xs
xsm
sm
md
lg

โหวตตามใบสั่งสุเทพ-นิพนธ์ชวรัตน์ไม่สนอภิสิทธิ์เสนอผบ.ตร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวการยุบภาว่า ไม่มี เรื่องการยุบสภาไม่มีใครจะมายืนยันหรือไม่ยืนยันหรอก หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกจะยุบสภากันเมื่อไร เพียงแต่ขณะนี้ยังใม่มีเงื่อนไขอะไร บรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ก็เรียบร้อยดี ในการประชุม ครม.เรียบร้อยดีทุกอย่าง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องทำให้พร้อมใน 3 เงื่อนไขของนายกรัฐมนตรีก่อนจะยุบสภา เพราะ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลที่เป็นไปตาม วิถีทางในรัฐธรรมนูญ เราก็ทำใจว่าเราอยู่ในระบบนี้ ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ว่ากันไปตามระบบ แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญ ก็คงทำใจไม่ได้ ก็ต้องต่อสู้กันไป การเมืองก็ต้องคิดถึงบ้านเมือง เรื่องของผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก พวกเราที่มาทำการเมืองวันนี้ก็น่าได้คิดว่าหน้าที่ของเราคือ พาบ้านเมืองให้ไปให้รอด ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ถ้าใครยังมีอัตตาสูงอยู่ คิดแต่เรื่องตัวเองมากก็จะทำให้ไม่สามารถที่จะทุ่มเทให้กับเป้าหมายหลักได้ อันนี้เราก็ต้องทำใจ ตนก็พยายามระวัง
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงการยุบสภา เงื่อนไขข้อหนึ่งในเรื่องของนโยบายและเศรษฐกิจที่บอกว่าต้องดีขึ้นนั้น แค่ข้อนี้ก็ยังทำไม่ได้เลย นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้เศรษฐกิจก็ดีขึ้น เริ่มฟื้นตัว มีอาการแสดงออกมาแล้ว ซึ่งก็จะดีถ้าเราจะช่วยกันประคับประคองกันทุกฝ่ายก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ส่วนเรื่องของความสมานฉันท์ หากทุกฝ่ายช่วยกันก็ได้
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวลาออกของนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะลาออกว่า ต้องถามนายนิพนธ์ และที่ตนได้พูดคุยกับนายนิพนธ์ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป ไม่ได้คุยเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ตนไม่ทราบกระแสข่าวนี้เพราะปัจจุบันมีข่าวลือออก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการแลกกับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องของการเล่นเปลี่ยนอะไร และไม่ใช่เรื่องที่จะมาแลกเปลี่ยนกันได้ เชื่อว่าที่สุดทุกอย่างจะมีหนทางแก้ไข แต่ให้ถึงเวลาก่อนจึงจะเห็นว่าจะแก้ไขอย่างไร
ต่อข้อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะไม่กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องอยู่ที่คน ถ้าคนรู้จักประมาณตัว และควบคุมตัวดี ก็คงไม่มีปัญหา ตนคิดว่าเรื่องที่ลำบากของคน คือเรื่องของการที่จะควบคุมความคิดของตัวเอง ดังนั้นถ้าทุกคนคิดได้ก็คงไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าคิดไม่ได้ก็คงจะเป็นปัญหา
ผมไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ล่วงหน้า แต่ถือหลักว่าจะต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด พรุ่งนี้ปัญหาก็คงมาใหม่ ส่วนผมก็ต้องหาทางแก้ต่อไป ถ้าแก้ได้ก็แก้ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าแก้ไม่ได้ก็จะบอกว่าแก้ไม่ได้ สำหรับผมก็ให้ความคิดกับทุกคนเท่าที่จะให้ได้ แต่ความคิดของผมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องเสมอไป หรือไม่จำเป็นต้องเรื่องที่จะต้องถูกใจคนเสมอไป ผมก็ต้องประมาณตน ก็พยายาม ควบคุมตัวเองอยู่เหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอของท่านไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกฯ คงตอบแทนอะไรนายกฯไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกฎหมายปรับโครงสร้างใหม่ตำรวจมีกำหนดเวลาหรือไม่ว่า มติในการแต่งตั้งผบ.