ASTVผู้จัดการรายวัน- "สนธิ" ประกาศเจตนารมณ์พรรคการเมืองใหม่ เป็นตัวแทนของศีลธรรม ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ เพื่อกอบกู้บ้านเมือง ชี้"ทักษิณ" คือจุดเริ่มต้นทำชาติล่มสลาย ซัด"รัฐบาลมาร์ค" ครึ่งผีครึ่งคน ฝากความหวังไม่ได้ เพราะยังถูกควบคุมโดยกลุ่ม"การเมืองเก่า" ย้ำพรรคการเมืองใหม่ คือเครื่องมือของพันธมิตรฯ มั่นใจได้ ส.ส.เข้าสภาเยอะแน่ ลั่นปัญหาชาติแก้ได้หมด ถ้าเอาสังคมเป็นตัวตั้ง
วานนี้ (19 ม.ค.) ที่พรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) ย่านสะพานวันชาติ ได้ทำพิธีเปิดที่ทำการพรรค และเปิดป้ายพรรคการเมืองใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาสื่อมวลชน และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กว่า 1,000 คน ที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเขียวอ่อน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ นี้บรรดานักการเมืองพรรคต่างๆ นักวิชาการ และบุคคลสำคัญ ก็ต่างเข้าร่วมแสดงความยินดีด้วย อาทิ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรฯ พล.อ.ปานเทพ ภูวนาทนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาค 4 พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. รวมทั้ง นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ก็ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล พรรคพร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหนึ่งนำกระเช้าดอกไม้มาอวยพรด้วย ทั้งนี้นายวิทยา เดินทางมาในนามของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ต่อมานายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ก็นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามีตัวแทน หรือดอกไม้อายพรจากพรรคฝ่ายค้าน
สำหรับพิธีการในช่วงเช้า มีการทำบุญเลี้ยงพระ พระสงฆ์ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และกำหนดจิต อธิษฐาน เพื่อให้พรรคการเมืองใหม่ มีความเจริญก้าวหน้า บรรลุภารกิจในการปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก่อนที่นายสนธิ จะเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ ในเวลา 09.06 น. โดยมีการปล่อยลูกโป่งหลายสี นกพิราบ 12 ตัว และ ตีกลองสะบัดชัย เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย
**ประกาศเจตนารมณ์ พธม.ถึง ก.ม.ม.
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้ขึ้นบนเวทีพร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค เพื่อประกาศเจตนารมย์ พรรคการเมืองใหม่ ท่ามกลางสมาชิกและกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาร่วมให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง
นายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2544 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน นับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งเหตุการณ์บ้านเมืองล่มสลาย และสังคมล่มสลาย จากกระบวนการทางการเมือง มาจนถึงโครงสร้างสถาบันต่างๆ มีการซื้อตัวศาลรัฐธรรมนูญในกรณีซุกหุ้นภาค 1 โครงสร้างตำรวจ และทหารถูกแทรกซึม โครงการศาสนามีการผลักดันสมเด็จพระสังฆราชไม่มีงานทำ ทางด้านการศึกษาเปลี่ยนระบบ ทำให้อาจารย์กลายเป็นทาสเงินรับใช้การเมือง จนกระทั่งเกิดความสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ ซึ่งวันนี้ถ้าไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชาติไทยก็ไม่เหลือแล้ว
ขณะที่รัฐบาลปลายปี 2549-2550 ก็เกิดการปกครองแบบสมบัติผลัดกันชม จนปล่อยให้เกิดรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนพันธมิตรฯ ต้องออกมาชุมนุมเป็นเวลา 193 วัน ซึ่งถือเป็นวีรกรรมที่ต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า คนไทยที่รักชาติที่มีจรรณยาบรรณ คือคนไทยที่ร่วมกันสู้ใน 193 วัน ถ้าวันนั้นพันธมิตรฯไม่ออกมา รัฐบาลนายสมัคร ก็จะแก้รัฐธรรมนูญ และนำอสุรกายกลับมา
"อยากถามว่า ศพที่ตายไป คนที่บาดเจ็บ จากเหตุการณ์การชุมนุมต่อสู้แล้วได้ตำแหน่งรัฐมนตรี หรือค่าคอมมิชชันหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้ได้อยู่อย่างเดียว คือการทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ขณะที่มีรัฐบาลใหม่ขึ้นมาก็หวังฝากไข้ แต่กลับกลายเป็นพวกครึ่งผี ครึ่งคน บางวันเหมือนคน แต่จิตใจเหมือนผี ผมจึงเห็นว่าจะปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว"
**ยึดมั่นศีลธรรม-ซื่อสัตย์-กล้าหาญ
นายสนธิ กล่าวต่อว่าพรรคการเมืองใหม่ คือรูปแบบหนึ่งของพันธมิตรฯ แต่จะไม่ใหญ่ไปกว่าพันธมิตรฯ ที่ประชาชนทุกคนสู้ด้วยความเสียสละ ซึ่งพรรคจะได้ส.ส.กี่คนไม่สำคัญ แต่สำคัญว่าเราคงจะได้เยอะ เพราะเราเป็นตัวแทนศีลธรรม ความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ ที่ในวันนี้การเมืองไทยมองไม่เห็นเลยแม้แต่คนเดียว และในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก อยากจะบอกว่า เจตนารมณ์พรรคก็คือ เจตนารมณ์ของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ที่ได้ประกาศไว้บนเวทีการชุมนุมทั้ง 193 วัน อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ผลักดันการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง นายพิภพ ธงไชย ผู้นำการศึกษาสู่ครอบครัว ให้เด็กมีศีลธรรม นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่ผลักดันให้ผู้ใช้แรงงานมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นกัน และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่หวังให้ชาวนา ชาวไร่ ได้ขายสินค้าในราคาที่ถูกต้อง ไม่ถูกคดโกง และมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ส่วนตนหวังให้ทุกคนมีที่ยืนในสังคม ซึ่งนี่คือเจตนารมณ์ของพรรคการเมืองใหม่
