xs
xsm
sm
md
lg

3 สร้าง

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

ที่ผ่านมา ในสารบบความคิดทฤษฎีการเมืองใหม่ที่ผู้เขียนนำเสนอ มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเลข 3 อยู่สองเรื่องคือ ทฤษฎี “ธูป 3 ดอก” และทฤษฎี “3 ดาบกายสิทธิ์” สำหรับใช้เป็นอาวุธทางความคิด ต่อสู้เอาชนะรัฐบาลนอมินีในระบอบทักษิณ และสำหรับต่อสู้เอาชนะอำนาจการเมืองเก่าต่อไป จนกระทั่งได้รับชัยชนะในบั้นปลาย ประชาชนชาวไทยสามารถร่วมกันสร้างการเมืองใหม่สำเร็จได้ในที่สุด

นับเป็นอาวุธทางความคิดชิ้นแรกๆ ใน “คลัง” อาวุธทางความคิดของขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมือง เพื่อล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่

มาบัดนี้ การขับเคลื่อนทางการเมืองของขบวนการการเมืองภาคประชาชนฯ ได้พัฒนามาถึงขั้นก่อตั้งพรรคการเมือง ดำเนินงานการเมืองในระบบรัฐสภาเต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนของพันธมิตรฯ จำเป็นที่จะต้องทำการ “นวัตกรรม” ความคิดทฤษฎีใหม่ๆ ขึ้นมาประกบ ให้ชาวพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ใช้เป็นอาวุธต่อสู้เอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทั้งที่มาจากภายนอกและภายใน

มองในอีกมุมหนึ่ง สถานการณ์การเมืองในยุครัฐบาลนอมินีในระบอบทักษิณที่พันธมิตรฯ นำการต่อสู้อย่างยืดเยื้อ “193 วัน” ได้สิ้นสุดลงแล้ว การเมืองประเทศไทยก้าวเข้าสู่ระยะใหม่ มีคณะรัฐบาลชุดใหม่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ใช้อำนาจบริหารประเทศ แต่ก็ยังสลัดไม่หลุดจากกรอบกำหนดของอำนาจการเมืองเก่า การใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลเพื่อแสวงประโยชน์เฉพาะตนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดอยู่เช่นเคย ขณะที่กลุ่มอำนาจในระบอบทักษิณทั้งในและนอกรัฐสภาก็เดินเกมป่วนประเทศ ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล และหาทางฟื้นอำนาจกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณอีกครั้ง สถานการณ์โดยรวมจึงแตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก การนำเสนอความคิดทฤษฎีใหม่ๆ ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ทำไม่ได้

อีกด้านหนึ่ง ในส่วนของขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรฯ ซึ่งได้ก้าวมาถึงขั้นก่อตั้งพรรคการเมืองเต็มรูป ปัญหาภายในของขบวนการฯ ที่ทับถมคั่งค้างกันมาตั้งแต่เริ่มแรก และยังไม่มีการแก้ไขให้ตกไป กลายเป็นปัญหาเรื้อรังหมักหมม ได้ถึงจุดระเบิด จำเป็นต้องพัฒนาแนวคิดและวิธีการจัดการใหม่ๆ ให้เหมาะสม สามารถปรับขบวนแถวให้เข้าที่เข้าทาง สำหรับการขับเคลื่อนการต่อสู้ให้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ไม่ทำไม่ได้เช่นเดียวกัน

พิจารณาตามหลัก “เหตุปัจจัย” บนพื้นฐานที่ว่า พวกเราชาวพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ยึดมั่นในความเป็นจริง โดย “ทุกอย่างเริ่มจากความเป็นจริง เคารพความเป็นจริง” ก็พบว่า การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ดังกล่าว ได้กระตุ้นให้กระบวนการทางความคิดทฤษฎีของผู้เขียนและผู้ปฏิบัติงานของพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่ต้อง “ทำงาน” อย่างหนัก โดยจำเป็นต้องทำความเข้าใจในเหตุปัจจัยและตัวแปรใหม่ๆ อย่างรอบด้าน จนกระทั่งเห็น “ภาพรวม” อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งเข้าถึง “แก่นแท้” ของปัญหา ซึ่งก่อนจะถึงจุดนั้น จำเป็นต้องผ่านกระบวนการประมวลผลหรือ “กลั่นกรอง” ทางความคิดอย่างต่อเนื่องจน “ได้ที่” แล้วจึงจะเกิดเป็น “จินตภาพ”ใหม่ ทางด้านแนวคิดทฤษฎี สามารถนำเสนอทางออกได้อย่างถูกต้อง นำไปปฏิบัติให้สัมฤทธิผลได้จริง

ทฤษฎี “3 สร้าง” จึงถูกนำเสนอออกมา เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ และเพื่อขับเคลื่อนขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง บนเส้นทางการต่อสู้ล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่

สรุปคือ ทฤษฎี “3 สร้าง” ก็คือผลพวงของการ “ทำงาน” ของกระบวนการทางความคิดทฤษฎีของผู้เขียน ที่ตั้งอยู่บนฐานของสถานการณ์ที่เป็นจริงทั้งในและนอกขบวนการการเมืองภาคประชาชน ทั้งในหมู่ชาวพันธมิตรฯ และทั้งในพรรคการเมืองใหม่

