โฆษกมาร์คซัด “จตุพร” หยุดปั้นน้ำปูดข่าวปฏิวัติ ทำสังคมสับสน แขวะโกหกจนหลงเชื่อว่าเป็นความจริง อ้างรัฐปฏิบัติต่อม็อบทุกสีเท่าเทียมและเคารพการใช้สิทธิของ ปชช.ตามรัฐธรรมนูญ ย้ำ รบ.ไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้อง เพื่อให้ “มาร์ค” ลาออกหรือสลายการชุมนุมนุมได้ ยาหอมเชื่อเหลืองไม่ชุมนุมปิดสถานที่ราชการหรือใช้ความรุนแรง ปัดรัฐเสนอ 6 หลักซื้อเสียง ส.ว.หนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ย้ำไม่จำเป็นต้องทำเรื่องผิดกฎหมาย
วันนี้ (8 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่ามีการประชุมบ้านนักธุรกิจใหญ่ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเตรียมการปฏิวัติรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าวนายจตุพรได้ออกมาปล่อยข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ได้ระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนว่าใครได้เข้าร่วมการประชุมกันบ้าง และมีการวางแผนว่าอย่างไร จึงอยากให้บุคคลที่นายจตุพรพาดพิงได้ออกมาชี้แจง น่าจะได้ข้อเท็จจริงมากกว่า
นายเทพไทกล่าวว่า ดูจากภาพรวมแล้วเป็นการจับแพะชนแกะ ปั้นน้ำเป็นตัว เพราะบุคคลที่กล่าวถึงแต่ละคนก็ไม่น่าจะเชื่อมโยงหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นวางแผนปฏิวัติได้ และบางคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้กำลังของกองทัพ จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ น่าจะเป็นการเสี้ยมให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างกองทัพกับรัฐบาลมากกว่า เหมือนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เรียกประชุมกลุ่มย่อยเพื่อปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อสกัดกั้นการปฏิวัติ ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพเป็นปึกแผ่นมากกว่าทุกยุคทุกสมัย
“การเรียกร้องให้ ผบ.เหล่าทัพออกทีวีแถลงกดดันให้นายกฯ ลาออก เหมือนยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นที่ยอมรับของ ผบ.เหล่าทัพทุกคน และไม่มีเหตุผลใดต้องแสดงท่าทีเหมือนกับยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ถูกมวลชนทั้งประเทศกดดันอย่างรุนแรง และไม่สามารถที่จะสั่งการให้กองทัพปฏิบัติตามกฎหมายได้” นายเทพไทกล่าว และว่า แต่ในรัฐบาลชุดนี้จะเห็นได้ว่า ผบ.เหล่าทัพแก้ปัญหาชาติเคยบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาลอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ตั้งแต่เสื้อแดงบุกพัทยา และเหตุการณ์เมษายน 52 และ 19 พฤษภาคม 53 ล้วนแต่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและกองทัพอย่างมีเอกภาพมากที่สุด เพราะฉะนั้น อยากเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยหยุดปั้นน้ำเป็นตัว สร้างกระแสปฏิวัติ จนตัวเองหลงเชื่อว่าเป็นความจริง
นายเทพไทกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มการเมืองภาคประชาชนต่างๆ ที่ชุมนุมอยู่ในขณะนี้ว่า เป็นการชุมนุมกดดันรัฐบาลในลักษณะแซนด์วิซ ระหว่างเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าชัดเจนว่าจะปฏิบัติต่อม็อบต่างๆ เท่าเทียมกัน และการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการมอบเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้ดุลพินิจในการแก้ปัญหากับม็อบ
นายเทพไทกล่าวว่า แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การชุมนุมในลักษณะยืดเยื้อของกลุ่มต่างๆ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อชาติบ้านเมือง ขณะที่บริเวณชายแดนประเทศมีฆ่าศึกจ่อประชิด แต่คนไทยในประเทศไม่สามัคคีกัน เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลโดยไม่มีเหตุผล เช่น การประกาศชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะยืดเยื้อต่อไปหรือไม่ รวมไปถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ ได้ออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล โดยอ้างว่าทางออกของรัฐบาลมี 2 ทาง คือ 1.ลาออก และ 2.สลายการชุมนุม ซึ่งทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องได้ โดยเฉพาะเรื่องการลาออกที่ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ และรัฐบาลชุดนี้ก็ยังไม่ปฏิบัติหน้าที่เกิดความผิดพลาดจนต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคกล่าวต่อว่า ส่วนการสลายการชุมนุม รัฐบาลไม่ความคิดว่ากลุ่มม็อบเป็นก้างขวางคอ หรือเปิดโปงการเสียดินแดน และการคอรัปชันของรัฐบาล จนรัฐบาลรับไม่ได้ แต่รัฐบาลเคารพสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่การชุมนุมยังไม่ละเมิดสิทธิหรือผิดกฎหมาย ก็ไม่มีเหตุผลใดต้องสลายการชุมนุม ดังนั้น แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ควรที่จะบิดเบือน หรือสร้างข่าวในลักษณะใส่ร้ายรัฐบาลให้เกิดความเกลียดชัง เพื่อเรียกมวลชนเข้าร่วมการชุมนุมให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การยกระดับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ก็ยังเชื่อว่าจะไม่เกิดความรุนแรง หรือปิดล้อมสถานที่ราชการ เพราะที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ไม่นิยมความรุนแรงเหมือนกลุ่มคนเสื้อแดง
นายเทพไทกล่าวถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่า ขณะนี้มี ส.ว.บางคน ออกมาสร้างกระแสข่าวเรื่องการซื้อเสียง ส.ว. แลกกับการยกมือสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 93-98 โดยระบุว่ามีการจ่ายเงินรายละ 5 แสนบาท เพื่อต้องการเสียง 20 เสียงนั้น เป็นการสร้างข่าวให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันวุฒิสภา และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด รัฐบาลชุดนี้จะไม่ปฏิบัติการใดๆ เหมือนกับรัฐบาลยุคทักษิณ ที่เข้าไปครอบงำวุฒิสภาด้วยการจ่ายเงินเดือนจนเป็นที่มาของสภาทาส และรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนในลักษณะผิดกฎหมาย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะผ่านหรือไม่ ก็เป็นเรื่องกลไกของรัฐสภา
นายเทพไทกล่าวว่า รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์พร้อมปฏิบัติตามมติอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่การปล่อยข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นการตีปลาหน้าไซ สร้างกระแสกดดัน ส.ว.ส่วนหนึ่งที่อยากยกมือสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว ไม่ให้ยกมือสนับสนุน เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าใครที่ยกมือสนับสนุนจะได้เงินค่ายกมือจำนวน 6 หลักตามที่สร้างข่าว ดังนั้น หากเรื่องดังกล่าวเป็นจริง อยากให้เปิดเผยออกมาจะได้ลงโทษคนที่ทำให้สถาบันนิติบัญญัติเสื่อมเสีย แต่อยากตั้งข้อสังเกตคนปล่อยข่าวว่าล้วนแต่เป็นคนที่อยู่ในขบวนการต่อต้านขัดขวางไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และผิดหวังจากการผลักดันสูตร 400+100 ทั้งสิ้น จึงคิดมาเอาคืนเพื่อล้มร่างแก้ไขฉบับดังกล่าว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกเดือดร้อนใดๆ ทั้งสิ้น