วานนี้(8ก.พ) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวมั่นใจว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 จะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาไปได้ตามที่เคยบอกไว้ ตนยืนยันมาตลอดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่เป็นปัญหาของบ้านเมือง เมื่อถามว่าถึง กระแสข่าวการทุ่มเงินถึง 7 หลักล็อบบี้ ส.ว.ให้สนับสนุนโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ สูตรเขตเลือกตั้งแบบ 375 +125 นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี ตนยืนยันว่าไม่มี พูดกันไปเรื่อยเรื่องค่าตัว เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวตอบรับเสียงหนักแน่นว่า“ครับผม”
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความเสื่อมเสียของสถาบันวุฒิสภา และยืนยันด้วยว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยปฏิบัติการใดๆ เหมือนกับรัฐบาลยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้าไปครอบงำวุฒิสภาด้วยการจ่ายเงินเดือนจนเป็นที่มาของสภาทาส และรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนในลักษณะผิดกฎหมาย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะผ่านหรือไม่ ก็เป็นเรื่องกลไกของรัฐสภา
การปล่อยข่าวดังกล่าวเพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ส.ว.ที่สนับสนุนร่างแก้ไขฯ เป็นคนที่รับเงินค่าจ้างตามข่าวที่ออกมา ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเป็นจริงก็ขอให้เปิดเผยข้อเท็จจริงออกมา เพื่อลงโทษผู้ที่ทำให้สถาบันวุฒิสภาเสียหาย แต่หากไม่มีก็เรียกร้องว่าให้ยุติ เพราะคนที่พูดลักษณะดังกล่าวเท่ากับเป็นคนต่อต้านและขัดขวางไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากผิดหวังจากการผลักดันสูตร 400+100
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เชิญสมาชิกรัฐสภาประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. มีวาระสำคัญคือ การลงมติในวาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 จำนวน 2 ฉบับ คือ มาตรา 190 และมาตรา 93-98
ทั้งนี้ต้องอาศัยเสียงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่คือ 313 เสียงจาก 625 เสียง จึงจะถือว่าเห็นชอบให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม
รายงานข่าวจากวุฒิสภาแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าในทิศทางการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระ 3 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีความพยายามจากฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะผู้ใหญ่ในฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล 2 ราย ที่ต่อสายขอเสียงสนับสนุนจากส.ว. โดยมุ่งเป้าไปที่บรรดาส.ว.ที่เคยลงมติงดออกเสียงในวาระ 2 จำนวน 22 คน ให้สนับสนุนสูตร 375+125 เพราะเมื่อตรวจสอบเสียงในวาระ 2 แล้วพบว่า มีเสียงเห็นชอบ 298 คน ยังขาดอีก 15 เสียง จึงจะถึงกึ่งหนึ่ง ส.ว.จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ
ทั้งนี้ในการประชุมวาระ 2 เมื่อวันที่ 26 มกราคม มีส.ว.ขาดประชุมประมาณ 60 คน เนื่องจากบางส่วนเดินทางไปดูงานยังต่างประเทศกับคณะกรรมาธิการ 2 คณะ แต่ขณะนี้กลับมาแล้ว บรรดา ส.ว.จึงประเมินว่า ในวาระ 3 สูตร 375+125 น่าจะได้รับการสนับสนุนผ่านเกินกึ่งหนึ่งได้ไม่ยาก
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล ได้ประเมินสถานการณ์การลงมติร่างรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 11 ก.พ.ว่า จากที่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะเคลื่อนมาปิดล้อมรัฐสภาในวันดังกล่าว ขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะพากันไปบริจาคของให้กับประชาชนที่จ.ศรีสะเกษที่มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่น่าวิตกอะไร
