สวัสดีปีใหม่ 2553 “ปีขาล : ปีเสือ” หรือปี ค.ศ. 2010 ได้เดินย่างก้าวสามขุมเข้ามาเรียบร้อยแล้ว จนแทบไม่น่าเชื่อว่า “ปีใหม่” อีกแล้ว ทั้งๆ ที่ ปี 2552 ได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว จนต้องรับสารภาพว่า “แทบไม่ทันรู้ตัว!” ว่า เราเดินข้ามสู่อีกหนึ่งปี ทั้งนี้ “แสงแดด” เชื่อว่า ท่านผู้อ่านหลายๆ ท่าน น่าจะอยู่ในขอบข่ายอารมณ์ร่วมกับการเปลี่ยนผ่านของปีที่รวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน!
ปีใหม่ 2553 นี้ เป็น “ปีขาล” ตามปฏิทินปีนักษัตร ที่เวียนมาบรรจบอีกครั้งในรอบ 12 ปี พร้อมกับมีความวิตกกังวล จนวิพากษ์วิจารณ์กันว่า “ปีขาล” คือ “ปีเสือ” ที่จะเป็น “เสือดุ!” หรือไม่อย่างไร
ยิ่งสถานการณ์ทางการเมืองได้มีการเตรียมการ เพื่อการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปลายปี 2552 ว่า จะเริ่มขับเคลื่อนกันตั้งแต่ต้นปีนี้ จนประกาศชัดเจนจะ “แดงทั้งแผ่นดิน!” และจะ “รุกหนัก-รุกไม่เลิก” ไปจนกว่า “แตกหัก”
หรือกล่าวอย่างภาษาชาวบ้าน คือ “ต้องตายกันไปข้าง!” ไม่ชนะไม่เลิก และที่สำคัญ ประกาศลั่นจาก “นายใหญ่” ว่า “ปีนี้เป็นปีของข้าฯ” หรือ “This Year is My Year”
ฟังจาก “คำราม-ข่มขู่” ดังลั่นชัดเจนเช่นนี้ คนไทยทุกคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด พร้อมทั้งหวังตั้งใจให้บ้านเมืองสงบสุขเสียที “เอือมระอา-เบื่อหน่าย” กับ “ความขัดแย้ง-ร้าวฉาน” ที่จะยัง “เล่นไม่เลิก!” ตั้งแต่ปี 2552 ตลอดทั้งปี แถมจะ “เร่งเกมรบ” หนักไปกว่าเดิมเสียอีก ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2553 กันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ก็เพียรพยายามร้องขอในฐานะ “แสงแดด” เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่เฝ้าติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องกับ “เหตุการณ์บ้านเมือง” มายาวนานประมาณ 30 ปีเห็นจะได้ ถามว่า “รู้ตื้นลึกหนาบาง” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “รู้เช่นเห็นชาติ!” ของบรรดา “พฤติกรรมนักการเมือง” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “รู้ดี!”
ว่าไปแล้ว “นักการเมืองน้ำดี” ก็มีอยู่มากเช่นเดียวกัน เพียงแต่ “นักการเมืองเขี้ยวลากดิน-พรรษานาน” มีจำนวนมากเหมือนกัน จนทำให้ “นักการเมืองดี” ต้องพลอยแปดเปื้อนไปด้วย
แม้แต่ชาวอังกฤษหรือชาวอเมริกันก็ยัง “ส่ายหน้า-บ่นอุบ” เมื่อมีการพูดถึง “นักการเมือง (Politician)” เนื่องด้วย “พฤติกรรม” และ “ภาพลักษณ์” ของนักการเมือง แทบจะทุกประเทศทั่วโลก ต่างมีผลงานและการกระทำที่เมื่อจับได้ไล่ทันจะออกมาในเชิงลบแทบทั้งนั้น!