"พวกเราไม่ได้แสดงความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการจัดงาน แต่เราแสดงความรักด้วยเลือด ด้วยหัวใจ ซึ่งผมไม่เคยเจอการชุมนุมไหนที่เร้าร้อนเช่นนี้ และวันนี้ปักหลักลงฐาน พรรคก็คือเครื่องมือของพันธมิตรฯ และในอนาคต ถ้าพบใครในพรรคทำผิดอุดมการณ์ก็อยู่ไม่ได้ พรรคจะทำให้หมดยุคการเมืองน้ำเน่า หมดยุคที่การเมืองเป็นหนี้คน หมดยุคปกป้องน้องชายคนบางคน"
นายสนธิ กล่าวว่า ประชาชนที่มาที่นี่ เพราะเชื่อในการเมืองใหม่ เชื่อในพันธมิตรฯ พรรคเป็นของประชาชน และพรรคก็ต้องการแค่เงินสนับสนุนประชาชน พร้อมกันนี้ตนยืนยันว่า พรรคจะไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือแอบตกลงกับใคร ซึ่งตนคิดว่า ถ้าเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ปัญหาชาติจะแก้ไขได้หมด ตนเชื่อว่าวันนี้ เป็นวันเริ่มต้นที่การเมืองไทยจะต้องเป็นหนี้พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคไม่ยึดติดที่ตำแหน่ง แต่เราทำด้วยความศรัทธา และจะไม่ท้อถอย และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน
**"สนธิ"เผยไปรักษาตัวไม่ได้ลี้ภัย
หลังการประกาศเจตนารมณ์ พรรคการเมืองใหม่ นายสนธิ ได้เปิดโอกาสให้สื่อสัมภาษณ์ โดยนายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนหายตัวไปโดยไปเก็บตัว ลี้ภัยที่ต่างประเทศ ว่า ตนไม่ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ ตามที่มีกระแสข่าวออกมา เพียงแต่ตนไปรักษาขา ซึ่งเกิดจากอาการหมอนรองกระดูกทับเส้น จนมีอาการปวดขา เมื่อเวลาเดิน หรือยืนนานๆ
"ช่วงที่มีการชุมนุม 193 วัน การกินการนอนก็ไม่เป็นที่ ทำให้มีอาการปวดมากขึ้น พอหลังจากหยุดประท้วง ก็ดีขึ้นบ้าง แต่พอถูกลอบสังหารซึ่งได้มีการผ่าตัดที่บริเวณสมองก็ทำให้ปวดอีก ผมจึงไปฝังเข็มในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มณฑลหูนาน ประเทศจีน ไปอยู่ที่นั่น มีการสอนรำไท้เก็ก เกือบ 10 วัน จนตอนนี้ดีขึ้นแล้ว จากนั้นผมก็ไปจีน ไปฮ่องกง ซึ่งในขณะนั้นที่มีประท้วงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีน- ฮ่องกง ทำให้ผมเห็นว่าที่ฮ่องกงการชุมนุมก็ไม่ต่างจากที่ไทย จึงมั่นใจว่า สิ่งที่ผมต่อสู้ไม่ผิด จากนั้นเดินทางต่อไปไต้หวัน และยืนยันว่าที่ไปไม่ได้เป็นการลี้ภัย" นายสนธิ กล่าว
**เชื่อ"มาร์ค"ยังไม่ยุบสภาช่วงนี้
นายสนธิ ยังวิเคราะห์การเมืองไทยด้วยว่า ต้องดูกันวันต่อวัน จะดูเกิน 1 อาทิตย์ไม่ได้ เพราะทุกวันมีความขัดแย้งชัดเจน อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในกรณีมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กลับมติ 7 ตุลา ของ ป.ป.ช. ให้ 3 นายตำรวจกลับเข้าทำงาน เป็นการชี้ให้เห็นว่า มีนัยยะความขัดแย้งกันลึกซึ้งมาก ซึ่งในกรณีนี้ถ้ามาเปรียบเทียบกับกรณีหวยออนไลน์นั้น ถือว่านายอภิสิทธิ์ ไม่คงเส้นคงวา ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า มีคนในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไส้ศึกให้กับหลายฝ่าย แต่เชื่อว่าจะมีไม่การแตกหักภายในพรรค แต่นายอภิสิทธิ์ จะทนไม่ได้เอง และตนเชื่อว่าจะไม่มีการยุบสภาในตอนนี้ ซึ่งจะลากกันต่อไป และถ้านานขึ้น นายสุเทพ และพรรคภูมิใจไทย ก็จะยิ่งชอบ
ส่วนการคอร์รัปชั่นนั้น ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ การฉ้อราษฎร์บังหลวงโดดเด่นมาก ทุกคนทุกฝ่ายพุ่งหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นจุดศูนย์รวมอำนาจ แต่ในสมัยนี้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกินขึ้นทุกกระทรวง อย่างกรณีกระทรวงสาธารณสุข ก็แค่ตัวอย่างหนึ่ง แต่ตนมองว่า ภายในกระทรวงคมนาคมมีมากกว่า ยกตัวอย่างกรณีนายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหารบริษัทการบินไทย กรณีขนกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกิน ที่ลาออกไป จนท้ายที่สุดประธานกรรมการบริษัท ก็ยังออกมาปกป้อง
**ต้องกล้ำกลืนใช้หนี้"ประวิตร-เนวิน"
นายสนธิ มองว่า ความซื่อสัตย์ของรัฐบาลนี้อาจมีแค่ตัวนายอภิสิทธิ์ คนเดียว ฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ จะต้องกล้าตัดสินใจ เอาให้ชัด จะไม่ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความกรณีมติ ก.ตร. อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ คงไม่พอใจรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง แต่พูดไม่ได้ เพราะนายสุเทพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ยังเป็นตัวเชื่อมสะพานแห่งอำนาจ ซึ่งตนมีคำถามว่า นายอภิสิทธิ์ จะยอมให้ครอบงำได้แค่ไหน ตนมองว่านายอภิสิทธิ์ มีอำนาจ เพราะนายสุเทพ เดินเรื่องและคาดว่านายสุเทพ คงพูดว่าเป็นหนี้บุญคุณเขา ต้องตอบแทน นายสุเทพ ก็ตอบแทน พ.ล.ต.อ.พัชรวาท เยอะทั้งกรณีที่ให้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เซ็นคำสั่งให้ย้ายกลับมานั่ง ผบ.ตร.
