“ประสพสุข” นำทีม ส.ว.แถลงจวกรัฐล้อมสภา ทำวุฒิสมาชิกเดือดร้อน เคืองไม่บอกกันก่อน จี้รักษาภาพลักษณ์ประเทศก่อนประชุมสหภาพรัฐสภา จ่อคุยนายกฯ เสาร์นี้ ถามรัฐภัยคุกคามคืออะไร ยันพร้อมอภิปรายทั่วไปแล้ว ด้าน ส.ว.เสื้อแดงทำจดหมายซัดนายกฯ สร้างความเดือดร้อน ขัดขวางการทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภา ส่อขัดรัฐธรรมนูญ อ้างกระทบศักดิ์ศรีสมาชิก จี้ยกเลิก
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และตัวแทน ส.ว.จำนวนหนึ่ง ได้ตั้งโต๊ะแถลงจุดยืนของวุฒิสภาต่อกรณีที่รัฐบาลดำเนินมาตรการการรักษาความ ปลอดภัยอย่างเข้มงวดในรัฐสภาและบริเวณโดยรอบรัฐสภาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมีการปิดถนนบริเวณโดยรอบรัฐสภา และยังมีลวดหนามและบังเกอร์คอนกรีตกีดขวางทาง และห้าม ส.ส. ส.ว. ข้าราชการ สื่อมวลชนเข้ารัฐสภา
นายประสพสุขกล่าวว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยรัฐสภาและรอบรัฐสภาอย่างเข้มงวดตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้วุฒิสภาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่ได้รับการประสานแจ้งเรื่องดังกล่าว รวมทั้งการปิดถนนจากฝ่ายใดเลย ส.ว.จำนวนมากไม่สบายใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งในฐานะเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ยังไม่สะดวกในการทำงานเป็นอย่างมากและงานต่างๆ ต้องเลื่อนหมด ทั้งนี้ วุฒิสภาหารือกันแล้วเห็นว่า การที่ฝ่ายรัฐบาลจะดำเนินการอะไรที่กระทบกับวุฒิสภา ต้องแจ้งวุฒิสภาด้วย นอกจากนี้ต้องประเมินสถานการณ์ว่ามาตรการที่จะใช้เหมาะสมหรือไม่ และเมื่อภัยที่คิดว่าคุกคามหมดแล้วก็ต้องแก้ไขปรับปรุง และประสานวุฒิสภาโดยตลอดในฐานะที่ได้รับผบกระทบโดยตรง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแจ้งจุดยืนของวุฒิสภาไปยังรัฐบาลโดยตรงหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ก็จะคุยกับรัฐบาล แต่เท่าที่คุยเป็นการภายในก็ทราบว่า รัฐบาลกำลังจะผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เพราะภัยคุกคามไม่มีแล้ว ทั้งนี้ วันที่ 29 มี.ค.จะ มีการประชุมวุฒิสภาจึงไม่ต้องมีมาตรการเข้มงวดขนาดนี้ เพราะไม่มีภัยคุกคามกับวุฒิสภา ไม่ต้องรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพราะวุฒิสภาเป็นกลาง ทั้งนี้ก็จะคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีวันที่ 27 มี.ค. ในงานประชุมสหภาพรัฐสภาที่จะต้องนั่งติดๆ กัน
เมื่อถามว่า วุฒิสภาเห็นว่ามาตรการแค่ไหนถึงจะเหมาะสม นายประสพสุขกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ารัฐบาลคิดว่าภัยคุกคามคืออะไร ขนาดไหน ทั้งนี้ วุฒิสภาแยกกับสภาผู้แทนราษฎรโดยเด็ดขาด เมื่อมีอะไร ทำอะไรไปแล้ว จะไม่พูดกับวุฒิสภาได้อย่างไร แต่ต้องมาเล่าให้ตนฟัง วันที่ 23 มี.ค.ที่ มีการปิดถนนไม่ให้คนเข้าเลย ตนก็ตกใจมาก เพราะไม่ได้รับการประสานเลย ส.ว.ก็มาทำงานไม่สะดวก ตนต้องเป็นผู้โทรศัพท์ประสานวุ่นวายไปหมด
“เรื่องภาพลักษณ์ก็มีส่วน แม้วันแถลงข่าวการจัดประชุมสหภาพรัฐสภาวันที่ 24 มีนาคม เลขาสหภาพรัฐสภาที่เป็นชาวต่างชาติจะมั่นใจถึงการรักษาความปลอดภัย แต่ข้อสำคัญคือ วันที่ 29 มีนาคม สมาชิกที่มาประชุมจะมาเยี่ยมรัฐสภา ถ้ามาเห็นบังเกอร์ไม่รู้ว่าจะยังมั่นใจอยู่อีกหรือเปล่า ฉะนั้น ฝ่ายบริหารจัดการสถานการณ์จะออกมาตรการใดต้องรักษาภาพลักษณ์ประเทศด้วย”
