ชทพ.-ภท.แถลงการณ์ร่วมดันแก้ไข รธน. แค่2 มาตรา จากเดิมที่ ภท.ขอแก้ 4 มาตรา พร้อมประกาศกอดคอร่วมทำงานกันตลอดไปหลังเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อรัฐบาลไม่แตกเพราะเป็นเรื่องของรัฐสภา ขณะที่พรรคกิจสังคม เอาด้วย ด้าน “สุเทพ” ยัน ปชป.ชัดเจนเรื่องแก้ไข รธน. 25 ม.ค. “ชัย” พร้อมเร่งบรรจุญัตติแก้ไข รธน.ทันที
ที่ร.ร.สยามซิตี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (20 ม.ค.) แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันหารือถึงการร่วมมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ก่อนที่นายบรรหารจะเดินทางมา นายสมศักดิ์ และนายเนวินได้ออกมารอรับที่หน้าโรงแรม ปรากฏว่ามีรถนำขบวนทั้งทหารและตำรวจ เข้ามาทำให้ทุกคนต่างทำหน้างงและสงสัยว่าเป็นรถของใคร จนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก้าวลงจากรถ เมื่อพบ นายเนวิน กับนายสมศักดิ์ ยืนอยู่ จึงทักว่า “มาทำอะไรกัน แอบมากินข้าวกันใช่ไหม ไม่เห็นชวนและบอกผมเลย งั้นเราแยกทางกัน” พร้อมหัวเราะ ก่อนที่นายสุเทพ จะหันไปกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเหตุบังเอิญ ตนมาส่วนตัว พาลูกสาวและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาทาอาหารกัน
เมื่อนายสุเทพ เดินเข้าโรงแรม นายเนวินถึงกับพูดว่า “ผมก็งงทำไมท่านบรรหารถึงมีทั้งทหารและตำรวจนำขบวน” ขณะที่นายสมศักดิ์ เปรยว่า “มันช่างเป็นความบังเอิญที่จงใจ”
มติแก้รธน. 2 ประเด็น
ด้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น ในฐานะวิปรัฐบาลของพรรค ภูมิใจไทย กล่าวก่อนเข้าหารือว่าเท่าที่คุยกันกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยในเบื้อต้นวันนี้พรรค อาจเสนอในที่ประชุมให้แก้เพิ่มอีก 2 มาตรา คือมาตรา265 และ266 ที่ระบุห้ามนักการเมืองเข้าไปยุ่งกับข้าราชการ จากเดิม ที่เสนอแก้มาตรา 94 เกี่ยวกับการแบบแบ่งเขต และมาตรา 190
ทั้งนี้ กว่า 40 นาทีในการหารือแกนนำ 2 พรรคร่วมแถลงและประกาศเจตนารมย์ ว่า จะร่วมมือทำกิจกรรมร่วมกันกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นคือ มาตรา 190 เกี่ยวกับการทำสนธิสัญญากับต่างประเทศต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ และ มาตรา 94 เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง จากเขตใหญ่เรียงเบอร์ เป็นเขตเดียวเบอร์เดียว พราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่เปิดโอกาสให้ส.ส.ดูแลประชาชน ทั้งที่เป็นคนที่ได้รับเลือกจากประชาชน ดังนั้นจึงต้องแก้ไขให้ส.ส.สามารถดูแลประชาชนได้
นายชุมพล กล่าวว่า การเสนอแก้ไขในครั้งนี้จะรวบ 2 ประเด็นเป็นฉบับเดียว ประกอบหลักการและเหตุผลไปโดยละเอียด เนื่องจากเห็นว่า 2 ประเด็นนี้คืออนาคตของ ประเทศไทย และสมาชิกทั้ง 2 พรรคร่วมกันลงชื่อเกิน 95 เสียงเรียบร้อยแล้ว และยังจะประสานพรรคอื่นๆ อีกเพื่อให้ร่วมมือกัน ซึ่งขอเชิญพรรคการเมืองอื่นๆ ส.ว. และพรรคเพื่อไทยก็ขอเชิญให้มาร่วมกันด้วย
ด้านนายชวรัตน์ กล่าวเสริมว่า ทั้ง 2 พรรค จะรณรงค์ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 2 ประเด็นที่เป็นปัญหาในการทำงานและปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