นายสนธิ ยังยืนยันด้วยว่า ก.ตร.จะไปกลับคำสั่งป.ป.ช.ไม่ได้ เพราะก.ตร. มาจากกฏหมายลูก ส่วนป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นตนอยากถามนายสุเทพว่า เวลาแต่งตั้งตำรวจ ทำไมกลับไม่เห็นนายสุเทพเป็นแค่แมสเซนเจอร์แทนเลย ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ โยนเรื่องให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ไปสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเอาเอง คือการซื้อเวลา ยืนยันชาติต้องการการตัดสินใจกล้าหาญ และเด็ดขาด
**ข้องใจ"มาร์ค-เทือก"เล่นละคร
ขณะที่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่น่าจับตามองทางการเมือง กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศบุกพื้นที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เอกชน ถ้าเกิดเหตุการณ์คนในกลุ่มเสื้อแดงถูกยิงเสียชีวิต ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ส่วนกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ก็เป็นทหารในประวัติศาสตร์ เพราะตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ตนยังไม่เคยเห็น พล.ต. ขู่กระทืบผู้บังคับบัญชา ซึ่งตรงนี้ส่อให้เห็นถึงความล่มสลายของวงการทหาร รวมถึงในส่วนของตำรวจด้วย ทั้งนี้ตนได้ฟังบางคนพูดไว้ว่า นายสุเทพ อาจจะฮั้วกับนายอภิสิทธิ์ เพื่อสร้างภาพให้เกิดมีความขัดแย้งกัน
ตนมองว่าหากมีการกระทำเช่นนี้จริงถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว และในที่สุดชีวิตของนายอภิสิทธิ์ อาจจะพัง โดยตนหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่จริง แต่ตรงนี้ก็เป็นคำถามว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ ถึงไม่ทำอะไรให้ชัดเจน รวมทั้งกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ใส่ชุดทหารออกมารับอวยพรปีใหม่ ก็ถือว่ามีนัยยะ ตนมองว่าการเมืองไทย เป็นการเมืองสัญลักษณ์ เช่นเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แรกๆ หลังรู้วันพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาทวิตเตอร์ ให้ยอมรับศาล เหมือนได้รับสัญญาณอะไรบางอย่าง แต่ในอีกสัปดาห์ กลับเปลี่ยนคำพูดห้ามยึดเงิน แสดงว่าทุกอย่างไม่นิ่ง
ทั้งนี้พรรคการเมืองใหม่ จะไม่เต้นตาม เราขอให้มี ส.ส. ดี เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ตนมองว่า เมืองไทยสามารถแก้ได้ทุกเรื่อง ถ้านักการเมืองเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ตนไปเห็นมาทุกประเทศ ไม่มีใครสู้ไทยได้ แต่ไทยห่วยแตกที่นักการเมือง ฉะนั้นตนขอนักการเมืองอย่าเอาประโยชน์ส่วนตัว เป็นตัวตั้ง
** สมเพช"เสื้อแดง"ถูกหลอก
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนมองกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นพวกน่าสงสาร เพราะได้ข้อมูลที่ผิดมาปลุกปั่น เช่นกรณีปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ ราคายางพืชไร่สูง ตราบใดก็ตามถ้าประชาชนยังถูกครอบงำ และรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย เสื้อแดงจะถูกครอบงำ ทั้งนี้ตนอยากจะแนะนำแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้ทำตัวโปร่งใส เพราะวันนี้ตนเห็นว่า ทุกคนร่ำรวยกันหมด จากบางคนตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ข้าวยังไม่มีกิน ตอนนี้มีบ้านเป็นสิบล้าน บ้างก็มีร้านอาหารไทยเปิดอยู่ที่อังกฤษบ้าง ซึ่งปัญหาใหญ่อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมจะแตกหักหรือเปล่า ซึ่งการแตกหักก็มีแบบเปิดเผย หรือแบบซ้อนเร้น แบบเปิดเผยก็คือประกาศตัวชัดเจนเลยว่าจะสู้ ส่วนซ้อนเร้นก็คือ หลอกกลุ่มคนเสื้อแดงให้ไปตาย แล้วตัวเองจับมือกับอีกฝ่าย
ดังนั้นจึงอยากถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า การที่ไปจับมือร่วมกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงศ์ สมัยทำรัฐประหาร รสช. เป็นนักประชาธิปไตยตรงไหน รวมทั้งกรณีจ่ายเงินให้ปธน.ฟิจิ เพื่อแลกกับการออกพาสสปอร์ตให้ด้วย ทั้งนี้ตนมองว่าโอกาสที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะทิ้งกลุ่มเสื้อแดงเมื่อตัวเองได้สิ่งที่ต้องการแล้วมีสูง ไม่เหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ คนที่ได้รับการบาดเจ็บจากการชุมนุม เรายังดูแลมาตลอด