เหตุผลสำคัญก็เพราะว่า “อำนาจ” เมื่อใดที่ใครได้ยึดครองกำไว้กับมือ จะเกิดการเหลิงอำนาจ และในที่สุด อำนาจที่มีอยู่นั้น จะถูกนำมาใช้ในทางผิดๆ โดยเฉพาะ “ผลประโยชน์” ที่มิได้ประพฤติปฏิบัติเพียงแค่เพื่อส่วนรวมเท่านั้น แต่จะมีการหาเศษหาเลยเข้าพกเข้าห่อเสวยสุขให้กับตนเอง ครอบครัว พรรคพวก เป็นเช่นนี้ทุกรายไป! จนเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่า “ฉ้อราษฎร์บังหลวง-ทุจริตคดโกง”
และเมื่อถูกจับได้ ก็ต้องถูกจับอัปเปหิ ออกจาก “อำนาจการเมือง” ตกเป็น “จำเลย-ผู้ต้องหา” ทั้งต่อสังคมและกระบวนยุติธรรม
เราต้องยอมรับว่า “ปัญหาชาติบ้านเมืองไทย” ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 77 ปี นั้น “รัฐประหาร-ยึดอำนาจ” ส่วนใหญ่แล้วเกิดจาก “การทุจริตคดโกง” ของ “นักการเมือง” แทบทุกครั้ง ทั้งนี้ ก็เกิดจาก “การแก่งแย่งอำนาจ” ของ “บรรดาเหล่าทหาร” ในกองทัพกันเองเหมือนกัน โดยเฉพาะ “กองทัพบก”
ที่กล่าวไปนั้น เพื่อความเป็นจริงและเป็นธรรมแก่นักการเมือง ที่บ่อยครั้งถูกจับเป็น “แพะรับบาป!” เพียงแต่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ “เกมการเมือง” ใน “กองทัพ” มีน้อยลงกว่าในอดีต เนื่องด้วย “อำนาจการเมือง” ของ “พรรคการเมือง-นักการเมือง” จะมีมากกว่าเก่าเยอะ แต่ถ้าเมื่อใด “ก้าวล่วง-ล้ำเส้น” จนเกินขอบเขต บวกกับ “การฉ้อราษฎร์บังหลวง” อย่างน่าเกลียด “ข้ออ้าง” ใน “การยึดอำนาจ” จะเกิดขึ้นทันที
พูดง่ายๆ ก็หมายความว่า “เปิดช่อง-การ์ดต่ำ” ให้ได้มีการกระทำที่ขัดต่อ “ระบอบประชาธิปไตย” ที่นักการเมืองมักกล่าวอ้างเสมอ ซึ่งจริงๆ แล้ว “การรู้เช่นเห็นชาติ-รู้ตื้นลึกหนาบาง” ของคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะ “แสงแดด” เองนั้น ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า บ้านเมืองเราตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา “ประชาธิปไตยปลอม (Pseudo Democracy)” ทั้งเพ!
“ธนาธิปไตย-วาณิชยาธิปไตย” ที่เน้น “เงิน-นายทุน” เป็นหลักที่เป็น “ธุรกิจการเมือง (Political Business)” จนบรรดา “นักธุรกิจ-นานทุนการเมือง” ต่างทุ่มเทเดินเข้าสู่ “สนามการเมือง” เพื่อ “ชื่อเสียงเกียรติยศ” และ “ปรารถนารับใช้ชาติบ้านเมือง” เพียงแต่ “วาระซ่อนเร้น” คือ “ผลกำไร” ที่ “โกง” จาก “โครงการต่างๆ” ที่เป็น “งบประมาณ-ภาษีประชาชน” ทั้งสิ้น
ช่วงตั้งแต่ปี 2544-2548 เป็นปีที่ “เหลิงอำนาจ” และ “ฮุบโกง” กันแบบสุดๆ จน “รุกล้ำ-ก้าวล่วง-ล้ำเส้น-รังแก-เบียดเบียน” จนพรรคการเมืองและภาคเอกชนอื่นๆ ที่มิใช่พวก “จนมุม” และ/หรือ “ไม่มีถนนให้เดิน!” ซึ่งนั่นคือ “ความจริง” และ “กฎแห่งกรรม” ของการถูกอัปเปหิอยู่ต่างแดน ไร้แผ่นดินอยู่ตาม “คำทำนาย” ที่เน้นกันมามากจากบรรดาโหราจารย์ทั้งหลาย!
เมื่อกล่าวคำ “คำทำนาย” ของบรรดาสารพัด “โหราจารย์” หรือมักเรียกกันว่า “หมอดู” นั้น ก็ต้องยอมรับว่า “ตกใจ-น่ากลัว” ว่า ปี 2553 จะเป็นปีสุดหฤโหด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปีขาล : ปีเสือ-ปีพยัคฆ์” ที่ต่างทำนายทายทักกันเกือบทุกคนว่า “เสือดุ!”
เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป เราคงต้องเฝ้าจับตาดูว่า “คำทำนาย” ประกอบกับข้อมูลที่ “แสงแดด” สดับตรับฟังมานั้น และประมวลประเมินนั้นก็ทั้งบวกและลบ
กล่าวคือ ปัญหาเริ่มก่อตัวโหมโรงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จะถูก “เร่งรุกโหม” ให้ตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ น่าจะเร่งเร้าเพื่อให้เกิด “การเปลี่ยนแปลง” และถ้าสามารถปฏิบัติการได้ ก็ปรารถนาให้เกิด “การแตกหัก!”
หมอดูบางรายถึงกับฟันธงว่าจะเกิด “เหตุการณ์รุนแรง!” จนนองเลือดและจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เลยไปจนถึง “ระบบ-ระบอบการปกครอง” กันเลยทีเดียว ประชาชนอย่างเราๆ ฟังดูแล้วก็ต้องสารภาพตามตรงว่า “สยอง!”
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลากหลายโหราจารย์ชื่อดัง ที่คาดการณ์สถานการณ์ว่าจะดุเดือดไปในทิศทางลบมากกว่าบวก แต่ต่างฝ่ายต่างกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์น่าจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ที่สุด
เหตุผลที่สำคัญที่ทำให้ต่างเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การเจรจาต่อรอง” ระหว่าง “คนลี้ภัยต่างแดน” กับ “กลุ่มอำนาจ” ในเมืองไทย ที่จะจบลงเอยอย่างไร โดยเฉพาะในกรณีด่านแรก “ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท”
ถ้ากรณีนี้จบ จะก้าวสู่การเจรจาต่อรองขั้นที่สอง กล่าวคือ “พระราชทานอภัยโทษ” ที่ปรารถนาที่สุด สำหรับกลับบ้านเกิด โดยต้องมีการสัญญาว่าจะล้างมือทางการเมือง แต่กรณีขั้นที่สองนี้ น่าจะเป็นการยากที่จะเกิดขึ้น!
เพราะฉะนั้น “ความเคลื่อนไหว” เพื่อ “การล้างแค้น” ก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่หนักหนาสาหัสมากนัก ถ้ากรณียึดทรัพย์เจรจาตกลงกันได้ว่าน่าจะโดนยึดเพียง 3 หมื่นกว่าล้านบาท
“ปัญหาความสมานฉันท์” ในบ้านเรานั้น ยังคงเป็น “ปัญหาโลกแตก” สำหรับรัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะต่อ “ประเทศไทย-ประชาชนคนไทย” ที่ต้องเอือมระอาเบื่อหน่าย แต่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ศรัทธา และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก
สถานการณ์บ้านเมืองน่าจะสั่นคลอนไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนพฤษภาคม ที่ “สภาผู้แทนปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไป” ยุติลง ประกอบกับการปรับสลับโยกย้ายบรรดาข้าราชการ ตำรวจ ทหารให้อยู่ในแถวเดียวกัน ซึ่งรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง จำต้องประคับประคอง “รัฐนาวา” ให้พ้นพายุมรสุมการเมืองให้ได้!
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะต้อง “การบริหาร” มากกว่า “การเมือง” โดยเฉพาะกรณี “เศรษฐกิจ” ที่ประชาชนคาดหวังไว้มาก ไม่ให้คะแนนแบบสอบผ่านฉิวเฉียดเหมือนปี 2552 แบบให้โอกาส
ชาติบ้านเมืองปี 2553 นี้ “แสงแดด” ค่อนข้างวิตกกังวลเท่านั้น ไม่ถึงกับ “เกรงกลัว” ว่าจะเป็นปี “เสือดุ” ถึงกับ “ขย้ำประเทศไทย” น่าจะเป็น “เสือคำราม” ที่ส่งเสียงดัง “ข่มขู่!” ให้ดูดุเข้าไว้
ทั้งนี้ เราคนไทยทุกคนต้องตระหนักและคำนึงถึงประเทศชาติ และไม่สำคัญเท่ากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านเน้นย้ำตลอดถึง “ความปกติสุข” เราคนไทยทุกคนต้อง “ตอบแทนในหลวง” และ “ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน!”
