วานนี้(15 มิ.ย) ที่วัดตลุกข่อน้ำ อ.แม่วงศ์ จ.นครสวรรค์ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าว “งูเห่า” บางส่วนของพรรคไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล กับพรรคเพื่อไทย โดยไม่เอากลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคด้วยนั้น นายโสภณ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พรรคภูมิใจไทย เราไม่เลี้ยงงูเห่า และไม่เลี้ยงของที่มีพิษ เราอยู่กันแบบงูสิงห์” เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ ออกมาพูดว่า ถ้าพรรคอันดับ1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคอันดับ 2 และ 3 จะตั้งรัฐบาลแข่ง นายโสภณ กล่าวย้ำว่า เราอยากเป็นรัฐบาลที่จะได้เอาผลงานไปให้ประชาชน ซึ่งพรรคอันดับ1มีสิทธิ์ตั้งรัฐบาล เขาก็สามารถไปเชิญใครก็ได้ แต่ไม่เชิญพรรคภูมิใจไทย แล้วคะแนนจัดตั้งรัฐบาลไม่พอ เราก็มีสิทธิ์ที่จะจับมือกันตั้งรัฐบาล
“ขอยืนยันว่า เราไม่กระสันเป็นรัฐบาล แต่เราต้องการเอานโยบายไปทำให้เกิดประโยชน์ เพราะถ้าพรรคภูมิใจไทย สามารถเป็นรัฐบาลได้2สมัย ก็จะมีผลงานออกมาถ้าเขาให้เกียรติเรา เราก็พร้อมที่จะร่วมทำงาน แต่ถ้าเขาไม่ให้เกียรติเรา เราก็ไม่ทำงานด้วย”นายโสภณ กล่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวปฎิเสธถึงกระแสข่าว ว่า ตนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่พรรคภูมิใจไทย มีอยู่ในแต่ละภาค ซึ่งบรรดาผู้สมัครในกลุ่มของภาคเหนือตอนล่างก็ ได้เข้ามาพูดคุยเรื่องการเมืองกับตน โดยไม่มีใครพูดถึงการย้ายไปจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ตนอยู่แต่ในจ .สุโขทัยไม่ได้เดินไปกรุงเทพและไม่เคยได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไท ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าน่าจะเกิดจากคนเพียง 2-3 คน ไปจินตนาการกันเอาเอง เพราะเรื่องดังกล่าวยืนยันว่าไม่มีมูลของความจริง
เมื่อถามว่า แสดงว่ากลุ่มมัชฌิมา ยังพร้อมที่จะเดินหน้าทำการเมืองต่อไปกับพรรคภูมิใจไทย นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า “พรรคภูมิใจไทยไม่มีกลุ่มก้อนใดๆ เราเป็นทองแผ่นเดียวกัน”
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย ปฎิเสธเช่นเดียวกันว่า “ไม่มีแกงค์งูเห่าในพรรคอย่างแน่นอน”
นายชุมพล ศิปลอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ที่จ.ศรีสะเกษ ว่า เป็นแค่สีสันในการหาเสียงเลือกตั้ง ยังไม่มีอะไรจริงจัง สิ่งที่จะพูดชัดเจนได้ต้องหลังวันเลือกตั้ง 3 ก.ค. รอดูตัวเลขที่เป็นจริง ตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นจริงทั้งหมด
นายโสภณ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ พบการทุจริตในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยมีบางพรรคการเมือง เรียกประชุมแกนนำหมู่บ้าน และอ้างว่ามีการแจกเงินให้ผู้เข้าประชุมหัวละ 200-300 บาท ว่า ตรงนี้เป็นหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะต้องไปพิสูจน์ รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาจะต้องพิสูจน์ตัวเองเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่จำเป็นต้องมีการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมีผลงานพิสูจน์ให้เห็นอยู่แล้ว
นายโสภณ ยังปราศรัยที่จ.นครสวรค์ตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยากเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เราขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และขอเป็นรัฐมนตรี ถ้าเป็นไฮโล ก็เปิดถ้วยแทงได้เลย เพราะเราได้ที่3 แน่นอน ถ้าได้ ส.ส.70คน ขึ้นไป เพราะตนมั่นใจว่า 2พรรคการเมืองไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเราได้ ส.ส. 70 คน ยังไงเขาก็ต้องมาง้อ เอาพรรคภูมิใจไทย ไปเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกัน เราตั้งพรรคมา2ปีกว่า และจะต้องอยู่อีกหลายปี เพราะเราเป็นพรรคที่มีอนาคต หากพรรคการเมืองไหนหลอกลวงประชาชนก็จะยืนด้วยตัวเองไม่ได้
“ผมเป็นลูกชาวนา ไม่ได้เป็นพวกรัฐมนตรีไหล เพราะผมมีผลงาน เราเป็นพวกลิ้นไม่มีกระดูก จึงพูดได้หมด ซึ่งถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้าไปทำงานเป็นรัฐบาลสมัยที่ 2 ก็จะสามารถสานงานต่อให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น และเอานโยบายที่ดีๆไปทำต่อ” นายโสภณ กล่าว
ที่จ.ศรีสะเกษ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยแกนนำพรรค ลงช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 1 ศรีสะเกษ หาเสียงที่ตลาดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างมากท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด
ที่โรงเรียนไทยบริหารธุรกิจและพณิชยการ บางเขน ทีมผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กทม. ร่วมกันเปิดนโยบายคลีนิคส่งเสริมการกีฬา ซึ่งเป็นโยบายสำคัญของพรรค โดยรณรงค์ให้เยาวชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 3 ก.ค. นอกจากนี้ยังร่วมแข่งขันฟุตบอลกับเด็กนักเรียนด้วย
ที่ จ.ขอนแก่น นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และแกนนำผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ของพรรค กล่าวโดยเชื่อมั่นว่า ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น พรรคสามารถสู้ได้ประมาณ 4 เขต จึงมีคะแนนสูสีใกล้เคียงกับคู่แข่ง ทั้งนี้ มีการประเมินความนิยมกันทุกสัปดาห์ และทางพรรคเชื่อมั่นผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นอดีต ส.ส ในพื้นที่ และทำงานในพื้นที่มานาน
ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงในพื้นที่ จ.ขอนแก่น นั้น พบว่าป้ายที่ถูกทำลายมากที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมา คือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มอันธพาลในคราบการเมือง นิยมความป่าเถื่อน
ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ด้วยการนั่งรถเมล์สาย139 และนำข้อมูลการบริหารงานของ 2 หน่วยงานในกระทรวงคมนาคม ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งประกอบกิจการทำให้รัฐต้องขาดทุนไปกว่า 85,476 ล้านบาท
ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารองค์กรไม่มีความสามารถเพียงพอ อีกทั้งมองว่านโยบายรถเมล์ฟรี คือนโยบายขายฝันจากรัฐบาลที่ทำขึ้น เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน โดยลืมนึกไปว่าทั้ง 2 หน่วยงานยังมีหนี้สิน และขาดทุนอย่างมหาศาลอยู่ ดังนั้น หากได้เข้ามาเป็นส.ส.จริง สิ่งแรกที่จะทำคือการปลดผู้บริหารของ 2 หน่วยงานนี้ออกทันที.
“ขอยืนยันว่า เราไม่กระสันเป็นรัฐบาล แต่เราต้องการเอานโยบายไปทำให้เกิดประโยชน์ เพราะถ้าพรรคภูมิใจไทย สามารถเป็นรัฐบาลได้2สมัย ก็จะมีผลงานออกมาถ้าเขาให้เกียรติเรา เราก็พร้อมที่จะร่วมทำงาน แต่ถ้าเขาไม่ให้เกียรติเรา เราก็ไม่ทำงานด้วย”นายโสภณ กล่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวปฎิเสธถึงกระแสข่าว ว่า ตนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่พรรคภูมิใจไทย มีอยู่ในแต่ละภาค ซึ่งบรรดาผู้สมัครในกลุ่มของภาคเหนือตอนล่างก็ ได้เข้ามาพูดคุยเรื่องการเมืองกับตน โดยไม่มีใครพูดถึงการย้ายไปจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ตนอยู่แต่ในจ .สุโขทัยไม่ได้เดินไปกรุงเทพและไม่เคยได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไท ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าน่าจะเกิดจากคนเพียง 2-3 คน ไปจินตนาการกันเอาเอง เพราะเรื่องดังกล่าวยืนยันว่าไม่มีมูลของความจริง
เมื่อถามว่า แสดงว่ากลุ่มมัชฌิมา ยังพร้อมที่จะเดินหน้าทำการเมืองต่อไปกับพรรคภูมิใจไทย นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า “พรรคภูมิใจไทยไม่มีกลุ่มก้อนใดๆ เราเป็นทองแผ่นเดียวกัน”
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย ปฎิเสธเช่นเดียวกันว่า “ไม่มีแกงค์งูเห่าในพรรคอย่างแน่นอน”
นายชุมพล ศิปลอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ที่จ.ศรีสะเกษ ว่า เป็นแค่สีสันในการหาเสียงเลือกตั้ง ยังไม่มีอะไรจริงจัง สิ่งที่จะพูดชัดเจนได้ต้องหลังวันเลือกตั้ง 3 ก.ค. รอดูตัวเลขที่เป็นจริง ตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นจริงทั้งหมด
นายโสภณ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ พบการทุจริตในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยมีบางพรรคการเมือง เรียกประชุมแกนนำหมู่บ้าน และอ้างว่ามีการแจกเงินให้ผู้เข้าประชุมหัวละ 200-300 บาท ว่า ตรงนี้เป็นหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะต้องไปพิสูจน์ รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาจะต้องพิสูจน์ตัวเองเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่จำเป็นต้องมีการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมีผลงานพิสูจน์ให้เห็นอยู่แล้ว
นายโสภณ ยังปราศรัยที่จ.นครสวรค์ตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยากเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เราขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และขอเป็นรัฐมนตรี ถ้าเป็นไฮโล ก็เปิดถ้วยแทงได้เลย เพราะเราได้ที่3 แน่นอน ถ้าได้ ส.ส.70คน ขึ้นไป เพราะตนมั่นใจว่า 2พรรคการเมืองไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเราได้ ส.ส. 70 คน ยังไงเขาก็ต้องมาง้อ เอาพรรคภูมิใจไทย ไปเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกัน เราตั้งพรรคมา2ปีกว่า และจะต้องอยู่อีกหลายปี เพราะเราเป็นพรรคที่มีอนาคต หากพรรคการเมืองไหนหลอกลวงประชาชนก็จะยืนด้วยตัวเองไม่ได้
“ผมเป็นลูกชาวนา ไม่ได้เป็นพวกรัฐมนตรีไหล เพราะผมมีผลงาน เราเป็นพวกลิ้นไม่มีกระดูก จึงพูดได้หมด ซึ่งถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้าไปทำงานเป็นรัฐบาลสมัยที่ 2 ก็จะสามารถสานงานต่อให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น และเอานโยบายที่ดีๆไปทำต่อ” นายโสภณ กล่าว
ที่จ.ศรีสะเกษ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยแกนนำพรรค ลงช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 1 ศรีสะเกษ หาเสียงที่ตลาดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างมากท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด
ที่โรงเรียนไทยบริหารธุรกิจและพณิชยการ บางเขน ทีมผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กทม. ร่วมกันเปิดนโยบายคลีนิคส่งเสริมการกีฬา ซึ่งเป็นโยบายสำคัญของพรรค โดยรณรงค์ให้เยาวชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 3 ก.ค. นอกจากนี้ยังร่วมแข่งขันฟุตบอลกับเด็กนักเรียนด้วย
ที่ จ.ขอนแก่น นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และแกนนำผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ของพรรค กล่าวโดยเชื่อมั่นว่า ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น พรรคสามารถสู้ได้ประมาณ 4 เขต จึงมีคะแนนสูสีใกล้เคียงกับคู่แข่ง ทั้งนี้ มีการประเมินความนิยมกันทุกสัปดาห์ และทางพรรคเชื่อมั่นผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นอดีต ส.ส ในพื้นที่ และทำงานในพื้นที่มานาน
ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงในพื้นที่ จ.ขอนแก่น นั้น พบว่าป้ายที่ถูกทำลายมากที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมา คือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มอันธพาลในคราบการเมือง นิยมความป่าเถื่อน
ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ด้วยการนั่งรถเมล์สาย139 และนำข้อมูลการบริหารงานของ 2 หน่วยงานในกระทรวงคมนาคม ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งประกอบกิจการทำให้รัฐต้องขาดทุนไปกว่า 85,476 ล้านบาท
ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารองค์กรไม่มีความสามารถเพียงพอ อีกทั้งมองว่านโยบายรถเมล์ฟรี คือนโยบายขายฝันจากรัฐบาลที่ทำขึ้น เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน โดยลืมนึกไปว่าทั้ง 2 หน่วยงานยังมีหนี้สิน และขาดทุนอย่างมหาศาลอยู่ ดังนั้น หากได้เข้ามาเป็นส.ส.จริง สิ่งแรกที่จะทำคือการปลดผู้บริหารของ 2 หน่วยงานนี้ออกทันที.