**สมานฉันท์ต้องยืนบนความถูกต้อง
ส่วนนโยบายสมานฉันท์นั้น ตนมองว่าบ้านเมืองจะต้องกลับไปสู่ความถูกต้อง ทั้งนี้นายสนธิ ยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนตั้งพรรคการเมืองใหม่มีคนจากกลุ่มเสื้อแดงติดต่อมา บอกว่า เสื้อแดงกับเสื้อเหลือง น่าจะคุยได้ ตนก็บอกได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขตรงกันคือ ต้องไม่สู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และยุติจาบจ้วงสถาบันฯ รวมถึงกรณีการต่อต้านคอร์รัปชัน ถ้าเสื้อแดงมีความจริงใจ ก็ต้องไปประท้วงทวงคืนสนามกอล์ฟอัลไพน์ให้เป็นของแผ่นดินด้วย ถ้าจะเอาถูกกับผิดผสมกันเพื่อสมานฉันท์ อันนี้ตนไม่เห็นด้วย
**ยันไม่สังฆกรรม"การเมืองเก่า"
หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ยังพูดถึงการร่วมรัฐบาลด้วยว่า หากถ้าพรรคต้องร่วมรัฐบาลกับพรรคใดแล้วกลับไปสู่การเมืองเก่า ตนและนายสมศักดิ์ โกศัยสุข รองหัวหน้าพรรค คงจะไม่ร่วม เพราะการทำพรรคการเมืองต้องมีศรัทธา และต้องอดทน ถ้าเรามี 50 เสียง และจะไปร่วมรัฐบาลที่เป็นการเมืองเก่า ตนอาจจะบอกว่า เราไม่ต้องเป็นฝ่ายค้าน ไม่ต้องเป็นรัฐบาล แต่พร้อมจะยกมือสนับสนุน และคัดค้านรัฐบาลตามเจตนารมย์ของพรรค เราพร้อมที่จะต่อสู้กับความฉ้อราษฎร์บังหลวง เราพร้อมจะเป็นฝ่ายตรวจสอบ นอกจากเสียจากเราจะมีเสียงข้างมาก ก็จะเป็นรัฐบาลให้ดู และจะขอเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
นายสนธิ ยังกล่าวถึงการที่มีคนพูดว่า การชุมนุมเป็นภัยต่อชาติว่า การชุมนุมที่เป็นภัยคือ การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตนก็อยากถามกลับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และนายสุเทพว่า เสื้อเหลืองเป็นตัววุ่นวายตรงไหน พันธมิตรฯ ไม่เคยเผารถเมล์ และเราก็ไม่เคยเห็นเสื้อแดงชุมนุมแล้วโดนระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่ม แต่พอเสื้อเหลืองชุมนุม ขนาดไปชุมนุมรวมพลังให้ในหลวงหายจากพระประชวร ยังโดนยิงเลย แต่เสื้อแดงไม่เคยโดนไล่ทำร้าย มีแต่ตีกันเอง คนเสื้อเหลืองสู้ในเรื่องเดียวคือ แก้รัฐธรรมนูญ และ 193 วัน ที่มีการชุมนุม ก็มาจากการเริ่มประเด็นเดียวคือ การแก้รัฐธรรมนูญ ตนนอนกลางดินกินกลางทรายคิดว่าสนุกหรือ ที่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ จะตั้งรัฐบาลบนซากศพ
**ยันถูกบิดเบือนเรื่องปิดสนามบิน
ทั้งนี้นายสนธิ ยังได้ชี้แจงถึงการชุมนุมภายในสนามบินว่า พันธมิตรฯไปที่สนามบินดอนเมือง เพื่อบล็อกประชุม ครม.ซึ่งในขณะนั้นใช้แทนทำเนียบรัฐบาล และยืนยันว่าพันธมิตรฯไม่ได้เป็นคนไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะพันธมิตรฯ ยังปล่อยให้นักท่องเที่ยวใช้เครื่องบินเดินทางได้ แต่คนที่สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิที่แท้จริงคือ นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกเปิดโปงความสัมพันธ์กับนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. ในเวลาต่อมา ซึ่งในภายหลังนายเสรีรัตน์ ก็ได้ออกมายอมรับว่า สั่งปิดจริง ส่วนกรณีการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ก็ต้องพิจารณาให้ดี ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่ใช่ดื้อด้าน แต่ถ้าแก้เพื่อให้ใครพ้นผิดหรือมีเจตนาแอบแฝง เราไม่เอา แต่ก็ขอให้คอยดูกันต่อไป
ทั้งนี้ตนรู้สึกว่า สังคมไทยล่มสลายแล้ว หลังจากที่ได้เห็นหลายคนรู้สึกเฉยๆ กับการยกแผ่นดินให้เขมรของนักการเมือง ส่วนการเมืองภายใน สภาฯจะไม่สามารถแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้านักการเมืองไม่เปลี่ยนนิสัยมองประเทศชาติเป็นของตน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่รอด
วานนี้ (19 ม.ค.) ที่พรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) ย่านสะพานวันชาติ ได้ทำพิธีเปิดที่ทำการพรรค และเปิดป้ายพรรคการเมืองใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาสื่อมวลชน และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กว่า 1,000 คน ที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเขียวอ่อน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ นี้บรรดานักการเมืองพรรคต่างๆ นักวิชาการ และบุคคลสำคัญ ก็ต่างเข้าร่วมแสดงความยินดีด้วย อาทิ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรฯ พล.อ.ปานเทพ ภูวนาทนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาค 4 พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. รวมทั้ง นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ก็ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล พรรคพร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวนหนึ่งนำกระเช้าดอกไม้มาอวยพรด้วย ทั้งนี้นายวิทยา เดินทางมาในนามของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ต่อมานายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ก็นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามีตัวแทน หรือดอกไม้อายพรจากพรรคฝ่ายค้าน