อีกทั้งเป็นทฤษฎีที่ตั้งอยู่บนฐานการเคลื่อนไหวปฏิบัติของชาวพันธมิตรฯ และชาวพรรคการเมืองใหม่ที่ผู้เขียนมีส่วนร่วมอยู่ด้วย

จากนี้จึงอธิบายได้ว่า ทฤษฎี “3 สร้าง” ก็เช่นเดียวกับทฤษฎี “ธูป 3 ดอก” และทฤษฎี “3 ดาบกายสิทธิ์” มันเป็นสิ่งที่อุบัติขึ้นบนพื้นฐานของการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของมวลมหาชนชาวไทย ที่มุ่งล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่

ยิ่งกว่านั้น ทั้งสามทฤษฎีนี้มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน โดยทฤษฎีธูป 3 ดอกนำเสนอแนวทางสร้างการเมืองใหม่ด้วยการ 1. ประชาชนเป็นเจ้าภาพ 2. สร้างอำนาจประชาชน ซึ่งเป็นอำนาจกำหนดใหม่ และ3. ต่อสู้เอาชนะอำนาจกลุ่มทุน ซึ่งเป็นอำนาจกำหนดเก่า แล้วสถาปนาอำนาจกำหนดใหม่ขึ้นแทนที่อำนาจกำหนดเก่า

ทฤษฎี “3 ดาบกายสิทธิ์” นำเสนอทางออกให้แก่ขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรฯ ในบริบทที่ตั้งอยู่บนฐานของความเป็นจริงของประเทศไทยว่า ในการขับเคี่ยวกับอำนาจกำหนดเก่าในระบอบทักษิณ เราจำเป็นจะต้องผนึกกำลังกับสถาบันอำนาจที่เป็น “เสาหลัก” การดำรงอยู่ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่สำคัญที่สุดก็คือสถาบันทหารและสถาบันตุลาการ โดยมุ่งให้สองสถาบันนี้แสดงบทบาทของตนอย่างถูกต้อง เที่ยงธรรม หลุดพ้นจากอิทธิพลครอบงำของกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณ สามารถทำงานประสานกับ “อำนาจประชาชน” ได้เป็นอย่างดี

ในที่สุด เมื่อ “3 ดาบกายสิทธิ์” หรือสามองค์อำนาจนี้ทำงานประสานกัน โดยอำนาจประชาชนแสดงบทบาทเป็นอำนาจกำหนด ก็ได้เกิดเป็นอานุภาพยิ่งใหญ่ สามารถกำราบกลุ่มอำนาจในระบอบทักษิณ (ทั้งที่เป็นรัฐบาลนอมินีและพรรคการเมืองโกงการเลือกตั้ง) ลงไปได้ จนกระทั่งนำไปสู่การล่มสลายครั้งใหญ่ของอำนาจการเมืองในระบอบทักษิณเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551

โดยนัยนี้ ทฤษฎี “3 สร้าง” จึงจัดอยู่ในบริบทของการสร้างอำนาจประชาชนที่เป็น “เจ้าภาพ” สร้างการเมืองใหม่ นับเป็นพัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของการสร้างอำนาจประชาชน ซึ่งเป็นแก่นแกนของทฤษฎี “ธูป 3 ดอก” และทฤษฎี “3 ดาบกายสิทธิ์”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาขยายตัวของอำนาจประชาชน ในฐานะ “อำนาจกำหนด” ของสามองค์อำนาจในทฤษฎี “3 ดาบกายสิทธิ์” จะมีผลใหญ่หลวงยิ่งในการทำศึกขั้นเด็ดขาดกับอำนาจกำหนดเก่า ทั้งที่เป็นกลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณ และกลุ่มอำนาจ “ขั้วใหม่” ที่เป็นกลุ่มฉวยโอกาส ฉีกตัวเองออกจากเครือข่ายระบอบทักษิณ

ทั้งนี้ เพราะลักษณะการต่อสู้เพื่อล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่ ที่ประชาชนเป็นเจ้าภาพเป็นการ “เปลี่ยนแปลง” ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มิใช่การปฏิวัติล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การ “กำหนด” ให้สถาบันหลักในระบอบการปกครองที่เป็นอยู่แสดงบทบาทในทางที่ถูกต้อง ชอบธรรม จึงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นไปได้ ขณะที่ถ้าเป็นการปฏิวัติล้มล้าง ก็จะต้องทำลายสถาบันหลักของระบอบนี้ลงไปให้ได้

ทฤษฎี “3 สร้าง” ประกอบด้วย 1. สร้างทฤษฎี 2. สร้างพรรค 3. สร้างคน

สร้างทฤษฎี ซึ่งก็คือทฤษฎีการเมืองใหม่ เพื่อให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความเป็นเอกภาพทางความคิด บนพื้นฐานของปัญญารู้แจ้ง

สร้างพรรค ซึ่งก็คือพรรคการเมืองใหม่ เพื่อให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีเครื่องมือที่ทรงอานุภาพ เข้มแข็งเกรียงไกร เป็นที่ไว้วางใจได้ของมวลมหาชน

สร้างคน ซึ่งก็คือคนการเมืองใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของชาวพันธมิตรฯ และมวลสมาชิกพรรคการเมืองใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น