ส่วนจำนวนเสียงในการลงมตินั้น นายวิทยาได้นำรายชื่อของพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.ที่ลงมติงดออกเสียง หรือโหวตไม่เห็นชอบ รวมทั้งผู้ที่ขาดประชุมมาประกาศในที่ประชุม โดยแนะนำให้ส.ส.ของพรรคได้ได้ไปทำความเข้าใจกับส.ว. 54 คนที่ไม่ได้มาลงคะแนน ว่าขอให้ช่วยสนับสนุนร่างครม.ในสูตร 375+125 ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีการซื้อเสียงส.ว. จึงอยากให้ผู้พูดเรื่องดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะถือเป็นการพูดแบบโยนหินถามทาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ถึงความพร้อมตัดสินใจยุบสภาเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้ง ภายหลังร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านการลงมติโดยที่ประชุมร่วมรัฐสภา และการจัดทำงบประมาณกลางปี 2554 ว่า ถ้าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ได้ข้อยุติแล้ว ก็ถือว่าจบเงื่อนไขของกติกาการเลือกตั้ง และต้องมีการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในเรื่องของการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ส่วนการจัดทำงบประมาณกลางปี 2554 ถ้ามีการนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า ก็ถือว่าผ่านการพิจารณาของสภาฯในวาระที่ 1
เมื่อถามว่าแต่ถ้าหลังจากดำเนินการทั้ง 2 เรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้ว ยังมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนเสื้อแดง จะยังมีการยุบสภาอยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะการใช้สิทธิ์ในการชุมนุมก็เป็นเรื่องหนึ่ง เมื่อถามต่อถึงการที่ส.ว.จะยื่นญัตติเพื่อขอเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ถ้ามีการดำเนินการไปตามข้อบังคับ รัฐบาลก็มีหน้าที่ไปชี้แจง
นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการประชุมพรรค ว่า มีการหารือในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตนได้เสนอให้ส.ส.ของพรรคที่จะเข้าร่วมการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติร่างแก้ไขรับธรรมนูญ วันที่ 11 ก.พ. มารวมตัวที่ทำการพรรค ถนนสุโขทัย เวลา 09.00 น. เบื้องต้นทางพรรคมีมติให้ส.ส.ลงมติสนับสนุนร่างแก้ไขดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าใด ต้องรอดูวันที่ 11 ก.พ.อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการรวมตัวดังกล่าวเพื่อเช็คเสียงสนับสนุนใช่หรือไม่ นพ.อลงกต กล่าวว่า “ใช่ครับ” เมื่อถามถึงกระแสการย้ายสังกัดพรรคของส.ส.ในพื้นที่นครราชสีมา นพ.อลงกต กล่าวว่า ได้หารือกับเบื้องต้น ผู้ใหญ่ในพรรคไม่ได้ติดใจอะไร สำหรับนายประนอม โพธิ์คำ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมพรรควันนี้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความเสื่อมเสียของสถาบันวุฒิสภา และยืนยันด้วยว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยปฏิบัติการใดๆ เหมือนกับรัฐบาลยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้าไปครอบงำวุฒิสภาด้วยการจ่ายเงินเดือนจนเป็นที่มาของสภาทาส และรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนในลักษณะผิดกฎหมาย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะผ่านหรือไม่ ก็เป็นเรื่องกลไกของรัฐสภา
การปล่อยข่าวดังกล่าวเพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ส.ว.ที่สนับสนุนร่างแก้ไขฯ เป็นคนที่รับเงินค่าจ้างตามข่าวที่ออกมา ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเป็นจริงก็ขอให้เปิดเผยข้อเท็จจริงออกมา เพื่อลงโทษผู้ที่ทำให้สถาบันวุฒิสภาเสียหาย แต่หากไม่มีก็เรียกร้องว่าให้ยุติ เพราะคนที่พูดลักษณะดังกล่าวเท่ากับเป็นคนต่อต้านและขัดขวางไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากผิดหวังจากการผลักดันสูตร 400+100
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เชิญสมาชิกรัฐสภาประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. มีวาระสำคัญคือ การลงมติในวาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 จำนวน 2 ฉบับ คือ มาตรา 190 และมาตรา 93-98
ทั้งนี้ต้องอาศัยเสียงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่คือ 313 เสียงจาก 625 เสียง จึงจะถือว่าเห็นชอบให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม
รายงานข่าวจากวุฒิสภาแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าในทิศทางการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระ 3 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีความพยายามจากฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะผู้ใหญ่ในฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล 2 ราย ที่ต่อสายขอเสียงสนับสนุนจากส.ว. โดยมุ่งเป้าไปที่บรรดาส.ว.ที่เคยลงมติงดออกเสียงในวาระ 2 จำนวน 22 คน ให้สนับสนุนสูตร 375+125 เพราะเมื่อตรวจสอบเสียงในวาระ 2 แล้วพบว่า มีเสียงเห็นชอบ 298 คน ยังขาดอีก 15 เสียง จึงจะถึงกึ่งหนึ่ง ส.ว.จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ
ทั้งนี้ในการประชุมวาระ 2 เมื่อวันที่ 26 มกราคม มีส.ว.ขาดประชุมประมาณ 60 คน เนื่องจากบางส่วนเดินทางไปดูงานยังต่างประเทศกับคณะกรรมาธิการ 2 คณะ แต่ขณะนี้กลับมาแล้ว บรรดา ส.ว.จึงประเมินว่า ในวาระ 3 สูตร 375+125 น่าจะได้รับการสนับสนุนผ่านเกินกึ่งหนึ่งได้ไม่ยาก
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล ได้ประเมินสถานการณ์การลงมติร่างรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 11 ก.พ.ว่า จากที่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะเคลื่อนมาปิดล้อมรัฐสภาในวันดังกล่าว ขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะพากันไปบริจาคของให้กับประชาชนที่จ.ศรีสะเกษที่มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่น่าวิตกอะไร
ส่วนจำนวนเสียงในการลงมตินั้น นายวิทยาได้นำรายชื่อของพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.ที่ลงมติงดออกเสียง หรือโหวตไม่เห็นชอบ รวมทั้งผู้ที่ขาดประชุมมาประกาศในที่ประชุม โดยแนะนำให้ส.ส.ของพรรคได้ได้ไปทำความเข้าใจกับส.ว. 54 คนที่ไม่ได้มาลงคะแนน ว่าขอให้ช่วยสนับสนุนร่างครม.ในสูตร 375+125 ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีการซื้อเสียงส.ว. จึงอยากให้ผู้พูดเรื่องดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะถือเป็นการพูดแบบโยนหินถามทาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ถึงความพร้อมตัดสินใจยุบสภาเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้ง ภายหลังร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านการลงมติโดยที่ประชุมร่วมรัฐสภา และการจัดทำงบประมาณกลางปี 2554 ว่า ถ้าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ได้ข้อยุติแล้ว ก็ถือว่าจบเงื่อนไขของกติกาการเลือกตั้ง และต้องมีการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในเรื่องของการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ส่วนการจัดทำงบประมาณกลางปี 2554 ถ้ามีการนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า ก็ถือว่าผ่านการพิจารณาของสภาฯในวาระที่ 1
เมื่อถามว่าแต่ถ้าหลังจากดำเนินการทั้ง 2 เรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้ว ยังมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนเสื้อแดง จะยังมีการยุบสภาอยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะการใช้สิทธิ์ในการชุมนุมก็เป็นเรื่องหนึ่ง เมื่อถามต่อถึงการที่ส.ว.จะยื่นญัตติเพื่อขอเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ถ้ามีการดำเนินการไปตามข้อบังคับ รัฐบาลก็มีหน้าที่ไปชี้แจง
นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการประชุมพรรค ว่า มีการหารือในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตนได้เสนอให้ส.ส.ของพรรคที่จะเข้าร่วมการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติร่างแก้ไขรับธรรมนูญ วันที่ 11 ก.พ. มารวมตัวที่ทำการพรรค ถนนสุโขทัย เวลา 09.00 น. เบื้องต้นทางพรรคมีมติให้ส.ส.ลงมติสนับสนุนร่างแก้ไขดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าใด ต้องรอดูวันที่ 11 ก.พ.อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการรวมตัวดังกล่าวเพื่อเช็คเสียงสนับสนุนใช่หรือไม่ นพ.อลงกต กล่าวว่า “ใช่ครับ” เมื่อถามถึงกระแสการย้ายสังกัดพรรคของส.ส.ในพื้นที่นครราชสีมา นพ.อลงกต กล่าวว่า ได้หารือกับเบื้องต้น ผู้ใหญ่ในพรรคไม่ได้ติดใจอะไร สำหรับนายประนอม โพธิ์คำ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมพรรควันนี้