สำหรับพิธีการในช่วงเช้า มีการทำบุญเลี้ยงพระ พระสงฆ์ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และกำหนดจิต อธิษฐาน เพื่อให้พรรคการเมืองใหม่ มีความเจริญก้าวหน้า บรรลุภารกิจในการปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก่อนที่นายสนธิ จะเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ ในเวลา 09.06 น. โดยมีการปล่อยลูกโป่งหลายสี นกพิราบ 12 ตัว และ ตีกลองสะบัดชัย เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย
**ประกาศเจตนารมณ์ พธม.ถึง ก.ม.ม.
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้ขึ้นบนเวทีพร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค เพื่อประกาศเจตนารมย์ พรรคการเมืองใหม่ ท่ามกลางสมาชิกและกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาร่วมให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง
นายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2544 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน นับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งเหตุการณ์บ้านเมืองล่มสลาย และสังคมล่มสลาย จากกระบวนการทางการเมือง มาจนถึงโครงสร้างสถาบันต่างๆ มีการซื้อตัวศาลรัฐธรรมนูญในกรณีซุกหุ้นภาค 1 โครงสร้างตำรวจ และทหารถูกแทรกซึม โครงการศาสนามีการผลักดันสมเด็จพระสังฆราชไม่มีงานทำ ทางด้านการศึกษาเปลี่ยนระบบ ทำให้อาจารย์กลายเป็นทาสเงินรับใช้การเมือง จนกระทั่งเกิดความสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ ซึ่งวันนี้ถ้าไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชาติไทยก็ไม่เหลือแล้ว
ขณะที่รัฐบาลปลายปี 2549-2550 ก็เกิดการปกครองแบบสมบัติผลัดกันชม จนปล่อยให้เกิดรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนพันธมิตรฯ ต้องออกมาชุมนุมเป็นเวลา 193 วัน ซึ่งถือเป็นวีรกรรมที่ต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า คนไทยที่รักชาติที่มีจรรณยาบรรณ คือคนไทยที่ร่วมกันสู้ใน 193 วัน ถ้าวันนั้นพันธมิตรฯไม่ออกมา รัฐบาลนายสมัคร ก็จะแก้รัฐธรรมนูญ และนำอสุรกายกลับมา
"อยากถามว่า ศพที่ตายไป คนที่บาดเจ็บ จากเหตุการณ์การชุมนุมต่อสู้แล้วได้ตำแหน่งรัฐมนตรี หรือค่าคอมมิชชันหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้ได้อยู่อย่างเดียว คือการทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ขณะที่มีรัฐบาลใหม่ขึ้นมาก็หวังฝากไข้ แต่กลับกลายเป็นพวกครึ่งผี ครึ่งคน บางวันเหมือนคน แต่จิตใจเหมือนผี ผมจึงเห็นว่าจะปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว"
**ยึดมั่นศีลธรรม-ซื่อสัตย์-กล้าหาญ
นายสนธิ กล่าวต่อว่าพรรคการเมืองใหม่ คือรูปแบบหนึ่งของพันธมิตรฯ แต่จะไม่ใหญ่ไปกว่าพันธมิตรฯ ที่ประชาชนทุกคนสู้ด้วยความเสียสละ ซึ่งพรรคจะได้ส.ส.กี่คนไม่สำคัญ แต่สำคัญว่าเราคงจะได้เยอะ เพราะเราเป็นตัวแทนศีลธรรม ความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ ที่ในวันนี้การเมืองไทยมองไม่เห็นเลยแม้แต่คนเดียว และในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก อยากจะบอกว่า เจตนารมณ์พรรคก็คือ เจตนารมณ์ของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ที่ได้ประกาศไว้บนเวทีการชุมนุมทั้ง 193 วัน อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ผลักดันการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง นายพิภพ ธงไชย ผู้นำการศึกษาสู่ครอบครัว ให้เด็กมีศีลธรรม นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่ผลักดันให้ผู้ใช้แรงงานมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นกัน และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่หวังให้ชาวนา ชาวไร่ ได้ขายสินค้าในราคาที่ถูกต้อง ไม่ถูกคดโกง และมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ส่วนตนหวังให้ทุกคนมีที่ยืนในสังคม ซึ่งนี่คือเจตนารมณ์ของพรรคการเมืองใหม่
"พวกเราไม่ได้แสดงความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการจัดงาน แต่เราแสดงความรักด้วยเลือด ด้วยหัวใจ ซึ่งผมไม่เคยเจอการชุมนุมไหนที่เร้าร้อนเช่นนี้ และวันนี้ปักหลักลงฐาน พรรคก็คือเครื่องมือของพันธมิตรฯ และในอนาคต ถ้าพบใครในพรรคทำผิดอุดมการณ์ก็อยู่ไม่ได้ พรรคจะทำให้หมดยุคการเมืองน้ำเน่า หมดยุคที่การเมืองเป็นหนี้คน หมดยุคปกป้องน้องชายคนบางคน"
