xs
xsm
sm
md
lg

ไม่หวั่นปชป.ขู่ยุบสภา! พรรคร่วมมั่นใจ วาระ2-3มีพลิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(12 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มีมติเสียงข้างมาก 18 ต่อ 17 เห็นตามร่างของรัฐบาล ยึดสัดส่วน ส.ส.เขต 375 และระบบบัญชีรายชื่อ 125คะแนนว่าเปเนหน้าที่ของกรรมาธิการฯที่จะดำเนินการต่อไป ส่วนพรรคร่วมชูสูตร400+100 จะกลายเป็นศึกหนักอีกรอบหรือไม่นั้น “เดี๋ยวค่อยว่ากัน ให้กรรมาธิการฯส่งเรื่องเข้าสภาก่อน”
ส่วนที่จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ตนคงตอบอะไรล่วงหน้ายาก เพราะไม่รู้ว่าข้อยุติจะเป็นอย่างไร แต่ว่า คงจะมีการปรึกษาหารือกันในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลว่า แนวทางจะปฏิบัติต่อเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
“จริงๆแล้วพรรคร่วมรัฐบาลนัดที่จะมีการหารือกันก่อน หรือช่วงแรกของการประชุมสภา เพราะเห็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง บอกมีนัดหมายอยู่ ซึ่งการพูดคุยพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้จะรวมพรรคประชาธิปัตย์อยู่ด้วย และที่มีการะบุว่า ในส่วนของพรรคที่เหลือที่ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล จะบีบพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการในสิ่งที่เขาต้องการนั้น ตนไม่ทราบ คงไม่มีใครบีบใคร ก็ต้องมาพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคคิดว่า เรื่องของการจัดสรรคนเป็นที่เรื่องยากหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดเรื่องจัดคน ถ้าถามว่าจัดคน 375 กับ 125 มันยากกว่าอยู่แล้ว แต่ว่าจุดยืนที่พรรคสนับสนุนตามแนวทางของ คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธานไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความสะดวกของพรรค ผู้แทนฯพอรู้ว่า หายไป 25 คนไม่มีใครชอบอยู่แล้ว มันจะต้องไปแก้ไขปัญหากัน แต่เมื่อเราเห็นว่า เหตุผลของนายสมบัติมารองรับ เมื่อจะไปในลักษณะเขตละคน เมื่อมีเหตุผลรองรับเราก็สนับสนุนแนวทางนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงหากสูตรออกมาเป็น 400+100 รัฐบาลจะยุบสภาก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวหัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ไม่ขอตอบคำถามที่เป็นการคาดการณ์ก่อนล่วงหน้า
เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญยังเป็นเรื่องที่ผูกโยงกับการยุบสภาอยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใจตนนั้นอยากให้สภามีข้อยุติในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ถ้าสภาได้ข้อยุติมันก็ดี เพราะเท่ากับเรื่องนี้ได้จบลงแล้ว ก็จะได้ไม่เป็นเงื่อนไขที่มากังวลกันต่อไปว่า จะไปเลือกตั้งแล้วกติกาสภามีความคิดเห็นอย่างไร เมื่อถามว่า เท่ากับว่า ทุกฝ่ายต้องยอมรับไม่ว่าจะได้ข้อยุติอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ใช่ครับ เมื่อถามว่า แล้วนี้คือ ความพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นอีกขั้นหนึ่ง เพราะว่าเรื่องเศรษฐกิจหมดไปแล้ว ก็เหลือเรื่องที่พยายามดูอยู่ อย่างเรื่องการชุมนุม ซึ่งในภาพรวมยังไปในทางที่ดีอยู่ จะต้องดูให้เห็นชัดเจนแนวโน้มอีกทีหนึ่ง