ตร.นั้นจะต้องออกอย่างช้าเมื่อไหร่ นายสุเทพ กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงกฎของ ก.ตร.ก็ควรจะทำการให้เสร็จก่อนวันที่ 31 ส.ค. แต่นี่ไม่ใช่กฎหมาย ดังนั้นเมื่อไม่ใช่กฎหมาย เมื่อไม่สามารถทำได้ก็สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ อย่างที่ประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ทางผบ.ตร.ก็ได้ขอมติ ก.ตร.ว่าบัญชีโยกย้าย นายพล ทั้งหลายที่เป็นการโยกย้ายประจำปีอันเนื่องมาจากตำแหน่ง ที่ว่างลง เพราะเกษียนอายุนั้น ก็ได้ขออนุญาตที่ประชุมก.ตร.เลื่อนไป เพราะทำไม่ทันวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งก.ตร.ก็อนุมัติและให้ไปรีบทำ เสร็จเมื่อไหร่ค่อยมาเสนอ ก็คิดว่า ภายในเดือนก.ย.ก็น่าจะเสร็จ ก็คงไม่เป็นปัญหา ไม่เป็นอุปสรรคอะไร ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ในการปฏิบัติราชการส่วนใด
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ยืนยันยังมีเอกภาพเหมือนเดิม ส่วนปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ต้องไปถามนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนพร้อมเห็นด้วยกับบุคลที่บุคคลทั้งสองคนเสนอเป็น ผบ.ตร.คนใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนายอภิสิทธิ์ เสนอชื่อคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่นายสุเทพ และนายนิพันธ์ สนับสนุน จะมีความเห็นไปในทางเดิมหรือไม่ นายชวรัตน์ หัวเราะ พร้อมหันมาถามว่า ทำไมคุณถามคำถามที่ผมตอบยาก เมื่อถามว่า ได้คุยเรื่องการแต่งตั้งผบ.ตร.กับนายอภิสิทธิ์แล้วหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับนายกฯ แต่ฝากสื่อไปถามให้ด้วยว่า นายกฯ นายนิพนธุ์และสุเทพจะเสนอใคร ระหว่าง พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ กับ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.
ส่วนจะมีการคุยนอกรอบก่อนจะประชุม ก.ต.ช.หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ เอง ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกันแต่เชื่อว่าไม่มีปัญหา และตนก็พร้อมจะคุยกับนายกฯ หากเรียกไปคุย และวันนี้ยังรักกับพรรคประชาธิปัตย์ดีอยู่ แม้ว่าจะมีลูกพรรคจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตนเอง
ต่อข้อถามว่า พรรคภูมิใจไทย พร้อมเลือกตั้งใหม่หรือยังหากมีการยุบสภา นายชวรัตน์ กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องพร้อมทุกวินาที ส่วนการประชุมของ กลุ่มคนเสื้อแดงจะกระทบกับการเมืองหรือไม่นั้น เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วคงไม่มีอะไร อย่าไปคิดอะไรมาก ทั้งนี้ตนยังไม่ได้ประเมินว่าจะมีการยุบสภาเมื่อใด เพราะเชื่อว่าจะอยู่จนครบวาระ
ส่วนหากยุบสภาจะสาสมารถสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้หรือไม่ นาย ชวรัตน์หัวเราะและกล่าวว่า เวลาสู้กันต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะตอนนี้ยังไม่สู้จะรู้ได้อย่างไรว่าใครแพ้ชนะ ต้องพยายามถึงที่สุด
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทยให้ กล่าวว่า ภายในพรรคภูมิใจไทย ไม่มีหารือหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการยุบสภาแต่อย่างใด หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวว่าอาจจะมีการยุบสภาในประมาณต้นเดือนกุมภาพันธุ์ ปี 2553
ทางพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมในการเลือกตั้งตลอดเวลา แต่ในบรรยากาศ อย่างนี้ก็ต้องตั้งคำถามกลับไปว่าจะยุบสภาแล้วมันมีประโยชน์ตรงไหน มันไม่มีหรอก เพราะปัญหาเศรษฐกิจเองก็ทำท่าจะดีแต่ต้องมาหยุดในตอนนี้ เศรษฐกิจก็จะมีปัญหาอีก และถ้าจะต้องไปเลือกตั้งด้วยกติกาเดิมโดยเงื่อนไขต่างๆ ที่ยังมีเหมือนเดิม บ้านเมืองไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาการเมืองที่มีแบบเดิมๆ ได้ ดังนั้นในส่วนของพรรค เองยืนยันว่า เราก็เห็นพ้องตามที่ท่านายกฯว่าอยู่แล้วความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้มีอย่างที่เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องการเสนอตัวผบ.ตร.มีการคุยกันนอกรอบหรือไม่ระหว่าง 2พรรค นายศุภชัยกล่าวว่า ไม่มี ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ทางพรรคคิดว่าเรื่องนี้ เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคที่ไปนั่งในตำแหน่งรมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นกรรมการใน ก.ต.ช. ดังนั้นเรื่องการหาตัว ผบ.ตร.เป็นอำนาจเด็ดขาดของท่านในการที่จะตัดสินใจ ในส่วนส.ส.ของพรรคไม่เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว
ส่วนที่ลูกพรรคประชาธิปัตย์ หลายคนไม่พอใจบทบาทของ รมว.มหาดไทย ในเรื่องการเลือกตัวผบ.ตร. ทางพรรคมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า  อาจจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องสิทธิ การแสดงความคิดเห็น แต่ในส่วนนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์เองผู้ใหญ่ของพรรคก็ออกมมาปรามว่าในสังวรณ์ในหน้าที่ของตัวเองว่า เรื่องไหน ควรจะแสดงความคิดเห็นตรงนั้นก็เข้าใจกันแล้ว หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเอง ก็ไม่ได้ถือสาในเรื่องนี้ เพราะถือว่าแสดงความคิดเห็นโดยความไม่รู้ และถ้าลูก พรรคประชาธิปัตย์อยากรู้อะไรก็ไปสอบถามบุคคต่างๆ ทางพรรคก็บอกไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประเมินการเข้ามาร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ว่า พรรคประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน นายศุภชัย กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่เขามา สิ่งที่ประสบความสำเร็จคือการแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมือง เหตุผลตรงนั้นเป็นเหตุผล หลักที่ทางพรรคตัดสินใจเข้ามาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นอย่างที่เห็น
แน่นอนคนอยู่ด้วยกัน มันอาจจะมีอะไรที่เห็นต่างกันบ้าง แต่ก็ได้พยายามที่จะทำความเข้าใจกันจนถึงวันนี้เราก็เชื่อว่าบรรยากาศที่จะอยู่ร่วมกัน ถ้าอยู่บนพื้นฐาน ที่เราสามารถทำความเข้าใจกันได้ก็ไม่มีปัญหา เพราะปัญหาหลักที่จะต้องร่วมกันแก้ คือ การแก้วิกฤตของบ้านเมืองที่มันเป็นวิกฤต ถามว่าวันนี้วิกฤตมันยังอยู่ไหม มันก็ยังอยู่ แต่มันคลี่คลายลง การแก้ปัญหาการเมืองมันสามารถแก้ไขได้เป็นอย่างดีกว่า ที่เป็นมาในอดีต ก็ถือว่าเราพอใจในสิ่งที่เราได้ทำเราจะอยู่ร่วมกันจนวินาทีสุดท้าย นานแค่ไหนก็จะอยู่
เมื่อถามว่าปัญหาบางเรื่องจะไม่นำมาซึ่งความแตกแยกระหว่าง 2พรรค ใช่หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องการแต่งตั้งเหตุผลสำคัญคือการแต่งตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมและสามารถที่จะทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและประชาชนได้มากที่สุด และถ้าหากมีเรื่องอะไรที่ติดขัดก็สามารถพูดคุยกันได้ ทุกเรื่อง ต้องผ่านการเสวนา
กำลังโหลดความคิดเห็น