นายสนธิ กล่าวว่า ประชาชนที่มาที่นี่ เพราะเชื่อในการเมืองใหม่ เชื่อในพันธมิตรฯ พรรคเป็นของประชาชน และพรรคก็ต้องการแค่เงินสนับสนุนประชาชน พร้อมกันนี้ตนยืนยันว่า พรรคจะไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือแอบตกลงกับใคร ซึ่งตนคิดว่า ถ้าเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ปัญหาชาติจะแก้ไขได้หมด ตนเชื่อว่าวันนี้ เป็นวันเริ่มต้นที่การเมืองไทยจะต้องเป็นหนี้พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคไม่ยึดติดที่ตำแหน่ง แต่เราทำด้วยความศรัทธา และจะไม่ท้อถอย และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน
**"สนธิ"เผยไปรักษาตัวไม่ได้ลี้ภัย
หลังการประกาศเจตนารมณ์ พรรคการเมืองใหม่ นายสนธิ ได้เปิดโอกาสให้สื่อสัมภาษณ์ โดยนายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนหายตัวไปโดยไปเก็บตัว ลี้ภัยที่ต่างประเทศ ว่า ตนไม่ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ ตามที่มีกระแสข่าวออกมา เพียงแต่ตนไปรักษาขา ซึ่งเกิดจากอาการหมอนรองกระดูกทับเส้น จนมีอาการปวดขา เมื่อเวลาเดิน หรือยืนนานๆ
"ช่วงที่มีการชุมนุม 193 วัน การกินการนอนก็ไม่เป็นที่ ทำให้มีอาการปวดมากขึ้น พอหลังจากหยุดประท้วง ก็ดีขึ้นบ้าง แต่พอถูกลอบสังหารซึ่งได้มีการผ่าตัดที่บริเวณสมองก็ทำให้ปวดอีก ผมจึงไปฝังเข็มในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มณฑลหูนาน ประเทศจีน ไปอยู่ที่นั่น มีการสอนรำไท้เก็ก เกือบ 10 วัน จนตอนนี้ดีขึ้นแล้ว จากนั้นผมก็ไปจีน ไปฮ่องกง ซึ่งในขณะนั้นที่มีประท้วงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีน- ฮ่องกง ทำให้ผมเห็นว่าที่ฮ่องกงการชุมนุมก็ไม่ต่างจากที่ไทย จึงมั่นใจว่า สิ่งที่ผมต่อสู้ไม่ผิด จากนั้นเดินทางต่อไปไต้หวัน และยืนยันว่าที่ไปไม่ได้เป็นการลี้ภัย" นายสนธิ กล่าว
**เชื่อ"มาร์ค"ยังไม่ยุบสภาช่วงนี้
นายสนธิ ยังวิเคราะห์การเมืองไทยด้วยว่า ต้องดูกันวันต่อวัน จะดูเกิน 1 อาทิตย์ไม่ได้ เพราะทุกวันมีความขัดแย้งชัดเจน อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในกรณีมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กลับมติ 7 ตุลา ของ ป.ป.ช. ให้ 3 นายตำรวจกลับเข้าทำงาน เป็นการชี้ให้เห็นว่า มีนัยยะความขัดแย้งกันลึกซึ้งมาก ซึ่งในกรณีนี้ถ้ามาเปรียบเทียบกับกรณีหวยออนไลน์นั้น ถือว่านายอภิสิทธิ์ ไม่คงเส้นคงวา ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า มีคนในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไส้ศึกให้กับหลายฝ่าย แต่เชื่อว่าจะมีไม่การแตกหักภายในพรรค แต่นายอภิสิทธิ์ จะทนไม่ได้เอง และตนเชื่อว่าจะไม่มีการยุบสภาในตอนนี้ ซึ่งจะลากกันต่อไป และถ้านานขึ้น นายสุเทพ และพรรคภูมิใจไทย ก็จะยิ่งชอบ
ส่วนการคอร์รัปชั่นนั้น ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ การฉ้อราษฎร์บังหลวงโดดเด่นมาก ทุกคนทุกฝ่ายพุ่งหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นจุดศูนย์รวมอำนาจ แต่ในสมัยนี้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกินขึ้นทุกกระทรวง อย่างกรณีกระทรวงสาธารณสุข ก็แค่ตัวอย่างหนึ่ง แต่ตนมองว่า ภายในกระทรวงคมนาคมมีมากกว่า ยกตัวอย่างกรณีนายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหารบริษัทการบินไทย กรณีขนกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกิน ที่ลาออกไป จนท้ายที่สุดประธานกรรมการบริษัท ก็ยังออกมาปกป้อง
**ต้องกล้ำกลืนใช้หนี้"ประวิตร-เนวิน"
นายสนธิ มองว่า ความซื่อสัตย์ของรัฐบาลนี้อาจมีแค่ตัวนายอภิสิทธิ์ คนเดียว ฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ จะต้องกล้าตัดสินใจ เอาให้ชัด จะไม่ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความกรณีมติ ก.ตร. อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ คงไม่พอใจรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง แต่พูดไม่ได้ เพราะนายสุเทพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ยังเป็นตัวเชื่อมสะพานแห่งอำนาจ ซึ่งตนมีคำถามว่า นายอภิสิทธิ์ จะยอมให้ครอบงำได้แค่ไหน ตนมองว่านายอภิสิทธิ์ มีอำนาจ เพราะนายสุเทพ เดินเรื่องและคาดว่านายสุเทพ คงพูดว่าเป็นหนี้บุญคุณเขา ต้องตอบแทน นายสุเทพ ก็ตอบแทน พ.ล.ต.อ.พัชรวาท เยอะทั้งกรณีที่ให้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เซ็นคำสั่งให้ย้ายกลับมานั่ง ผบ.ตร.