รบ.ไม่แตกเพราะเป็นเรื่องของรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย จะถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ขั้นตอนการแก้รัฐธรรมนูญมีหลายขั้นตอน วันนี้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเสนอญัตติเข้าสู่สภา และถือเป็นการกระทำของ สมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่รัฐบาล และไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีเองก็ประกาศชัดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา ซึ่งได้ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วว่าต่อไปนี้ถ้าสภาฯทำอะไรก็เป็นเรื่องของรัฐสภาไป ไม่มีรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน ดังนั้นใครเห็นด้วยจะร่วมลงชื่อก็มาได้เลย
ส่วนเสียงวิจารณ์ที่ว่าการยื่นแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้อาจจะสร้างความแตกแยก ให้บ้านเมืองนั้น นายชุมพล กล่าวว่า คนที่จะสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อไปถามพวกนอกสภาดู เพราะเชื่อว่าการแก้ 2 ประเด็นนี้โดยเฉพาะ มาตรา 190 เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองใด ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน จึงไม่กังวลเรื่องในสภา หรือนอกสภา
“เทือก”ทำมึนไม่รู้2พรรคร่วมฯนัดคุย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปรับประทานอาหารกับลูกสาวที่ โรงแรมสยามซิตี้ ว่า โชคร้ายมากเลยเพราะบังเอิญตน ไปกินข้าวกับลูกสาวที่มาเยี่ยมรวมกับ ส.ส. 4-5 จังหวัดไปเจอกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย ส่วนที่ตนไปเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้ทำเนียบฯ เนื่องจาก ตนจะต้องมาประชุมอีก แต่เมื่อไปถึงก็เห็น นายเนวิน และนายสมศักดิ์ ยืนอยู่ที่บันได ซึ่งสื่ออาจคิดว่าตนนัดกับเขาด้วย แต่จริง ๆ ไม่ใช่ ตนไปทานข้าวของตน
“ผมไม่ทราบมาก่อน ว่าเขานัดคุยกันที่โรงแรมสยามซิตี้ ไม่ทราบเลย และไม่ได้คิดว่าจะไปข่มขวัญพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด นิสัยผมจะไปข่มขวัญใครเขาได้ และถ้าสื่อสงสัยว่ามีนัยยะอะไร ต่อไปผมจะถามสื่อก่อนว่าวันนั้น วันนี้ผมจะเลี้ยวรถไปทางไหน”
คาด25ม.ค.รู้บทสรุปของปชป.
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อสรุป2พรรคเห็นพ้องกันที่จะแก้ 2 ประเด็นคือมาตรา 190 และมาตรา 94 และมั่นใจว่าเสียงพอ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มีปัญหา และไม่มีอะไรกดดันที่นายบรรหาร จะยังเดินสายพบ พรรคร่วมจะมีผลในการกดดันพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งท่าทีของเขาก็บอกกับตนชัดเจนแล้ว ซึ่งตนก็บอกกับที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว เพียงแต่พรรค ต้องการเวลาที่จะพูดคุยกันให้ละเอียดลึกซึ้ง ก็จะมีการพูดคุยกันในการสัมมนาวันเสาร์ อาทิตย์นี้ ซึ่งวันจันทร์ตนก็น่าจะได้คำตอบไปแจ้งกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าพรรคคิดอย่างไร
“การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ผมก็ได้ให้คำตอบไปแล้วว่า ขอเวลาก่อนเปิดสมัยประชุมสภาจะทำให้เกิดความชัดเจน และสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการพูดถึงปัญหานี้ทั้งหมด ให้สมาชิกพรรค ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่และลงมติกัน โดยจะมีข้อสรุปมาฝากรัฐบาลในวันที่ 25 ม.ค. นี้ ดังนั้นคงไม่มีอะไรน่าวิตก”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้ง อย่ามองอะไรในแง่ร้าย เกินไป เมื่อถามต่อว่าจะมีการต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่มีความจำเป็นที่จะต่อรองอะไร ทุกเรื่องมีความชัดเจนแล้ว ตนก็รู้สึกเห็นใจ พรรคร่วมรัฐบาลมาก
ส่วนการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะต่อต้าน หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง ก็ย่อมต้องแสดงบทบาทและจุดยืน
“ชัย”รับลูกเร่งบรรจุญัตติแก้ไขรธน.
