บอร์ด “การบินไทย” แถลงผลสอบ “บิ๊กกระเป๋าฉาว” ขนกระเป๋าน้ำหนักเกิน 398 กก. โดยสั่งปรับ กก.ละ 20 ดอลลาร์ รวมเป็นเงิน 2 แสนบาท แต่มีการชิงลาออกไปแล้ว ที่ประชุมจึงไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง
นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แถลงผลตรวจสอบกรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำของกรรมการบริษัท ขนกระเป๋าสัมภาระ เที่ยวบินที่ TG 677 เส้นทางโตเกียว-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 25522 โดยระบุว่า นายวัลลภ พุกกะณะสุต อดีตประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนางจารุวรรณ พุกกะณะสุต และนางพิมใจ มัตสุโมโต มีการบรรทุกสัมภาระเกินกำหนดจริง โดยพบว่านายวัลลภ และผู้ติดตามอีก 3 คน มีการบรรทุกสัมภาระรวมกัน 30 ชิ้น น้ำหนักรวม 398 กิโลกรัม เกินกำหนด 228 กิโลกรัม
ทั้งนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้พิจารณาเห็นว่า นายวัลลภได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท ไปแล้ว จึงไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของนายวัลลภอีก
ขณะที่ นายพฤกษ์ บุบผาคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ขนสัมภาระ 10 ชิ้น 113 กิโลกรัม เกินจำนวนที่กำหนด 73 กิโลกรัม โดยผลตรวจสอบพบว่า นายพฤกษ์ ไม่มีเจตนาขนสัมภาระเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ แต่สัมภาระที่เกินเป็นของฝ่ายการพาณิชย์ที่ให้มีการขนสินค้ามาเป็นตัวอย่าง เพื่อเลือกสรรสำหรับการบริการบนเครื่องบิน ประกอบด้วย ตัวอย่างน้ำอัดลม 4 ลัง น้ำผลไม้ 3 ลัง จึงไม่มีความผิด
นายอำพนกล่าวว่า ในเรื่องนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการ โดยจะมีการปรับค่าบรรทุกเกินแก่บุคคลทั้ง 2 คน ซึ่งตามระเบียบแล้ว ค่าปรับจะอยู่ที่ประมาณ 20 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม หรือรวมกันประมาณ 200,000 บาท
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ประธานกรรมการบริษัท การบินไทย กล่าวยืนยันว่า จำนวนการขนส่งสินค้าของเครื่องลำดังกล่าว ไม่กระทบต่อความปลอดภัยทางด้านการบิน เพราะสามารถขนส่งสินค้าเพิ่มได้อีก 10,479 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ประธานกรรมการการบินไทย กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง ตนเองได้มอบให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการกำหนดขอบเขตของบุคคลวีไอพี อาทิ องคมนตรี ข้าราชการระดับสูง เพื่อกำหนดว่าจะสามารถขนสัมภาระได้มากน้อยเพียงใด แล้วกำหนดเป็นระเบียบให้ชัดเจน
“ผมขอยืนยันว่า กรณีที่มีความเข้มงวดในการดูแลจะไม่กระทบต่อลูกค้าของการบินไทยที่จะมีการจัดลำดับความสำคัญในเรื่องการบรรทุกสัมภาระแต่ละรอบการบินแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการกำหนดกรอบการขนสัมภาระของกรรมการต่างก็ต้องชัดเจนเช่นกัน”