xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกลยุทธ์เจาะการค้าชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 เป็นต้นมา ประเทศสมาชิกอาเซียนได้เปิดเสรีการค้าภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการลดภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าเกือบทุกชนิดกว่า 8,300 รายการ สำหรับสมาชิกอาเซียนเก่า ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไน เป็น 0% หรือไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าอีกต่อไป และไม่เกิน 5% สำหรับสมาชิกอาเซียนใหม่ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม รวมทั้งจะมีการยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคในการนำเข้าสินค้าอื่นๆ ด้วย
ที่ผ่านมา คนจะเข้าใจว่าการเปิดเสรีการค้า AFTA ทำให้สินค้าไทยหลายอย่างได้รับผลกระทบในเรื่องของสินค้าถูกจากประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามาตีตลาดสินค้าไทย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการสินค้าไทยดังกล่าวไม่สามารถแข่งขันและประสบปัญหาในการประกอบการในที่สุด
ปัญหาเหล่านี้ กรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดอบรม สัมมนา พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ การออกมาตรการบริหารจัดการการนำเข้าสินค้า และการจัดตั้งกองทุน FTA เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการในการพัฒนา ปรับปรุงศักยภาพการผลิต เพื่อรองรับผลกระทบจาก FTA
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2553 ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการ AFTA Hotline 1385 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ข้อมูลและตอบปัญหา AFTA แบบเบ็ดเสร็จ ให้กับผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป
นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า นอกจากการทำแผนรับมือการเปิดเสรีการค้า AFTA ข้างต้น กรมฯ ยังได้ทำแผนการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรี AFTA ในการเพิ่มการค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะประเทศอาเซียนที่มีชายแดนติดต่อกับไทย 4 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า และมาเลเซีย โดยจะนำคณะนักธุรกิจไทยเดินทางไปสำรวจลู่ทางการค้า การลงทุน และเจรจาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศดังกล่าว เพื่อเพิ่มช่องทางการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการค้าชายแดนและผ่านแดน
เนื่องจากทั้ง 4 ประเทศ มีระยะทางใกล้ ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าส่งออกสินค้าไม่สูงมาก ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องการส่งออกสินค้าต่างๆ และนำวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้านมาผลิตสินค้าใช้ภายในประเทศและส่งออกเพิ่มขึ้น โดยมีต้นทุนที่ลดลงจากค่าขนส่งและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ AFTA ซึ่งการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากจะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังช่วยยกระดับรายได้ให้กับประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อความต้องการสินค้าไทยในที่สุด
สำหรับสินค้าไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรี AFTA ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกษตร แฟชั่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุก่อสร้าง ส่วนธุรกิจของไทยมีโอกาสทางการค้าการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ อุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยว และธุรกิจต่อเนื่อง สุขภาพและความงาม การก่อสร้างและออกแบบ เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนที่จะนำร่องจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดน 4 แห่งในจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ กัมพูชา ลาว พม่าและมาเลเซีย เพื่อเป็นศูนย์ให้ความรู้และคำปรึกษาแนะนำ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือพัฒนาและแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าแก่ผู้ประกอบการค้าชายแดนไทยในภูมิภาค ตามนโยบายของนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายตัวทั้งประเภทและปริมาณสินค้าที่ดำเนินการผ่านการค้าชายแดน และส่งผลดีต่อประชาชนและเศรษฐกิจในในท้องถิ่นของไทยและประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง
ศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดน จะเป็นหน่วยงานที่ให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการค้าตามจังหวัดชายแดนของไทยในการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอื่นๆ ของไทย และบุกเจาะตลาดสินค้าส่งออกของไทยในประเทศเพื่อนบ้าน และทำหน้าที่ในการสร้างเครือข่ายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้มีการขยายตัวของความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีต่อกัน โดยจะมีการจัดกิจกรรมการประชุม สัมมนา การนัดหมายธุรกิจและการจัดคณะผู้แทนการค้าเยือนกันและกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาการนำเข้า ส่งออกสินค้าชายแดนที่เกิดกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นด้วย
จากแผนงานดังกล่าวข้างต้น คาดว่าภายในปี 2555 จะทำให้การค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 1 ล้านล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่สนใจจะร่วมในการเจาะตลาดการค้าชายแดน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงที่สำนักงานความร่วมมือการค้าและการลงทุน โทร 0-2547-4729-31 หรือสอบถามศูนย์ปฏิบัติการ AFTA Hotline 1385 แล้วจากนั้นมาติดตามดูกันว่าเป้าหมายจะทำได้จริงหรือไม่ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น