วานนี้(8 ก.พ.)นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ออกมาเปิดเผยถึงกระแสข่าวการเตรียมปฏิวัติรัฐประหาร โดยระบุมีคนชื่ออักษรย่อ " ส " ร่วมด้วย ว่า ทำให้หลายคนคิดว่าเป็นตนเกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองมานานแล้ว ไม่น้อยกว่า 4-5 ปี ได้เข้าไปทำงานเกี่ยวกับด้านธุรกิจและงานวิชาการต่างๆ ดังนั้น สิ่งที่นายจตุพรกล่าวอ้างเป็นเท็จทั้งสิ้น และไม่เคยเดินทางไปร่วมประชุมวางแผนที่ จ.ภูเก็ต แต่อย่างใด
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนายจตุพร ได้ออกมาปล่อยข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ได้ระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนว่า ใครได้เข้าร่วมการประชุมกันบ้าง และมีการวางแผนว่าอย่างไร จึงอยากให้บุคคลที่นายจตุพร พาดพิงได้ออกมาชี้แจง น่าจะได้ข้อเท็จจริงมากกว่า
ทั้งนี้ ดูจากภาพรวมแล้วเป็นการจับแพะชนแกะ เป็นน้ำเป็นตัว เพราะบุคคลที่กล่าวถึงแต่ละคน ก็ไม่น่าจะเชื่อมโยงหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ถึงขั้นวางแผนปฏิวัติได้ และบางคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้กำลังของกองทัพ จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ น่าจะเป็นการเสี้ยมให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างกองทัพกับรัฐบาลมากกว่า เหมือนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เรียกประชุมกลุ่มย่อยเพื่อปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อสกัดกั้นการปฏิวัติ ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง ยืนยันว่ารัฐบาล และกองทัพเป็นปึกแผ่นมากกว่าทุกยุค ทุกสมัย
"การเรียกร้องให้ผบ.เหล่าทัพ ออกทีวีแถลงกดดันให้นายกฯลาออก เหมือนยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นที่ยอมรับของผบ.เหล่าทัพทุกคน และไม่มีเหตุผลใดต้องแสดงท่าทีเหมือนกับยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ถูกมวลชนทั้งประเทศกดดันอย่างรุนแรง และไม่สามารถที่จะสั่งการให้กองทัพปฏิบัติตามกฎหมายได้” นายเทพไท กล่าว และว่า แต่ในรัฐบาลชุดนี้จะเห็นได้ว่า ผบ.เหล่าทัพแก้ปัญหาชาติ เคยบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาลอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ตั้งแต่เสื้อแดงบุกพัทยา และเหตุการณ์ เมษายน 52 และ 19 พฤษภาคม 53 ล้วนแต่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และกองทัพอย่างมีเอกภาพมากที่สุด เพราะฉะนั้น อยากเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย หยุดปั้นน้ำเป็นตัว สร้างกระแสปฏิวัติ จนตัวเองหลงเชื่อว่าเป็นความจริง .
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนายจตุพร ได้ออกมาปล่อยข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ได้ระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนว่า ใครได้เข้าร่วมการประชุมกันบ้าง และมีการวางแผนว่าอย่างไร จึงอยากให้บุคคลที่นายจตุพร พาดพิงได้ออกมาชี้แจง น่าจะได้ข้อเท็จจริงมากกว่า
ทั้งนี้ ดูจากภาพรวมแล้วเป็นการจับแพะชนแกะ เป็นน้ำเป็นตัว เพราะบุคคลที่กล่าวถึงแต่ละคน ก็ไม่น่าจะเชื่อมโยงหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ถึงขั้นวางแผนปฏิวัติได้ และบางคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้กำลังของกองทัพ จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ น่าจะเป็นการเสี้ยมให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างกองทัพกับรัฐบาลมากกว่า เหมือนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เรียกประชุมกลุ่มย่อยเพื่อปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เพื่อสกัดกั้นการปฏิวัติ ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง ยืนยันว่ารัฐบาล และกองทัพเป็นปึกแผ่นมากกว่าทุกยุค ทุกสมัย
"การเรียกร้องให้ผบ.เหล่าทัพ ออกทีวีแถลงกดดันให้นายกฯลาออก เหมือนยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นที่ยอมรับของผบ.เหล่าทัพทุกคน และไม่มีเหตุผลใดต้องแสดงท่าทีเหมือนกับยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ถูกมวลชนทั้งประเทศกดดันอย่างรุนแรง และไม่สามารถที่จะสั่งการให้กองทัพปฏิบัติตามกฎหมายได้” นายเทพไท กล่าว และว่า แต่ในรัฐบาลชุดนี้จะเห็นได้ว่า ผบ.เหล่าทัพแก้ปัญหาชาติ เคยบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาลอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ตั้งแต่เสื้อแดงบุกพัทยา และเหตุการณ์ เมษายน 52 และ 19 พฤษภาคม 53 ล้วนแต่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และกองทัพอย่างมีเอกภาพมากที่สุด เพราะฉะนั้น อยากเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย หยุดปั้นน้ำเป็นตัว สร้างกระแสปฏิวัติ จนตัวเองหลงเชื่อว่าเป็นความจริง .