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลยังไม่มีท่าทีรับฟังวุฒิสภาจะมีมาตรการทางอื่นเช่นระงับการพิจารณา กฎหมายชั่วคราวหรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า กฎหมายก็คือกฎหมาย วุฒิสภามีหน้าที่ต้องพิจารณาไป ถ้ากฎหมายดีก็ผ่าน ถ้าไม่ดีก็ยับยั้ง ทำตามเนื้อผ้า จะเอาตรงนี้มาเล่นเกมการเมืองไม่ได้ เมื่อถามถึงกรณีที่วุฒิสภายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติรัฐบาลตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลตอบรับแล้ว นายประสพสุขกล่าวว่า วุฒิสภาพร้อมแล้วเพราะอยากใช้มาตรานี้ แต่ก็รอให้รัฐบาลหาข้อมูลซึ่งพร้อมเมื่อไหร่ก็มาได้เลย
ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า สมาชิกไอพียูส่วนใหญ่เห็นว่าสถานการณ์เมืองไทยไม่มีอะไรรุนแรง ซึ่งถือว่าแปลกมาก และบางคนก็บอกว่าดูทีวีมากไป ความจริงไม่ได้เลวร้ายตามที่เป็นข่าว ทุกคนลงจากสนามบินสุวรรณภูมิเห็นบรรยากาศประเทศไทยเรียบร้อยดี แม้กระทั่งประธานไอพียูเองก็ยอมรับว่าเป็นการประท้วงตามระบอบประชาธิปไตย ประเทศอื่นแย่ยิ่งกว่านี้
เมื่อถามว่า ถ้าสมาชิกไอพียูหากมาที่รัฐสภาได้เห็นภาพในบริเวณสภาไทยจะทำอย่างไร นายนิคมกล่าวว่า ก็คงดูแล้วก็เหมือนสนามรบ แต่ตนไม่ทราบว่าสมาชิกไอพียูประเทศไหนที่จะเข้าเยี่ยมประธานวุฒิสภาในวันที่ 29 มี.ค. ส่วนการทำงานของกรรมาธิการคณะต่าง ๆของวุฒิสภาเราย้ายไปที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น เพราะเมื่อวันอังคารที่ 23 มี.ค.สมาชิกวุฒิเข้ามาประชุมไม่ได้ จึงทำให้สมาชิกหลายคนมีความกังวลและเห็นว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และล้ำการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภา อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 มี.ค.อาจจะมีสมาชิกบางท่านไม่เข้าร่วมประชุมวุฒิสภา แต่คงไม่เลื่อนวาระการประชุม แต่จะพยายามทำหน้าที่ ถึงแม้ว่าเป็นบ้านเราเอง และมีคนมาปิดล้อมบ้านเรา แต่เราก็จะพยายามทำหน้าที่ และควรจะใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ปัญหา
ทางด้านกลุ่ม ส.ว.ประมาณ 20 คน นำโดยนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม และนายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกรณีการบริหารราชการของรัฐบาลที่ใช้ทหารปิดการจราจร บริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภา โดยระบุว่า รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ในถนนราชดำเนินและพื้นที่ใกล้เคียง โดยได้มีการปิดล้อมถนน 8 เส้นทาง รอบรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. เป็นพื้นที่รักษาความปลอดภัย โดยอ้างว่าเพื่อให้ ส.ส.สามารถเข้าร่วมประชุมสภาได้ในวันที่ 24 มี.ค.แต่ ไม่ได้แจ้งต่อสมาชิกรัฐสภาได้รับทราบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ถือได้ว่าเป็นการก้าวก่ายและขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และการกระทำนี้อาจส่อว่าจงใจจะขัดต่อบทบัญญัติกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส.ว.จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและยกเลิกแนวทางในการดำเนินการดังกล่าว โดยให้คำนึงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของสมาชิกรัฐสภาด้วย