xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เต้นซื้อส.ว.แลกหนุนรธน. “ประสาร”แนะ ตั้งกก.สอบแลก10 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่รัฐสภา วานนี้(31 ม.ค.)เมื่อเวลา 10.00 น.มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิหารือ โดยนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีปรากฎข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งรายงานข่าววันเสาร์ที่ 29 ม.ค. 2554 พาดหัวว่า ส.ว.ยัน 10 ล้านแลกโหวดวาระ 3 โดยมีรายละเอียดว่ามีส.ว.สรรหาบางรายมาให้ข่าวเรื่องการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยแลกเปลี่ยนผลประโยชน์จำนวนหนึ่งจำนวน 10 ล้านบาท โดยแจกรายละ 5 แสนบาท เพื่อขอเสียงสนับสนุนประมาณ 20 เสียง
ซึ่งตอนแรกที่ได้ยินคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่พอคิดไปคิดมา ว่ามีการให้เสียงละ 5 แสนรวม 10 ล้านบาทมีโอกาสที่จะเป็นจริงได้เพราะเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมากเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ทางการเมือง ตอนแรกพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าไม่เห็นด้วยกับสูตร 375 กับ 125 ต่อมามีข่าวเรื่องงบกลางปีการโหวดก็เปลี่ยนไป ขอย้ำตรงเมื่อมีข่าวเรื่องงบกลางปี อันนี้ตีความได้หรือไม่ว่าหมายถึงการโหวดวาระสองที่ผ่านมา” นายประสาร กล่าว
นายประสาร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้กระทบสถาบันวุฒิสภา เมื่อเรามีคณะกรรมการตรวจสอบการลงมติเลือกประธานวุฒิสภาตนจึงหวังว่าเรื่องนี้จะเข้าสู่การตรวจสอบของคณะกรรมการได้หรือไม่ เพื่อตรวจดูว่าใครคือ 20 คน และใครที่คือเสียงโหวดเปลี่ยนไป เรื่องนี้ควรทำความกระจ่างให้สาธารณะไม่เช่นนั้นชี่อเสียงของวุฒิสภาจะเสื่อมเสียต่อไป

** วิปรัฐปัดพรรคร่วมซื้อเสียง ส.ว.
นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ซึ่งจะเป็นการลงมติแบบเปิดเผย โดยขานชื่อเป็นรายบุคคล ทั้งนี้สมาชิกรัฐสภาจะลงมติว่า จะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญสูตรสัดส่วน ส.ส.เขตจำนวน 375 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 125 คน หรือไม่เท่านั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.เป็นสูตรอื่น หากไม่รับก็ต้องกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2550
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลใช้เงินซื้อเสียง ส.ว.ให้สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ได้สอบถามพรรคร่วมรัฐบาล พบว่าไม่มีการซื้อเสียงอย่างที่กล่าวหา เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์ โดยไร้ความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันจะให้ทุกพรรคไปหารือกัน เพื่อให้ได้มติที่ชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าเสียง ส.ส.รัฐบาลจะออกมาในทิศทางเดียวกัน รวมถึงพรรคประชาธิปปัตย์ด้วย สำหรับเสียงของ ส.ว.นั้น ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ได้ประสานขอคะแนนเสียงจาก ส.ว.แต่อย่างใด

**“ไอ้เทพ” ปัดมาร์คหวงอำนาจ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี บอกจะยุบสภาหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ โดยไม่ต้องรอให้มีการแก้ไขกฎหมายลูกว่า แสดงว่านายกฯ ไม่ได้หวงอำนาจ และพร้อมคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เปิดช่องให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ แม้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะยังแก้ไขไม่เสร็จสิ้น โดยสามารถกลับไปใช้กฎหมายลูกเดิมตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 50 ได้เลย ทั้งนี้ อยากให้ทุกพรรคเตรียมเข้าสู่บรรยากาศเลือกตั้งมากกว่าปล่อยข่าวสร้างความสับสนรายวัน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม นายกฯ คงจะไม่ตัดสินใจยุบสภาก่อนวันที่ 8 มี.ค.เนื่องจากเป็นวันที่พรรคจะจัดงานระดมทุนเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งต่างจากพรรคเพื่อไทยที่ตนไม่แน่ใจว่าพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่ และพรรคเพื่อไทยจะใช้ทุนจากการระดมทุนหรือไม่ หรือว่าจะรอทุนจากนายใหญ่เพียงคนเดียว