**กมธ.เตรียมส่งร่างต้นเดือนก.พ.
นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณารัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. .. กล่าวถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจมีสิทธิ์พลิกมาใช้สูตร 400+100 ว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่อยากให้ความเห็นอะไรมากรอให้เข้าสู่สภาก่อน ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ม.ค. จะมีการเรียกประชุมกรรมาธิการ เพื่อให้ผู้ที่สงวนคำแปรญัตติเข้ามาชี้แจง ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการรวบรวม และตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องก่อนส่งให้สภา อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่สามารถกำหนดระยะเวลาว่าจะให้แล้วเสร็จเมื่อไหร่ แต่พยายามทำให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ตนคาดว่าน่าจะสรุปคำแปรญัตติให้สภาได้ในปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธุ์ ส่วนกรณีที่ส.ว.สรรหาลาออกไปจะมีปัญหาต่อการลงมติในวาระ 2 และ 3 นั้น แล้วแต่คนจะตีความ แต่หากมองว่ามีปัญหา ตนคิดว่าควรส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความว่าสามารถทำได้หรือไม่
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)แก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่ากรรมาธิการฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่เสนอคำแปรญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาชี้แจงกับคณะกรรมาธิการในวันที่ 18 และ 19 มกราคม นี้ เวลาประมาณ 10.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ตนคาดว่าการให้เวลา 2 วันดังกล่าวจะเพียงพอที่ผู้เสนอคำแปรญัตติจะชี้แจงได้ครบ แต่หากจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านั้นก็จะมีการพิจารณาเพิ่มวันชี้แจง อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ว่ากรรมาธิการจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้มีการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ เข้าสู่ระเบียบวาระได้ทันทีที่มีการเปิดประชุมรัฐสภาปลายเดือนมกราคมนี้
“กรรมาธิการต้องรับฟังผู้ที่เสนอคำแปรญัตติ แม้ว่าขณะนี้กรรมาธิการเสียงข้างมากจะมีมติยืนตามร่างแก้ไขเดิมของคณะรัฐมนตรีในประเด็นจำนวนของส.ส.ตามสูตร 375+125 แล้วก็ตาม ทั้งนี้เมื่อกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่มีความเห็นสรุปเป็นเช่นไรแล้วก็คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขยาก ยกเว้นผู้ที่เสนอคำแปรญัตติจะชี้แจงในเหตุผล จนชักจูงกรรมาธิการเห็นคล้อยตาม” น.ส.รัชดา กล่าว
น.ส.รัชดา ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่านายเทอดพงษ์ ทำตัวไม่เหมาะสมภายหลังจากที่ออกเสียงโหวตสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อชี้ขาด ว่านายเทอดพงษ์ได้ใช้สิทธิ์ของกรรมาธิการคนหนึ่งโหวตชี้ขาด ถือว่าเหมาะสมแล้ว

**“เทอดพงษ์” ยันทำตามหลักสากล
นายเทอดพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่ประธานในการโหวตออกเสียงสนับสนุน ว่า ตนไม่เข้าใจที่มีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของตน ซึ่งตนได้พยายามอธิบายและทำความเข้าใจว่าในการทำหน้าที่ของตนเป็นไปตามหลักสากลที่ประธานสามารถทำได้ เนื่องจาก ตนก็ถือเป็นหนึ่งคณะกรรมาธิการฯเพียงตนได้รับตำแหน่งประธานด้วย ซึ่งในการประชุมเมื่อผลโหวตออกมาได้ 17 เท่ากันตนก็ใช้สิทธิในความเป็นประธานตัดสินด้วยการออกเสียงโหวต เพราะหากไม่ทำหน้าที่ก็ถือว่าละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่
ตามหลักสากลทั่วไปบางแห่งสามารถใช้สิทธิออกเสียงได้ 2 ครั้งในฐานะที่เป็นกรรมาธิการและในฐานะประธานแต่ในการโหวตตนไม่ได้ใช้สิทธิออกเสียงเลย แต่เมื่อคะแนนออกมาเท่ากันตนจึงต้องเลือกใช้สิทธิในฐานะประธานเพียงอย่างเดียว เพื่อชี้ขาดผลการประชุมเพราะหากปล่อยทิ้งไว้หรือเลื่อนไปประชุมในสัปดาห์ต่อไปก็จะเป็นปัญหาและอาจถูกตีความได้ เช่น หากเลื่อนโหวตไปสัปดาห์ต่อไปก็ต้องไปรับว่าใครที่ได้ออกเสียงไปแล้วและใครที่ยังไม่ออกเสียงโหวต และผลโหวตที่ออกมาเสมอกัน 17:17 จะทำย่างไรหรือจะปล่อยให้เป็นโมฆะเลยหรือไม่ต้องถูกตี ความอีก ซึ่งอาจถูกครหาว่าการลงมติของ กมธ.ไม่ชอบ ทั้งนี้ ได้มีรัฐมนตรีบางคนมาเสนอกับตนว่าจะไม่เห็นด้วยกับร่างที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ซึ่งตนก็อยากตั้งข้อสังเกตว่าทำไมรัฐบาลไม่พูดคุยกันให้ชัดเจนหรือตกผลึกก่อนและค่อยมาเสนอแก้ไขต่อสภา .

