xs
xsm
sm
md
lg

ความเฉียบขาดของ“อภิสิทธิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
"สมการการเมือง"
โดย...พาณิชย์ ภูมิพระราม

สถานการณ์ด้านการลงทุนและการเมืองในเดือนมกราคมนี้ จะเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่สำคัญ 4 เรื่องใหญ่ๆ คือ

1. นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสสี่ ปี 2552 จะอยู่ที่ระดับ 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และคาดการณ์ว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ปี 2553 จะอยู่ที่ระดับ 2.7% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการทิศทางการลงทุนทั่วโลก รวมทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่มีการประกาศไปเมื่อเร็วๆนี้ สร้างความวิตกต่อตลาดเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

2. นักวิเคราะห์โนมูระ ประเมินปัจจัยฤดูกาล พบว่าตลาดหุ้นจะให้อัตราผลตอบแทนที่สูงสุดในเดือนธ.ค. และต่อเนื่องไปถึงเดือนม.ค.ของทุกปี โดยหากพิจารณาผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย ย้อนหลัง10 ปี พบว่าเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกปีจะให้อัตราผลตอบแทนรายเดือนที่ดีที่สุดโดยเฉลี่ย 3.6 %-4 % ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากข้อมูล 25 ปีย้อนหลัง พบว่ามีโอกาส 77% ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 2.8 % ในช่วงเวลาตั้งแต่ก่อนวันคริสต์มาส ไปจนถึง 2 สัปดาห์แรกของเดือน ม.ค.

3. ทิศทางค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ มีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดในปี 2009 แต่จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2010 โดยในระยะสั้น ค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่า เนื่องจาก ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น การปรับฐานของราคาทองคำ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า จะยุติการอัดฉีดสภาพคล่องในเดือน ก.พ.นี้

4. เสถียรภาพของรัฐบาล ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะความเห็นที่แตกแยกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคชาติไทย และพรรคภูมิใจไทย การปรับคณะรัฐมนตรีก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และกลุ่มนปช.เตรียมจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ม.ค. ทั้งนี้ความเสี่ยงของเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นก่อนคำตัดสินของศาลฯ คดียึดทรัพย์ทักษิณ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้ จะเป็นหนึ่งในปัจจัยลบสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้

ทั้งนี้ กลุ่ม นปช. นัดเตรียมชุมนุมในวันที่ 11 ม.ค.นี้ ที่ เขายายเที่ยง นครราชสีมา เพื่อกดดันเรียกร้องให้มีการเร่งสืบสวนคดีครอบครองที่ดินบริเวณเขตพื้นที่ป่าสงวน ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี อย่างไรก็ดี การนัดชุมนุมใหญ่ที่จะมีรูปแบบการชุมนุมแบบยืดเยื้อทางแกนนำจะกำหนดวันชัดเจนภายในวันที่ 15 ม.ค.นี้

นั่นคือ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้น และการบริหารจัดการอำนาจของไทย

ขณะที่รัฐบาลได้เข้าแทรกแซงกลไกตลาดหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อ


คณะกรรมการขับเคลื่อนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ที่มี ประดิษฐ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ควบคุมอยู่ ประกาศเดินหน้าโครงการสินเชื่อฟาสแทรกต่อไป โดยในช่วงที่ผ่านมาสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่งปล่อยสินเชื่อรวมได้ 1.186 ล้านล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้  927,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อได้ 464,353 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อได้ 455,061 ล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยสินเชื่อได้ 130,129  ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ปล่อยสินเชื่อได้ 54,298  ล้านบาท ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ปล่อยสินเชื่อได้ 33,766  ล้านบาท ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ปล่อยสินเชื่อได้ 48,804 ล้านบาท และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อทั้งสิ้น 21,389 ล้านบาท

แต่สำหรับสินเชื่อคนจน ของผู้มาลงทะเบียนโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ปรากฏว่า สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีคนมาลงทะเบียนทั้งสิ้น 858,223 ราย รวมมูลหนี้ทั้งหมด 93,644.87 ล้านบาท

ทำให้กระทรวงการคลังประกาศขยายเวลาการลงทะเบียนออกไป โดยไม่มีกำหนด

ด้านการบริหารคนของรัฐนั้น ล่าสุด วัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมทั้งกรรมการสายการบินนกแอร์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา

เหตุเพราะแสดง “ความกร่าง” ขนกระเป๋าสัมภาระขัดระเบียบการบินไทยจากญี่ปุ่น

แต่ความชัดเจนนี้ เกิดขึ้นหลังจาก “กรณ์ จาติกวณิช” รมว.คลัง หุ้นส่วนใหญ่ของการบินไทย ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่า อัพเกรดตั๋วการบินไทยจากชั้นธุรกิจ เป็นชั้นเฟิร์สคลาส พร้อมภรรยา ขณะที่ของบุตรชายจากชั้นประหยัด เป็นชั้นธุรกิจ จำนวน 14 ครั้ง

นั่นทำให้ กรณ์ ถึงกับฟิวส์ขาด เพราะเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับการสอบสวนการขนสัมภาระจากญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน ภายใต้การบริหารของกรณ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็ได้ตัวเลขาธิการ กบข. คนใหม่


นั่นคือ น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการสายการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กบข.คนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.นี้ เป็นต้นไป เป็นระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 4 ปี 

แต่สิ่งสำคัญ คือการตัดสินใจอย่างชัดเจนครั้งแรก ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนเป็นครั้งแรกว่า ไม่สนับสนุนการดำเนินการหวยออนไลน์

“ได้ตั้งคณะทำงาน ไปพิจารณาว่ามีแนวทางใดที่จะไม่ออกหวยออนไลน์โดยไม่ละเมิดสัญญากับเอกชน เพราะไม่นิยมที่จะทำเรื่องผิดกฎหมาย ให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย และนำไปสู่อบายมุขมากยิ่งขึ้น” อภิสิทธิ์ พูดแบบไม่ต้องตีความเป็นครั้งแรก

ที่สำคัญ อภิสิทธิ์ นำผลการวิจัยมายืนยันการตัดสินใจว่า หวยบนดินแก้ปัญหาหวยใต้ดินไม่ได้ และนอกจากหวยใต้ดินไม่ลด ยังเพิ่มขึ้นด้วย

ต้องปรบมือให้กับความเด็ดขาดครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายา “หล่อหลักลอย” ที่ให้สังคมเลือกระหว่าง เงินกับปัญหาสังคม

ยิ่งกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ยังสะท้อนถึง “ความเด็ดขาด” ของอภิสิทธิ์ ที่มีดีกรีเพิ่ม

โดย ชินวรณ์ บุณยเกียรติ กลายเป็นว่าที่ รมว.ศึกษาธิการ จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฐ์ ว่าที่ รมว.สาธารณสุข วิทยา แก้วภราดัย ว่าที่ประธานวิปรัฐบาล ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และกอรป์ศักดิ์ สภาวสุ ว่าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

โดยไม่เสียงวิจารณ์นอกพรรคเหมือนการแต่งตั้งรัฐมนตรีครั้งแรก

แม้กระทั่ง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แคนดิเดตคนหนึ่งยังยอมรับ โดยไม่มีเสียงทักท้วง

โดยเฉพาะเสียงวิจารณ์ สุเทพ เทือกสุวรรณ

“ผมไม่ได้ขัดแย้งกับรองฯสุเทพ (เทือกสุบรรณ) เรื่องการตั้งครม.ผมเสนอว่าควรให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค และให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ” นั่นคือคำประกาศของ ชวน หลีกภัย แกนนำคนสำคัญที่สุดของประชาธิปัตย์ ในปัจจุบัน

ขณะที่ อนาคตตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ของ มานิต นพอมรบดี ดูจะถูกขีดเส้นใต้ไว้แล้ว แม้ว่าพรรคภูมิใจไทย มีมติให้ มานิต ดำรงตำแหน่งต่อไป

เนื่องจากภายหลังการเข้าพบ อภิสิทธิ์ ในช่วงเย็นของวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา มานิต ต้องยื่นหนังสือลาราชการ เป็นเวลา 30 วัน

สถานการณ์ความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาลในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข น่าจะไม่สำคัญเท่ากับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยเมื่อ บรรหาร ศิลปอาชา โยนระเบิดถามหาคำสัญญาจาก อภิสิทธิ์ เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงกับเอ่ยขอแก้ไข 2 มาตรา คือ มาตรา 190 และ 165

“แก้ไขมาตรา 190 เรื่องของสนธิสัญญาไม่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาสภาฯ เพราะจะทำให้ช้า และมาตรา 165 ขอให้แก้ไข เป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ขอให้แก้ให้พรรคร่วมเถอะ ตอนนี้มันเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ” คำขอร้องเชิงบังคับจากบรรหาร คนถือหางเสือพรรคชาติไทยพัฒนา

รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กำลังรอ การตัดสินใจครั้งสำคัญของอภิสิทธิ์ ชนิดที่พลาดไม่ได้ !!

บรรหาร ศิลปอาชา
กรณ์ จาติกวณิช
กำลังโหลดความคิดเห็น