ด้าน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าได้บรรจุระเบียบวาระรายงานผลการศึกษาปัญหาการบังคับใช้เพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งค้างมาจากการประชุมสภา ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2552 ไว้ในเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วเป็นเรื่องแรก เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ค้างอยู่ในวาระการประชุมนานแล้วตั้งแต่วาระที่นพ.เหวง โตจิราการเสนอ แต่ถ้าไม่มีใครรับรองก็ตกไป ดังนั้นน่าจะนำขึ้นมาหารือกันได้แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะพิจารณาได้ทันหรือไม่ เนื่องจากยังมีอีกหลายเรื่องรอการพิจารณาอยู่ หากพรรคร่วมรัฐบาล เสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก็จะต้องตรวจสอบรายชื่อให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ด้าน นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ โฆษกพรรคกิจสังคม กล่าวภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคมีมติเห็นด้วยกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 มาตราก่อน ซึ่งเสียงของพรรคกิจสังคมมีจำนวน 5 เสียง
เป็ดเหลิม กร้าวแก้ได้ชาติหน้าบ่าย ๆ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า จะไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แน่นอน เพราะถ้าไปร่วมก็เท่ากับเป็นการทำลายตัวเอง พรรคเพื่อไทยจะยึดรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลัก
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลตกลงอะไรกันนั้นเป็นเรื่องของเขา สำหรับการถกเถียงกันว่าจะแก้ 2 ประเด็นหรือ 6 ประเด็นนั้น ตนมองว่าการแก้ประเด็นดังกล่าวไม่ได้สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นรวมทั้งไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลย และเชื่อว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีทางสำเร็จ ต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้ เพราะกำลังจับตาดูสถานการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่บอก พรรคได้มอบหมายเรื่องการอภิปรายให้ตนแล้วก็ขอให้ฟังตน ตอนนี้มี ยุทธศาสตร์อยู่แล้วแต่คืออะไรยังไม่บอก ส่วนจะยื่นเมื่อไหร่นั้นเดี๋ยวจะบอก ไม่ต้องเป็นห่วง
อดีตปธ.สมานฉันท์ชี้แก้2มาตราเพื่อตัวเอง
นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการ ปฎิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า มีสิทธิทำได้ แต่จะเป็นการตอกย้ำที่ฝ่ายค้านเคยกล่าวหาว่ารัฐบาลต้องการ แก้ไขกติกาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกตัวเอง ซึ่งหากถูกต่อต้านจากประชาชน เหมือนครั้งที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะแนวทางที่จะสร้างความสมานฉันท์คือแก้ 6 ประเด็นซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันทุกฝ่าย ถ้าทำกันแบบนี้ตนไม่ร่วมลงชื่อด้วยอย่างแน่นอน
ที่ร.ร.สยามซิตี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (20 ม.ค.) แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันหารือถึงการร่วมมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ก่อนที่นายบรรหารจะเดินทางมา นายสมศักดิ์ และนายเนวินได้ออกมารอรับที่หน้าโรงแรม ปรากฏว่ามีรถนำขบวนทั้งทหารและตำรวจ เข้ามาทำให้ทุกคนต่างทำหน้างงและสงสัยว่าเป็นรถของใคร จนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก้าวลงจากรถ เมื่อพบ นายเนวิน กับนายสมศักดิ์ ยืนอยู่ จึงทักว่า “มาทำอะไรกัน แอบมากินข้าวกันใช่ไหม ไม่เห็นชวนและบอกผมเลย งั้นเราแยกทางกัน” พร้อมหัวเราะ ก่อนที่นายสุเทพ จะหันไปกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเหตุบังเอิญ ตนมาส่วนตัว พาลูกสาวและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาทาอาหารกัน
เมื่อนายสุเทพ เดินเข้าโรงแรม นายเนวินถึงกับพูดว่า “ผมก็งงทำไมท่านบรรหารถึงมีทั้งทหารและตำรวจนำขบวน” ขณะที่นายสมศักดิ์ เปรยว่า “มันช่างเป็นความบังเอิญที่จงใจ”