**"องอาจ"ป้องอ้างเอกสิทธิ์ ส.ส.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการของรัฐสภา ดังนั้น จะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะปัญหาดังกล่าวจะสามารถทำความเข้าใจกันได้ เรื่องเสียงที่แตกต่างกันของสมาชิกรัฐสภานั้น เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ในการออกเสียงอยู่แล้ว และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่จำเป็นต้องไปเดินสายทำความเข้าใจกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เพราะปกติก็เจอหน้ากันประจำในการประชุมคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว

**ยัน“เทือก”วิ่งล็อบบี้ ก็ไม่เป็นผล
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริง ๆ มีมีคะแนนเท่ากันคือ 17:17 แต่นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ในฐานะประธานลงมติตัดสินให้ตามร่างอีกหนึ่งเสียง ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งก็ไม่เป็นไร ก็เป็นประชาธิปไตยดี เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีความเห็นของตัวเอง ก็ต้องลงมติหลังจากพิจารณาเรื่องนี้กันถึง 3 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนตัวมองว่าประธานในที่ประชุมไม่ควรลงมติใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนก็บอกกับประธานไปว่าหากยุติธรรมก็เลื่อนไปก่อนดีกว่า แต่เราก็ต้องเข้าใจเพราะประธานก็ต้องเป็นหลักของประธาน ไม่ว่ากัน เมื่อถามว่าเมื่อมีความเห็นของ 2 ฝ่ายเป็นอย่างนี้ ขั้นตอนการเข้าสู่สภาในวาระ 2 และ 3 จะมีปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่แน่ อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เพราะเมื่อวานส.ว.ก็ยกให้ 400 + 100 หลายท่านเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายเทอดพงษ์ ใช้สิทธิประธานลงคะแนน เป็นการแสดงให้เห็นได้หรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ตอบรับข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลเลย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็เป็นการตัดสินใจของท่าน เราไม่ว่าอะไรกัน เพราะปกติประธานก็สามารถตัดสินใจได้
เมื่อถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ก่อนที่จะเข้าสู่วาระ 2 และ 3 พรรคร่วมรัฐบาลควรจะมีการหารือกันก่อนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องหารือแล้วเพราะเห็นตรงกันหมดแล้ว ยังคงยึดแนวทาง 400+100 อยู่ เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้มีการคุยกับพรรคเพื่อไทยเพื่อขอเสียงสนับสนุนหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ได้คุย แล้วแต่สมาชิกคนใดจะเห็นในแนวทางใด เมื่อถามต่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีความหวังในสูตร 400+100 แค่ไหน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ส่วนคิดว่าเสียงส่วนใหญ่น่าจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้เพราะหากเป็นสูตร 375 +125 จะทำให้ตัดจำนวนส.ส.ออกเยอะและเท่าที่ฟังก็ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะชักจูงให้เราคิดว่ามันถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าจะมีการนัดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เขาก็คงคุยกัน แต่เขาไม่ได้นัดกับตน เพราะตนไม่ใช่แกนนำ และหากเขาคุยกันเขาก็คงไม่เชิญตนไปคุยด้วย เพราะตนเป็นแค่เด็ก ๆ เมื่อถามว่าผู้จัดการรัฐบาลอย่างนายสุเทพ ยังมั่นใจว่าสูตร 375+125 น่าจะผ่านได้ แสดงว่าเขาก็มั่นใจว่าน่าจะสามารถล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลได้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็สุดแล้วแต่ ตนไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าเป็นประชาธิปไตย อะไรก็ได้ เมื่อถามว่ามองว่าสูตร 375+125 จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไดเปรียบจนได้ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่งหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดอย่างนั้น ตนคิดว่าผู้แทนฯหากเขตเล็กก็จะทำให้ดูแลประชาชนได้ทั่วถึงขึ้น แต่การไปลดจำนวนส.ส.เขต และไปเพิ่มจำนวนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อโดยอ้างว่าจะได้มีมันสมองในการทำงานเยอะ ตนไม่เห็นด้วย เพราะคนเป็นผู้แทนก็มีสมองด้วยกันทุกคนดังนั้นหากสามารถอธิบายเพิ่มเติมเหตุผลได้ว่า 375+125 ดีกว่าอย่างไรก็อยากฟังเพิ่มเติม เมื่อถามว่าหากสูตร 375+125 ในสภา รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ เพราะเป็นร่างที่รัฐบาลเสนอ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะเป็นเรื่องของสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแปลกหรือไม่ที่บอกว่าร่างรัฐธรรมนูญเป็นการเสนอโดยรัฐบาล ซึ่งก็จะเป็นร่างของรัฐบาล แต่พรรคร่วมรัฐบาลกลับไม่เห็นด้วย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่เป็นไรเพราะขณะนี้มีหลายร่างที่อยู่ในสภา อยู่ที่ว่าที่ประชุมสภาจะเลือกร่างของใคร เมื่อถามว่าในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้คุยกันถึงปัญหาของส.ว.สรรหา ที่จะหมดอายุไปหรือไม่ว่าจะเป็นปัญหาต่อการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่มีการหารือกัน แต่ถ้าเหลือเฉพาะส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งตนคิดว่าทั้งหมดเขาก็คงเทคะแนนให้สูตร 400+ 100 อยู่แล้ว