นายสนธิ ยังยืนยันด้วยว่า ก.ตร.จะไปกลับคำสั่งป.ป.ช.ไม่ได้ เพราะก.ตร. มาจากกฏหมายลูก ส่วนป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นตนอยากถามนายสุเทพว่า เวลาแต่งตั้งตำรวจ ทำไมกลับไม่เห็นนายสุเทพเป็นแค่แมสเซนเจอร์แทนเลย ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ โยนเรื่องให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ไปสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเอาเอง คือการซื้อเวลา ยืนยันชาติต้องการการตัดสินใจกล้าหาญ และเด็ดขาด
**ข้องใจ"มาร์ค-เทือก"เล่นละคร
ขณะที่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่น่าจับตามองทางการเมือง กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศบุกพื้นที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เอกชน ถ้าเกิดเหตุการณ์คนในกลุ่มเสื้อแดงถูกยิงเสียชีวิต ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ส่วนกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ก็เป็นทหารในประวัติศาสตร์ เพราะตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ตนยังไม่เคยเห็น พล.ต. ขู่กระทืบผู้บังคับบัญชา ซึ่งตรงนี้ส่อให้เห็นถึงความล่มสลายของวงการทหาร รวมถึงในส่วนของตำรวจด้วย ทั้งนี้ตนได้ฟังบางคนพูดไว้ว่า นายสุเทพ อาจจะฮั้วกับนายอภิสิทธิ์ เพื่อสร้างภาพให้เกิดมีความขัดแย้งกัน
ตนมองว่าหากมีการกระทำเช่นนี้จริงถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว และในที่สุดชีวิตของนายอภิสิทธิ์ อาจจะพัง โดยตนหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่จริง แต่ตรงนี้ก็เป็นคำถามว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ ถึงไม่ทำอะไรให้ชัดเจน รวมทั้งกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ใส่ชุดทหารออกมารับอวยพรปีใหม่ ก็ถือว่ามีนัยยะ ตนมองว่าการเมืองไทย เป็นการเมืองสัญลักษณ์ เช่นเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แรกๆ หลังรู้วันพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาทวิตเตอร์ ให้ยอมรับศาล เหมือนได้รับสัญญาณอะไรบางอย่าง แต่ในอีกสัปดาห์ กลับเปลี่ยนคำพูดห้ามยึดเงิน แสดงว่าทุกอย่างไม่นิ่ง
ทั้งนี้พรรคการเมืองใหม่ จะไม่เต้นตาม เราขอให้มี ส.ส. ดี เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ตนมองว่า เมืองไทยสามารถแก้ได้ทุกเรื่อง ถ้านักการเมืองเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ตนไปเห็นมาทุกประเทศ ไม่มีใครสู้ไทยได้ แต่ไทยห่วยแตกที่นักการเมือง ฉะนั้นตนขอนักการเมืองอย่าเอาประโยชน์ส่วนตัว เป็นตัวตั้ง
** สมเพช"เสื้อแดง"ถูกหลอก
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนมองกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นพวกน่าสงสาร เพราะได้ข้อมูลที่ผิดมาปลุกปั่น เช่นกรณีปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ ราคายางพืชไร่สูง ตราบใดก็ตามถ้าประชาชนยังถูกครอบงำ และรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย เสื้อแดงจะถูกครอบงำ ทั้งนี้ตนอยากจะแนะนำแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้ทำตัวโปร่งใส เพราะวันนี้ตนเห็นว่า ทุกคนร่ำรวยกันหมด จากบางคนตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ข้าวยังไม่มีกิน ตอนนี้มีบ้านเป็นสิบล้าน บ้างก็มีร้านอาหารไทยเปิดอยู่ที่อังกฤษบ้าง ซึ่งปัญหาใหญ่อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมจะแตกหักหรือเปล่า ซึ่งการแตกหักก็มีแบบเปิดเผย หรือแบบซ้อนเร้น แบบเปิดเผยก็คือประกาศตัวชัดเจนเลยว่าจะสู้ ส่วนซ้อนเร้นก็คือ หลอกกลุ่มคนเสื้อแดงให้ไปตาย แล้วตัวเองจับมือกับอีกฝ่าย