มติแก้รธน. 2 ประเด็น
ด้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น ในฐานะวิปรัฐบาลของพรรค ภูมิใจไทย กล่าวก่อนเข้าหารือว่าเท่าที่คุยกันกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยในเบื้อต้นวันนี้พรรค อาจเสนอในที่ประชุมให้แก้เพิ่มอีก 2 มาตรา คือมาตรา265 และ266 ที่ระบุห้ามนักการเมืองเข้าไปยุ่งกับข้าราชการ จากเดิม ที่เสนอแก้มาตรา 94 เกี่ยวกับการแบบแบ่งเขต และมาตรา 190
ทั้งนี้ กว่า 40 นาทีในการหารือแกนนำ 2 พรรคร่วมแถลงและประกาศเจตนารมย์ ว่า จะร่วมมือทำกิจกรรมร่วมกันกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นคือ มาตรา 190 เกี่ยวกับการทำสนธิสัญญากับต่างประเทศต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ และ มาตรา 94 เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง จากเขตใหญ่เรียงเบอร์ เป็นเขตเดียวเบอร์เดียว พราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่เปิดโอกาสให้ส.ส.ดูแลประชาชน ทั้งที่เป็นคนที่ได้รับเลือกจากประชาชน ดังนั้นจึงต้องแก้ไขให้ส.ส.สามารถดูแลประชาชนได้
นายชุมพล กล่าวว่า การเสนอแก้ไขในครั้งนี้จะรวบ 2 ประเด็นเป็นฉบับเดียว ประกอบหลักการและเหตุผลไปโดยละเอียด เนื่องจากเห็นว่า 2 ประเด็นนี้คืออนาคตของ ประเทศไทย และสมาชิกทั้ง 2 พรรคร่วมกันลงชื่อเกิน 95 เสียงเรียบร้อยแล้ว และยังจะประสานพรรคอื่นๆ อีกเพื่อให้ร่วมมือกัน ซึ่งขอเชิญพรรคการเมืองอื่นๆ ส.ว. และพรรคเพื่อไทยก็ขอเชิญให้มาร่วมกันด้วย
ด้านนายชวรัตน์ กล่าวเสริมว่า ทั้ง 2 พรรค จะรณรงค์ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 2 ประเด็นที่เป็นปัญหาในการทำงานและปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
รบ.ไม่แตกเพราะเป็นเรื่องของรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย จะถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ขั้นตอนการแก้รัฐธรรมนูญมีหลายขั้นตอน วันนี้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเสนอญัตติเข้าสู่สภา และถือเป็นการกระทำของ สมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่รัฐบาล และไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีเองก็ประกาศชัดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา ซึ่งได้ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วว่าต่อไปนี้ถ้าสภาฯทำอะไรก็เป็นเรื่องของรัฐสภาไป ไม่มีรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน ดังนั้นใครเห็นด้วยจะร่วมลงชื่อก็มาได้เลย
ส่วนเสียงวิจารณ์ที่ว่าการยื่นแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้อาจจะสร้างความแตกแยก ให้บ้านเมืองนั้น นายชุมพล กล่าวว่า คนที่จะสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อไปถามพวกนอกสภาดู เพราะเชื่อว่าการแก้ 2 ประเด็นนี้โดยเฉพาะ มาตรา 190 เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองใด ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน จึงไม่กังวลเรื่องในสภา หรือนอกสภา
“เทือก”ทำมึนไม่รู้2พรรคร่วมฯนัดคุย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปรับประทานอาหารกับลูกสาวที่ โรงแรมสยามซิตี้ ว่า โชคร้ายมากเลยเพราะบังเอิญตน ไปกินข้าวกับลูกสาวที่มาเยี่ยมรวมกับ ส.ส. 4-5 จังหวัดไปเจอกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย ส่วนที่ตนไปเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้ทำเนียบฯ เนื่องจาก ตนจะต้องมาประชุมอีก แต่เมื่อไปถึงก็เห็น นายเนวิน และนายสมศักดิ์ ยืนอยู่ที่บันได ซึ่งสื่ออาจคิดว่าตนนัดกับเขาด้วย แต่จริง ๆ ไม่ใช่ ตนไปทานข้าวของตน
“ผมไม่ทราบมาก่อน ว่าเขานัดคุยกันที่โรงแรมสยามซิตี้ ไม่ทราบเลย และไม่ได้คิดว่าจะไปข่มขวัญพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด นิสัยผมจะไปข่มขวัญใครเขาได้ และถ้าสื่อสงสัยว่ามีนัยยะอะไร ต่อไปผมจะถามสื่อก่อนว่าวันนั้น วันนี้ผมจะเลี้ยวรถไปทางไหน”
คาด25ม.ค.รู้บทสรุปของปชป.