** เย้ย ปชป.บนศาลให้ดี มั่นใจ400+100 ผ่าน
เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่าในวาระ 2 และ 3 พรรคชาติไทยพัฒนา จะโหวตลงคะแนนไปที่สูตรไหน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็ลงไปอย่างนี้แล้ว เราก็ต้องเลือกแนวทาง 400+100 แน่ และไม่คิดว่าจะเป็นการสร้างความหนักใจให้พรรคประชาธิปัตย์
“จนถึงขณะนี้ผมมั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะผ่านแน่นอน ส่วนจะผ่านในแบบสูตรไหนก็คงต้องไปบนบานศาลกล่าวกัน พวกที่สนับสนุนสูตร 375+125 ต้องไปบนบานให้ดี ส่วนคนที่สนับสนุนสูตร 400+100 อย่างพวกผม ไม่ต้องเป็นห่วง นอนมาแบบไม่ต้องมีพระนำ นี่ผมเดาเอานะ แต่ที่ผ่านมาผมเดาทีไรก็ถูกหมด”พล.ต.สนั่น กล่าว
เมื่อถามว่าหากที่ประชุมสภาผ่านวาระ 2 และ 3 ในสูตร 375+125 พรรคร่วมรัฐบาลรับได้หรือไม่ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า “ตอนนี้ก็ใกล้จะไม่ร่วมกันอยู่แล้ว นี่ก็ใกล้ ๆ จะยุบสภา จะร่วมกันก็มาจัดตั้งใหม่อีกที” เมื่อถามต่อว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะไปล็อบบี้พรรคประชาธิปัตย์เองให้เอาสูตร 400+100 พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ล็อบบี้หรอก พรรคประชาธิปัตย์มีมติอย่างไร เขาก็เหนียวแน่นอยู่อย่างนั้น แหกคอกไม่มีหรอก และตนก็ไม่คิดที่จะไปวิงวอนพรรคประชาธิปัตย์ให้เห็นกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ขอให้รอดูในสภาก็แล้วกัน พนันกันก็ได้ ซึ่งหากมติในที่ประชุมสภาโหวตอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น