ดังนั้นจึงอยากถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า การที่ไปจับมือร่วมกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงศ์ สมัยทำรัฐประหาร รสช. เป็นนักประชาธิปไตยตรงไหน รวมทั้งกรณีจ่ายเงินให้ปธน.ฟิจิ เพื่อแลกกับการออกพาสสปอร์ตให้ด้วย ทั้งนี้ตนมองว่าโอกาสที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะทิ้งกลุ่มเสื้อแดงเมื่อตัวเองได้สิ่งที่ต้องการแล้วมีสูง ไม่เหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ คนที่ได้รับการบาดเจ็บจากการชุมนุม เรายังดูแลมาตลอด
**สมานฉันท์ต้องยืนบนความถูกต้อง
ส่วนนโยบายสมานฉันท์นั้น ตนมองว่าบ้านเมืองจะต้องกลับไปสู่ความถูกต้อง ทั้งนี้นายสนธิ ยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนตั้งพรรคการเมืองใหม่มีคนจากกลุ่มเสื้อแดงติดต่อมา บอกว่า เสื้อแดงกับเสื้อเหลือง น่าจะคุยได้ ตนก็บอกได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขตรงกันคือ ต้องไม่สู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และยุติจาบจ้วงสถาบันฯ รวมถึงกรณีการต่อต้านคอร์รัปชัน ถ้าเสื้อแดงมีความจริงใจ ก็ต้องไปประท้วงทวงคืนสนามกอล์ฟอัลไพน์ให้เป็นของแผ่นดินด้วย ถ้าจะเอาถูกกับผิดผสมกันเพื่อสมานฉันท์ อันนี้ตนไม่เห็นด้วย
**ยันไม่สังฆกรรม"การเมืองเก่า"
หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ยังพูดถึงการร่วมรัฐบาลด้วยว่า หากถ้าพรรคต้องร่วมรัฐบาลกับพรรคใดแล้วกลับไปสู่การเมืองเก่า ตนและนายสมศักดิ์ โกศัยสุข รองหัวหน้าพรรค คงจะไม่ร่วม เพราะการทำพรรคการเมืองต้องมีศรัทธา และต้องอดทน ถ้าเรามี 50 เสียง และจะไปร่วมรัฐบาลที่เป็นการเมืองเก่า ตนอาจจะบอกว่า เราไม่ต้องเป็นฝ่ายค้าน ไม่ต้องเป็นรัฐบาล แต่พร้อมจะยกมือสนับสนุน และคัดค้านรัฐบาลตามเจตนารมย์ของพรรค เราพร้อมที่จะต่อสู้กับความฉ้อราษฎร์บังหลวง เราพร้อมจะเป็นฝ่ายตรวจสอบ นอกจากเสียจากเราจะมีเสียงข้างมาก ก็จะเป็นรัฐบาลให้ดู และจะขอเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
นายสนธิ ยังกล่าวถึงการที่มีคนพูดว่า การชุมนุมเป็นภัยต่อชาติว่า การชุมนุมที่เป็นภัยคือ การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตนก็อยากถามกลับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และนายสุเทพว่า เสื้อเหลืองเป็นตัววุ่นวายตรงไหน พันธมิตรฯ ไม่เคยเผารถเมล์ และเราก็ไม่เคยเห็นเสื้อแดงชุมนุมแล้วโดนระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่ม แต่พอเสื้อเหลืองชุมนุม ขนาดไปชุมนุมรวมพลังให้ในหลวงหายจากพระประชวร ยังโดนยิงเลย แต่เสื้อแดงไม่เคยโดนไล่ทำร้าย มีแต่ตีกันเอง คนเสื้อเหลืองสู้ในเรื่องเดียวคือ แก้รัฐธรรมนูญ และ 193 วัน ที่มีการชุมนุม ก็มาจากการเริ่มประเด็นเดียวคือ การแก้รัฐธรรมนูญ ตนนอนกลางดินกินกลางทรายคิดว่าสนุกหรือ ที่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ จะตั้งรัฐบาลบนซากศพ
**ยันถูกบิดเบือนเรื่องปิดสนามบิน
ทั้งนี้นายสนธิ ยังได้ชี้แจงถึงการชุมนุมภายในสนามบินว่า พันธมิตรฯไปที่สนามบินดอนเมือง เพื่อบล็อกประชุม ครม.ซึ่งในขณะนั้นใช้แทนทำเนียบรัฐบาล และยืนยันว่าพันธมิตรฯไม่ได้เป็นคนไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะพันธมิตรฯ ยังปล่อยให้นักท่องเที่ยวใช้เครื่องบินเดินทางได้ แต่คนที่สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิที่แท้จริงคือ นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกเปิดโปงความสัมพันธ์กับนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. ในเวลาต่อมา ซึ่งในภายหลังนายเสรีรัตน์ ก็ได้ออกมายอมรับว่า สั่งปิดจริง ส่วนกรณีการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ก็ต้องพิจารณาให้ดี ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่ใช่ดื้อด้าน แต่ถ้าแก้เพื่อให้ใครพ้นผิดหรือมีเจตนาแอบแฝง เราไม่เอา แต่ก็ขอให้คอยดูกันต่อไป
ทั้งนี้ตนรู้สึกว่า สังคมไทยล่มสลายแล้ว หลังจากที่ได้เห็นหลายคนรู้สึกเฉยๆ กับการยกแผ่นดินให้เขมรของนักการเมือง ส่วนการเมืองภายใน สภาฯจะไม่สามารถแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้านักการเมืองไม่เปลี่ยนนิสัยมองประเทศชาติเป็นของตน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่รอด