**ปูด 20 ส.ส.ย้ายเข้าเผาไทยแค่ปลอบใจ
ส่วนการที่ระบุว่าจะมีส.ส.พรรคอื่นย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยประมาณ 20 คนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่พยายามปลอบใจตัวเอง และตนเชื่อว่าคงไม่มีส.ส.คนไหนย้ายเข้าไปอยู่พรรคที่กลายเป็นบ้านที่จวนจะพัง ทั้งหลังคารั่ว ไม่มีหัวหน้าครอบครัว คนในบ้านทุบตีแย่งชิงอำนาจ ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 11 ก.พ.นั้น ตนอยากให้ยื่นโดยเร็ว เพราะอยากเห็นรายชื่อนายกฯ ที่แนบในญัตติดังกล่าวว่าเป็นใคร แต่ถ้านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ตกลงกันไม่ได้ก็คงต้องใช้วิธีจับไม้สั้นไม้ยาว หรือเป่ายิงชุ๊บเอาเอง

**วิปรบ.แจงวาระ 3 ลงมติแบบขานชื่อเปิดเผย
วัดเดียวกัน นายวิทยา กล่าวว่า จากการหารือของที่ประชุมวิปรัฐบาลหลังจากที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้มีหนังสืออแจ้งนัดการประชุมรัฐสภาในวันที่11ก.พ.เพื่อลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่3 โดยตามม.291(6) ของรัฐธรรมนูญกำหนดกระบวนการและวิธีการลงมติในวาระที่3โดยเปิดเผยแบบขานชื่อทีละคน ซึ่งการลงมติทำได้เพียงรับหรือไม่รับร่าง ดังนั้น ได้มีข้อวิจารณ์ที่ทำให้ประชาชนสับสนคือในม.93-98วาระ3อาจจะกลับไปในร่างที่ผ่านวาระ2 ร่างอื่นที่ไม่ใช่สูตร 375+125 ดังนั้นเพื่อป้องกันการสับสนก็ชี้แจงว่า การลงมติในวาระที่3 ทำได้อย่างเดียวคือรับร่าง375+125หรือไม่ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาโหวตได้อย่างเดียวคือรับหรือไม่รับ อย่างไรก็ตาม ถ้าที่ประชุมมีมติรับร่างรัฐธรรมนูญก็จะใช้สูตรเลือกตั้งเขต375 บัญชีรายชื่อ 125 แต่ถ้าไม่รับถือว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตกไปก็เท่ากับว่า ไม่มีการแก้ไขก็จะกลับไปสู่การเลือกตั้งเขตใหญ่ส.ส.เขต 400คนและบัญชีสัดส่วนอีก 80 คน
ดังนั้นกระบวนการที่จะไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 400+100จะเกิดขึ้นไมได้ในวาระ3หรือจะไปสู่สูตรอื่นไม่ได้ เพราะเส้นทางการพิจารณาของรัฐสภาในวาระที่3 จะหลากหลายไม่ได้ ดังนั้นข้อวิจารณ์ว่ามีการซื้อเสียงโหวตเพื่อให้โหวตกับร่างของรัฐบาลเป็น การวิจารณ์ที่ไม่ค่อยจะรับผิดชอบ เพราะได้สอบถามพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีใครไปซื้อเสียงใครให้เป็นที่ครหาหรือ เป็นขี้ปากชาวบ้าน อยากให้จับตาคนที่วิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งจับตาการลงมติด้วยเพราะการลงมติเป็น แบบเปิดเผยและขานชื่อเรียงตามอักษร โดยเฉพาะจะถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ดังนั้นใครโหวตอย่างไรจะติดตัวคนไปตลอด
ผู้ สื่อข่าวถามว่า มั่นใจเสียงของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า น่าจะพร้อมเพรียง แต่คงได้ไม่หมดทุกเสียงเพราะเป็นเอกสิทธิ์ ส่วนเสียงของวุฒิสมาชิกก็ต้องดูตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ต่อข้อถามว่า ประธานวิปรัฐบาลจะต้องลงไปประสานกับส.ว.ด้วยตัวเองหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ประสานเฉพาะจะลงมติกันอย่างไร เมื่อไหร่เท่านั้น แต่ขอคะแนนยังไม่ได้ขอใครเลยเพราะคิดว่าส.ว.เป็นผู้ใหญ่ทุกท่าน เมื่อฟังอภิปรายจะสามารถวินิจฉัยได้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครสามารถไปขอเสียบสนับสนุนใครได้
กำลังโหลดความคิดเห็น