**“ชัย”ลั่นประชุมร่วมฯมีสิทธิพลิก
ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับร่างและผลการพิจารณา อย่างไรก็ตามสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประชุมสมัยทั่วไป ในวันที่ 26 ม.ค. จึงเป็นวาระการพิจารณาวาระตามปกติอยู่ เมื่อถามว่าการพิจารณาในวาระที่ 2-3 จะเกิดปัญหาหรือไม่ จากที่มีเสียงก้ำกึ่งเช่นนี้ นายชัยกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถ้าส่งมาที่ตนก็จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมร่วม พิจารณาในวาระ 2-3 การโต้แย้งกันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ความคิดเห็นจะเหมือนกันไม่ได้ เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ จะไม่มีปัญหา เสียงส่วนใหญ่ในสภาเป็นอย่างไรก็ต้องไปตามนั้น
เมื่อถามว่าถ้าเสียงส่วนใหญ่ที่ประชุมพลิกกลับมาเอาตามเสียงส่วนน้อย คือสูตร 400+100 จะเกิดปัญหาหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องพลิก แต่เป็นเรื่องการแปรญัตติ ผู้สงวนคำแปรญัตติมีสิทธิ์อภิปรายโนมน้ามให้สมาชิกคล้อยตาม ถ้าเขาชนะก็ถือว่าชนะ เมื่อถามว่าสูตร 400+100 จะมีหวังในการลงมติที่ประชุมใหญ่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่กล้า ชี้ขาด เป็นเรื่องของสมาชิก เมื่อถามว่าต้องพิจารณาให้เสร็จก่อนที่ส.ว.สรรหาจะหมดวาระหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน รัฐธรรมนูญได้กำหนดเรื่ององค์ประชุมไว้ ถ้าครบตามกำหนดก็เปิดประชุมได้ จำนวนสมาชิกทั้ง 2 สภา มีทั้งสิ้น 630 กึ่งหนึ่งคือ 315 ได้เสียงเกินก็กึ่งก็เปิดประชุมได้ ประเด็นเรื่องวาระส.ว.สรรหาไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าประธานคณะกรรมาธิการฯมีแนวคิดว่าควรรอให้มีการสรรหาส.ว.ใหม่เข้ามาก่อน นายชัย กล่าวว่า เป็นการตีความของแต่ละคน แต่ตนในฐานะประธานรัฐสภามีความเห็นอย่างนี้ เมื่อครบองค์ก็ไม่ต้องรอส.ว.ชุดใหม่
เมื่อถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญควรเป็นเรื่องเร่งด้วยหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่จำเป็น ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ผ่านมา 2-3 รัฐบาลแล้วยังทำไม่ได้ ก็รอมาจนจะหมดสมัยรัฐบาลนี้แล้ว ก็ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร ไปคิดอะไรมาก เมื่อถามว่ามีการขู่ว่าหากพลิกกลับมาโหวตให้สูตร 400+100 จะยุบสภาทันที นายชัย กล่าวว่า ก็เหมือนกัน ถ้านายกฯจะยุบสภาก็ยุบกันหมด ไม่ใช่ว่าประชาธิปัตย์จะอยู่ ก็ยุบไปด้วย อย่างไรก็ตามส่วนตัวเคยพูดชัดเจนไปแล้ววว่า ที่จะไม่ให้มีส.ส.สัดส่วนนั้น ถ้าเป็นเลือกตั้งทั้งหมดก็ดี ประชาชนจะได้เลือก

**ชทพ.ยังหนุนสูตรส.ส. 400 +100
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่ามีอยู่หลายครั้งที่กรรมาธิการฯแพ้โหวตในที่ประชุมสภา ดังนั้นเรื่องนี้ก็คงต้องไปว่ากัน ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาเองก็ยังยืนยันที่จะสนับสนุนสูตร 400+100 และที่บอกว่าการเปลี่ยนสัดส่วนส.ส.เอื้อพรรคเล็กนั้น อยากถามว่า เอื้อตรงไหน เพราะที่จ.สุพรรณบุรี ส.ส.ก็ 6 ที่นั่งเท่าเดิม หรือที่อ่างทองเองก็มีส.ส. 2 ที่นั่งเท่าเดิม ส่วนที่บอกว่าเปลี่ยนสัดส่วนให้ส.ส.บัญชีรายชื่อมีมากขึ้นจะได้เข้ามาทำงานในสภาฯก็ไม่เกี่ยว เพราะส.ส.ที่ขาดองค์ประชุมส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ส.ส.เขต ดังนั้นการเปลี่ยนสัดส่วนจำนวนส.ส.ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อก็คงต้องไปถามนายสมบัติ ว่าปรับเปลี่ยนเพราะเหตุใด
ส่วนที่นายเทอดพงษ์ ร่วมลงมติสนับสนุนสูตร 375+125 จะถามว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมไม่ได้ เพราะกฎหมายให้อำนาจประธานกรรมาธิการฯสามารถลงมติชี้ขาดได้ ขณะเดียวกันยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายสุเทพ ส่วนจะมีการพูดคุยกันในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็คงต้องให้เจ้าภาพที่เชิญเป็นคนกำหนดประเด็นว่าจะหารือพูดคุยกันเรื่องอะไร