ปีใหม่ 2553 นี้ เป็น “ปีขาล” ตามปฏิทินปีนักษัตร ที่เวียนมาบรรจบอีกครั้งในรอบ 12 ปี พร้อมกับมีความวิตกกังวล จนวิพากษ์วิจารณ์กันว่า “ปีขาล” คือ “ปีเสือ” ที่จะเป็น “เสือดุ!” หรือไม่อย่างไร
ยิ่งสถานการณ์ทางการเมืองได้มีการเตรียมการ เพื่อการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปลายปี 2552 ว่า จะเริ่มขับเคลื่อนกันตั้งแต่ต้นปีนี้ จนประกาศชัดเจนจะ “แดงทั้งแผ่นดิน!” และจะ “รุกหนัก-รุกไม่เลิก” ไปจนกว่า “แตกหัก”
หรือกล่าวอย่างภาษาชาวบ้าน คือ “ต้องตายกันไปข้าง!” ไม่ชนะไม่เลิก และที่สำคัญ ประกาศลั่นจาก “นายใหญ่” ว่า “ปีนี้เป็นปีของข้าฯ” หรือ “This Year is My Year”
ฟังจาก “คำราม-ข่มขู่” ดังลั่นชัดเจนเช่นนี้ คนไทยทุกคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด พร้อมทั้งหวังตั้งใจให้บ้านเมืองสงบสุขเสียที “เอือมระอา-เบื่อหน่าย” กับ “ความขัดแย้ง-ร้าวฉาน” ที่จะยัง “เล่นไม่เลิก!” ตั้งแต่ปี 2552 ตลอดทั้งปี แถมจะ “เร่งเกมรบ” หนักไปกว่าเดิมเสียอีก ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2553 กันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ก็เพียรพยายามร้องขอในฐานะ “แสงแดด” เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่เฝ้าติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องกับ “เหตุการณ์บ้านเมือง” มายาวนานประมาณ 30 ปีเห็นจะได้ ถามว่า “รู้ตื้นลึกหนาบาง” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “รู้เช่นเห็นชาติ!” ของบรรดา “พฤติกรรมนักการเมือง” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “รู้ดี!”
ว่าไปแล้ว “นักการเมืองน้ำดี” ก็มีอยู่มากเช่นเดียวกัน เพียงแต่ “นักการเมืองเขี้ยวลากดิน-พรรษานาน” มีจำนวนมากเหมือนกัน จนทำให้ “นักการเมืองดี” ต้องพลอยแปดเปื้อนไปด้วย
แม้แต่ชาวอังกฤษหรือชาวอเมริกันก็ยัง “ส่ายหน้า-บ่นอุบ” เมื่อมีการพูดถึง “นักการเมือง (Politician)” เนื่องด้วย “พฤติกรรม” และ “ภาพลักษณ์” ของนักการเมือง แทบจะทุกประเทศทั่วโลก ต่างมีผลงานและการกระทำที่เมื่อจับได้ไล่ทันจะออกมาในเชิงลบแทบทั้งนั้น!
เหตุผลสำคัญก็เพราะว่า “อำนาจ” เมื่อใดที่ใครได้ยึดครองกำไว้กับมือ จะเกิดการเหลิงอำนาจ และในที่สุด อำนาจที่มีอยู่นั้น จะถูกนำมาใช้ในทางผิดๆ โดยเฉพาะ “ผลประโยชน์” ที่มิได้ประพฤติปฏิบัติเพียงแค่เพื่อส่วนรวมเท่านั้น แต่จะมีการหาเศษหาเลยเข้าพกเข้าห่อเสวยสุขให้กับตนเอง ครอบครัว พรรคพวก เป็นเช่นนี้ทุกรายไป! จนเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่า “ฉ้อราษฎร์บังหลวง-ทุจริตคดโกง”
และเมื่อถูกจับได้ ก็ต้องถูกจับอัปเปหิ ออกจาก “อำนาจการเมือง” ตกเป็น “จำเลย-ผู้ต้องหา” ทั้งต่อสังคมและกระบวนยุติธรรม
เราต้องยอมรับว่า “ปัญหาชาติบ้านเมืองไทย” ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 77 ปี นั้น “รัฐประหาร-ยึดอำนาจ” ส่วนใหญ่แล้วเกิดจาก “การทุจริตคดโกง” ของ “นักการเมือง” แทบทุกครั้ง ทั้งนี้ ก็เกิดจาก “การแก่งแย่งอำนาจ” ของ “บรรดาเหล่าทหาร” ในกองทัพกันเองเหมือนกัน โดยเฉพาะ “กองทัพบก”
