xs
xsm
sm
md
lg

“พรทิวา”สั่งตั้ง4ศูนย์การค้าชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พรทิวา”สั่งตั้งศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดน 4 แห่ง ติดกัมพูชา ลาว พม่าและมาเลเซีย ใช้เป็นศูนย์กลางช่วยเหลือผู้ประกอบการภูมิภาคตักตวงผลประโยชน์จากอาฟตา หวังดันยอดการค้าชายแดนเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านในปี 2555
นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะนำร่องจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการค้าชายแดน 4 แห่ง ในจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ กัมพูชา ลาว พม่า และมาเลเซีย เพื่อเป็นศูนย์ให้ความรู้และคำปรึกษาแนะนำ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือพัฒนาและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าแก่ผู้ประกอบการค้าชายแดนไทยในภูมิภาค ตามนโยบายของนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้กรมฯ เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการภูมิภาคใช้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา)
ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ที่จะจัดตั้งขึ้น จะเป็นหน่วยงานที่ให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการค้าตามจังหวัดชายแดนของไทยในการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรมอื่นๆ ของไทย และผลักดันการส่งออกสินค้าของไทยไปในประเทศเพื่อนบ้าน และทำหน้าที่ในการสร้างเครือข่ายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการของไทยและเพื่อนบ้าน เพื่อให้มีการขยายตัวของความสัมพันธ์ทางการค้า โดยจะมีการจัดกิจกรรมการประชุม สัมมนา การนัดหมายธุรกิจ และการจัดคณะผู้แทนการค้าเยือนกันและกันอย่างต่อเนื่อง และยังทำหน้าที่ช่วยแก้ไขปัญหาการนำเข้าส่งออกสินค้าชายแดนที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในภูมิภาคด้วย
“การจัดตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าว จะช่วยให้การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายตัวทั้งประเภทและปริมาณสินค้าที่ดำเนินการผ่านการค้าชายแดน และส่งผลดีต่อประชาชนและเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยตรง โดยกรมฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะผลักดันให้การค้าชายแดนมีมูลค่าไม่น้อยกว่าปีละ 1 ล้านล้านบาท ภายในปี 2555”นายวิจักรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจพื้นที่เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องของสถานที่จัดตั้ง อัตรากำลังคนที่จะไปประจำ และงบประมาณในการจัดตั้งแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดตั้งได้แล้วเสร็จเร็วๆ นี้
นายวิจักรกล่าวว่า สำหรับสินค้าของไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีอาฟตา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกษตร แฟชั่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุก่อสร้าง ส่วนธุรกิจของไทยที่มีโอกาสทางการค้าการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตร การท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่อง สุขภาพและความงาม การก่อสร้างและการออกแบบ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น