใช้มาตรการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืชบริโภค จะไปกำหนดราคาขายปลีก ที่บรรจุปี๊บ และถุง โดยขึ้นอยู่กับต้นทุนภาชนะที่ใช้บรรจุ เช่น น้ำมันปาล์มบรรจุถุง (1 ลิตร) อาจจะให้ขายไม่เกิน 45 บาท/ถุง เพราะมีต้นทุนภาชนะที่ใช้บรรจุถูกกว่าแบบขวด รวมถึงแบบปี๊บก็เช่นเดียวกัน ซึ่งกรมการค้าภายในจะมีการคำนวณต้นทุนที่ชัดเจนอีกครั้ง
“เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน และมีราคาแพง โดยปัญหาที่ยังมีอยู่ในขณะนี้ เพราะยังมีการกักตุนและเลี่ยงการควบคุมเอาไปขายแบบปี๊บและถุงที่ขายได้ราคาดีกว่าใส่ขวด ซึ่งได้มีการติดตามและตรวจสอบการเก็บสต๊อกของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากมาเลเซีย 3 หมื่นตันภายในสิ้นเดือนนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนได้ หากไม่เพียงพอ ก็อาจมีการนำเข้าเพิ่มอีก 2 หมื่นตัน เป็น 5 หมื่นตัน เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ขาดแคลนต่อไป”นายฉัตรชัยกล่าว
พร้อมกันนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบให้เพิ่มเติมสินค้าและบริการ 2 รายการ คือ ไข่ไก่ และบริการรับฝาก (คลังสินค้า) เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งจะทำให้รายการบัญชีสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มจาก 39 รายการ เป็น 41 รายการ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับหมูทั้งระบบ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงที่ยังไม่มีการปรับลดราคาลงมาตามต้นทุนหมูเป็นหน้าฟาร์มที่ปรับราคาลงมาแล้ว โดยเบื้องต้นจะให้เข้าไปดูในขั้นตอนการขายส่งว่าเหตุใดถึงยังไม่ปรับลดราคาลงทำให้หน้าเขียงไม่ปรับราคาตาม แต่โดยปกติเมื่อราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มราคาลดลงมา จะใช้เวลาระยะหนึ่งราคาหน้าเขียงถึงปรับราคาลงตาม ซึ่งคาดว่าในอีก 2 สัปดาห์สถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนมาตรการจำหน่ายไข่แบบชั่งกิโล เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงฯ จะต้องปฏิบัติตาม แม้จะมีเสียงคัดค้านถึงความไม่สะดวก ทั้งในเรื่องตาชั่ง การซื้อไข่ไม่ครบกิโลกรัม ซึ่งส่วนนี้จะให้กรมการค้าภายในไปจัดหาวิธีการปัดเศษสตางค์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ซื้อและคงต้องทดลองใช้ระยะหนึ่งก่อนถึงจะสรุปผลออกมาได้ว่ามาตรการดังกล่าวช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้จริงหรือไม่
สำหรับการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขณะนี้มีแนวโน้มจะขอปรับขึ้นราคา เช่น สบู่ ผงซักฟอก กระทรวงฯ ยืนยันจะให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งแนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภคมีต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบนำเข้าตามราคาตลาดโลก ในส่วนนี้จะมีการพิจารณาต้นทุนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่กระทรวงฯก็จะให้ความเชื่อมั่นในสินค้าที่วัตถุดิบไม่สูงขึ้น จะไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับราคาขึ้นตามเช่นกัน
พณ.ชง”สุเทพ”นำเข้าปาล์มน้ำมันอีก 5 หมื่นตัน
ด้านนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังประชุมถานการณ์ปาล์มและแผนกระจายน้ำมันปาล์มเพื่อการการบริโภคที่อนนุมัติให้นำเข้าปลายเดิอนม.ค.นี้ จำนวน 3 หื่นตัน เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนและราคาแพง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (24 ม.ค.) ว่า จากรายงานผลผลิตปริมาณน้ำมันปาล์มดิบของโรงสกัดและโรงกลั่น พบว่าลดลงกว่าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ถึง 50% หรือหายไป 4 หมื่นตัน/เดือน สะท้อนถึงภาวะน้ำมันปาล์มจะยิ่งตึงตัวมากขึ้น กรมฯจึงเสนอ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาและนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน อนุมัตินำเข้าปาล์มเพื่อบรรจุขวดอีก 5 หมื่นตัวภายในเดือนก.พ.นี้ เพื่อลภาวะขาดแคลนและราคาแพง จนกว่าผลผลิตปาล์มสดจะเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อน้ำมันพืชชนิดอื่นราคาสูงขึ้น และไม่ต้องเพิ่มเพดานราคาควบคุมปาล์ม(ลิตร)ละ 47 บาท ซึ่งคาว่าจะประชุมต้นเดือนก.พ.นี้