ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติให้วิปแต่ละพรรคไปตกลงกับสมาชิกให้เห็นคล้อยตามสูตร 375+125 แต่ยังไม่ชัวร์เสียงหนุนจาก ส.ว. เชื่อพิจารณาวันเดียวจบ ลั่นงานเลี้ยงวิปรัฐบาลเย็นนี้ ยืนยันมี พผ.กลุ่มไชยยศไปร่วมแน่
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะมี ส.ว.สรรหาที่จะครบวาระในวันที่ 18 ก.พ. และจะมี ส.ว.บางคนลาออกก่อนวันครบวาระ ซึ่งจะมีผลทำให้ต้องส่งตีความว่า ส.ว.ที่เหลืออยู่และมีจำนวนไม่ถึง 95% จะสามารถเป็นองค์ประชุมวุฒิสภาได้หรือไม่ และเพื่อป้องกันปัญหาทำให้กระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญยืดเยื้อออกไปจนรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าไม่จริงใจตามข้อเสนอของคนนอก ที่ประชุมวิปรัฐบาลจึงเห็นพ้องต้องกันกับแนวทางของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาที่จะจัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 25 ม.ค.
นายวิทยากล่าวว่า ในการพิจารณามาตรา 190 ซึ่งคณะกรรมาธิการได้มีการแก้ไขไปหลายวรรค และมีผู้สงวนคำแปรญัตติไว้ 10 กว่าคน ซึ่งที่ประชุมวิปรัฐบาลเห็นว่าเห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขตามที่คณะกรรมาธิการฯเสียงข้างมากแก้ไข สำหรับการพิจารณามาตรา 93 ที่ประชุมได้หารือกันถึงกระบวนการการลงคะแนนมติต่างๆ เนื่องจากในวันที่ 25 ม.ค.การประชุมร่วมรัฐสภามี ส.ส.ใหม่ 5 คนยังไม่ได้ปฏิญานตนต่อสภา ซึ่งข้อบังคับการประชุมสภา ส.ส.5 คนต้องปฏิญานตนต่อสภา แต่วันที่ 25 ม.ค.เป็นการประชุมรัฐสภา ทำให้ ส.ส.ทั้ง 5 คนยังไม่มีสิทธิร่วมอภิปรายและลงมติ ดังนั้น องค์ประชุม ส.ส.ทั้งหมดจะเหลือ 470 คน ส.ว.150 คนรวมจะมีองค์ประชุมร่วมรัฐสภา 620คนเสียงกึ่งหนึ่งคือ 310 คน
นายวิทยากล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีมติให้ทุกพรรคร่วมรัฐบาลกลับไปประชุมในบ่ายวันเดียวกันนี้เพื่อให้รู้ว่าพรรคใดเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากหรือแต่ละพรรคที่มีผู้แปรญัตติแตกต่างออกไปก็ให้พิจารณาไปทิศทางเดียวกัน และถ้าสามารถเป็นไปตามร่างที่รัฐบาลนำเสนอได้ก็จะเป็นการดี อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้เสร็จในวันที่ 25ม.ค.วันเดียวก็จะดีอาจพิจารณาต่อเนื่องไปถึงดึกได้ก็จะทำให้วันที่ 26 ม.ค.พิจารณากฎหมายอื่นต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทิศทางของพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความแตกต่างกันอยู่ใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ก็ยังมีสมาชิกแปรญัตติแตกต่างกันอยู่ เข้าใจว่ามีบางคนที่ยังคาใจอยู่ ซึ่งตอนนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลมีทั้งหมดประมาณ 265 เสียง ต่อข้อถามว่าคิดว่า 265 เสียงจะโหวตหนุนร่างกรรมาธิการเสียงข้างมากทิ้งหมดหรือไม่ นายวิทยาตอบว่า จะพยายามให้ไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อถามว่า หากเสียงรัฐบาลหนุนร่างกรรมาธิการฯ ทั้งหมด 265 เสียงก็ยังขาดอีกเกือบ 50 เสียงจึงจะเกินกึ่งหนึ่งจะทำอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ก็ต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. แต่ยืนยันว่าเราคอนโทรลเสียงรัฐสภาไม่ได้
ต่อข้อถามว่า เสียงที่ขาดอยู่อีกเกือบ 50 เสียงของ ส.ว.ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิทยาตอบว่า ก็ยังไม่ชัวร์ เมื่อถามว่า หมายความว่าวันที่ 25 ม.ค.ก็ต้องวัดดวงกันใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า รัฐธรรมนูญระบุว่าหากเกิดกรณีมีความเห็นมากกว่า 2 ฝ่ายก็ให้มีการลงมติและถือเสียงข้างมากเป็นประมาณก็จะต้องลงมติทุกความเห็น ซึ่งเสียงข้างเป็นสูตรไหนก็เอาอันนั้น จากนั้นรออีก 15 วันเพื่อมาลงมติในวาระ3
ผู้สื่อข่าวถาม ถ้าหากร่างกรรมาธิการเสียงข้างมากไม่ผ่านแล้วกลับไปใช้สูตร 400+80 ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 รับได้หรือไม่ นายวิทยาตอบว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนเรื่องของรัฐสภา ทุกฝ่ายต้องยอมรับเสียงข้างมาก จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไปใช้สูตรนั้น ซึ่งมาตรานี้ไม่ได้กระทบกระเทือนต่อประโยชน์โดยตรงต่อภาคประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามถึงพรรคเพื่อแผ่นดินส่งข้อความห้ามสมาชิกพรรคไปร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายวิทยากล่าวว่า งานเลี้ยงวันนี้การเลี้ยงสังสรรค์ของวิปรัฐบาล ไม่ใช่เป็นงานโต้ทางการเมือง ตนก็ได้ถามตัวแทนจากพรรคเพื่อแผ่นดินแล้วก็ได้รับคำตอบว่าไป อย่างน้อยก็มีกลุ่มของนายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