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อสรุป2พรรคเห็นพ้องกันที่จะแก้ 2 ประเด็นคือมาตรา 190 และมาตรา 94 และมั่นใจว่าเสียงพอ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มีปัญหา และไม่มีอะไรกดดันที่นายบรรหาร จะยังเดินสายพบ พรรคร่วมจะมีผลในการกดดันพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งท่าทีของเขาก็บอกกับตนชัดเจนแล้ว ซึ่งตนก็บอกกับที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว เพียงแต่พรรค ต้องการเวลาที่จะพูดคุยกันให้ละเอียดลึกซึ้ง ก็จะมีการพูดคุยกันในการสัมมนาวันเสาร์ อาทิตย์นี้ ซึ่งวันจันทร์ตนก็น่าจะได้คำตอบไปแจ้งกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าพรรคคิดอย่างไร
“การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ผมก็ได้ให้คำตอบไปแล้วว่า ขอเวลาก่อนเปิดสมัยประชุมสภาจะทำให้เกิดความชัดเจน และสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการพูดถึงปัญหานี้ทั้งหมด ให้สมาชิกพรรค ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่และลงมติกัน โดยจะมีข้อสรุปมาฝากรัฐบาลในวันที่ 25 ม.ค. นี้ ดังนั้นคงไม่มีอะไรน่าวิตก”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้ง อย่ามองอะไรในแง่ร้าย เกินไป เมื่อถามต่อว่าจะมีการต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่มีความจำเป็นที่จะต่อรองอะไร ทุกเรื่องมีความชัดเจนแล้ว ตนก็รู้สึกเห็นใจ พรรคร่วมรัฐบาลมาก
ส่วนการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะต่อต้าน หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง ก็ย่อมต้องแสดงบทบาทและจุดยืน
“ชัย”รับลูกเร่งบรรจุญัตติแก้ไขรธน.
ด้าน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าได้บรรจุระเบียบวาระรายงานผลการศึกษาปัญหาการบังคับใช้เพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งค้างมาจากการประชุมสภา ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2552 ไว้ในเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วเป็นเรื่องแรก เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ค้างอยู่ในวาระการประชุมนานแล้วตั้งแต่วาระที่นพ.เหวง โตจิราการเสนอ แต่ถ้าไม่มีใครรับรองก็ตกไป ดังนั้นน่าจะนำขึ้นมาหารือกันได้แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะพิจารณาได้ทันหรือไม่ เนื่องจากยังมีอีกหลายเรื่องรอการพิจารณาอยู่ หากพรรคร่วมรัฐบาล เสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก็จะต้องตรวจสอบรายชื่อให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ด้าน นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ โฆษกพรรคกิจสังคม กล่าวภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคมีมติเห็นด้วยกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 มาตราก่อน ซึ่งเสียงของพรรคกิจสังคมมีจำนวน 5 เสียง
เป็ดเหลิม กร้าวแก้ได้ชาติหน้าบ่าย ๆ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า จะไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แน่นอน เพราะถ้าไปร่วมก็เท่ากับเป็นการทำลายตัวเอง พรรคเพื่อไทยจะยึดรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลัก
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลตกลงอะไรกันนั้นเป็นเรื่องของเขา สำหรับการถกเถียงกันว่าจะแก้ 2 ประเด็นหรือ 6 ประเด็นนั้น ตนมองว่าการแก้ประเด็นดังกล่าวไม่ได้สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นรวมทั้งไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลย และเชื่อว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีทางสำเร็จ ต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้ เพราะกำลังจับตาดูสถานการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่บอก พรรคได้มอบหมายเรื่องการอภิปรายให้ตนแล้วก็ขอให้ฟังตน ตอนนี้มี ยุทธศาสตร์อยู่แล้วแต่คืออะไรยังไม่บอก ส่วนจะยื่นเมื่อไหร่นั้นเดี๋ยวจะบอก ไม่ต้องเป็นห่วง
อดีตปธ.สมานฉันท์ชี้แก้2มาตราเพื่อตัวเอง
นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการ ปฎิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า มีสิทธิทำได้ แต่จะเป็นการตอกย้ำที่ฝ่ายค้านเคยกล่าวหาว่ารัฐบาลต้องการ แก้ไขกติกาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกตัวเอง ซึ่งหากถูกต่อต้านจากประชาชน เหมือนครั้งที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะแนวทางที่จะสร้างความสมานฉันท์คือแก้ 6 ประเด็นซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันทุกฝ่าย ถ้าทำกันแบบนี้ตนไม่ร่วมลงชื่อด้วยอย่างแน่นอน