** เพื่อไทยเชื่อ ปชป.ตีตกส่งผลยุบสภา
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ถึงแม้ว่าในคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวจะไม่มีส.ส.ของพรรคเพื่อไทยร่วมอยู่ด้วย แต่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลไปคุยกันให้ตกผลึก ทั้งนี้ถ้าหากในวาระที่ 2 พรรคเพื่อไทยโหวตเอาด้วยกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการระบบ 400+100 นั้น หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องแพ้ ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในวาระที่ 3 ที่จะต้องมีการโหวตแบบขานชื่อคือ พรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่รับร่างเลย ทำให้ร่างตกไป แล้วกลับไปใช้ระบบเลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 คนและระบบสัดส่วน 80 คนเช่นปัจจุบัน แต่หากเป็นเช่นนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะต้องประกาศยุบสภาตามมารยาททางการเมืองที่เสนอกฎหมายสำคัญ หรือ เสนอกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์จะยุบสภาแน่นอน เพราะเป็นเจ้าของเรื่อง เป็นคนที่รับข้อเสนอมาจากคณะกรรมการชุดที่มีนายสมบัติ เป็นประธาน แล้วนำเสนอเข้าสู่ ครม.
พรรคเพื่อไทย ยืนยันจะยึดมั่นจุดยืน ไม่หลงไปตามเกมของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ร่วมมือกันคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยจะยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ และในวันที่ 14 ม.ค.นี้จะมีการประชุมพรรคแบบไม่เปิดเผยเพื่อป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล

**ตู่เตือนเพื่อไทย อย่ายุ่งหนุน 400 + 100
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าว ว่า ตนเองได้บอกกับพรรคพวกที่พรรคเพื่อไทยไปแล้วว่า ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องผัว-เมียทะเลาะกัน พรรคเพื่อไทยจึงไม่ควรผลีผลามเข้าไปยุ่ง เพราะอาจทำให้คนเหล่านี้กลับมาดีกันได้เร็วกว่าที่คิด

** ภท.ชื่อแกนนำพรรคร่วมฯเคลียร์ได้
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่ากรรมาธิการของพรรคย้ำจุดยืนเดิม คือ สูตร400+100 แม้ว่าในวาระแรกกรรมาธิการจะรับร่างสูตร 375 +125 ก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ต้องเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ต่อไป จึงน่าจะมีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ท้ายที่สุดเชื่อว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือกันในเรื่องนี้

**“นิคม”เผย 40สว.เลือกตั้งหนุน400+100
นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เปิดเผยว่า เท่าที่ได้สอบถามและพูดคุยกับ ส.ว.เลือกตั้ง พบว่าขณะนี้ ส.ว.เลือกตั้งส่วนใหญ่ประมาณ 40 เสียง สนับสนุนสูตร400+100โดยเห็นว่ามีความเหมาะสม นอกจากนี้ยังเห็นตรงกันว่า แม้จะมี ส.ว.สรรหา ลาออกไปเพื่อรับการสรรหาเข้ามาใหม่ ก็ไม่เป็นปัญหาเรื่ององค์ประชุมรัฐสภา เชื่อว่าเสียงของ ส.ว.มีพอที่จะเปิดประชุมร่วมรัฐสภาได้

**เทพไทงง!เสธ.-ศุภชัยรับร่างครม.ทำไม
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แปลกใจคณะกรรมาธิการที่มาจากครม. เช่น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตร ได้รับร่างของครม. จึงไม่เข้าใจว่าก่อนที่ร่างครม.ฉบับดังกล่าวเสนอเข้าสภาก่อนได้ผ่านมติครม.มาแล้ว ถ้าบุคคลทั้ง 2 ไม่เห็นด้วยกับร่างครม. ไม่ทราบว่าได้แสดงความคิดเห็นคัดค้านในที่ประชุมครม.หรือไม่ แต่ถ้าหากไม่คัดค้านในที่ประชุมครม. กับมาโหวตสวนในชั้นกรรมาธิการก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น