ที่กล่าวไปนั้น เพื่อความเป็นจริงและเป็นธรรมแก่นักการเมือง ที่บ่อยครั้งถูกจับเป็น “แพะรับบาป!” เพียงแต่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ “เกมการเมือง” ใน “กองทัพ” มีน้อยลงกว่าในอดีต เนื่องด้วย “อำนาจการเมือง” ของ “พรรคการเมือง-นักการเมือง” จะมีมากกว่าเก่าเยอะ แต่ถ้าเมื่อใด “ก้าวล่วง-ล้ำเส้น” จนเกินขอบเขต บวกกับ “การฉ้อราษฎร์บังหลวง” อย่างน่าเกลียด “ข้ออ้าง” ใน “การยึดอำนาจ” จะเกิดขึ้นทันที
พูดง่ายๆ ก็หมายความว่า “เปิดช่อง-การ์ดต่ำ” ให้ได้มีการกระทำที่ขัดต่อ “ระบอบประชาธิปไตย” ที่นักการเมืองมักกล่าวอ้างเสมอ ซึ่งจริงๆ แล้ว “การรู้เช่นเห็นชาติ-รู้ตื้นลึกหนาบาง” ของคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะ “แสงแดด” เองนั้น ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า บ้านเมืองเราตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา “ประชาธิปไตยปลอม (Pseudo Democracy)” ทั้งเพ!
“ธนาธิปไตย-วาณิชยาธิปไตย” ที่เน้น “เงิน-นายทุน” เป็นหลักที่เป็น “ธุรกิจการเมือง (Political Business)” จนบรรดา “นักธุรกิจ-นานทุนการเมือง” ต่างทุ่มเทเดินเข้าสู่ “สนามการเมือง” เพื่อ “ชื่อเสียงเกียรติยศ” และ “ปรารถนารับใช้ชาติบ้านเมือง” เพียงแต่ “วาระซ่อนเร้น” คือ “ผลกำไร” ที่ “โกง” จาก “โครงการต่างๆ” ที่เป็น “งบประมาณ-ภาษีประชาชน” ทั้งสิ้น
ช่วงตั้งแต่ปี 2544-2548 เป็นปีที่ “เหลิงอำนาจ” และ “ฮุบโกง” กันแบบสุดๆ จน “รุกล้ำ-ก้าวล่วง-ล้ำเส้น-รังแก-เบียดเบียน” จนพรรคการเมืองและภาคเอกชนอื่นๆ ที่มิใช่พวก “จนมุม” และ/หรือ “ไม่มีถนนให้เดิน!” ซึ่งนั่นคือ “ความจริง” และ “กฎแห่งกรรม” ของการถูกอัปเปหิอยู่ต่างแดน ไร้แผ่นดินอยู่ตาม “คำทำนาย” ที่เน้นกันมามากจากบรรดาโหราจารย์ทั้งหลาย!
เมื่อกล่าวคำ “คำทำนาย” ของบรรดาสารพัด “โหราจารย์” หรือมักเรียกกันว่า “หมอดู” นั้น ก็ต้องยอมรับว่า “ตกใจ-น่ากลัว” ว่า ปี 2553 จะเป็นปีสุดหฤโหด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปีขาล : ปีเสือ-ปีพยัคฆ์” ที่ต่างทำนายทายทักกันเกือบทุกคนว่า “เสือดุ!”
เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป เราคงต้องเฝ้าจับตาดูว่า “คำทำนาย” ประกอบกับข้อมูลที่ “แสงแดด” สดับตรับฟังมานั้น และประมวลประเมินนั้นก็ทั้งบวกและลบ
กล่าวคือ ปัญหาเริ่มก่อตัวโหมโรงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จะถูก “เร่งรุกโหม” ให้ตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ น่าจะเร่งเร้าเพื่อให้เกิด “การเปลี่ยนแปลง” และถ้าสามารถปฏิบัติการได้ ก็ปรารถนาให้เกิด “การแตกหัก!”
หมอดูบางรายถึงกับฟันธงว่าจะเกิด “เหตุการณ์รุนแรง!” จนนองเลือดและจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เลยไปจนถึง “ระบบ-ระบอบการปกครอง” กันเลยทีเดียว ประชาชนอย่างเราๆ ฟังดูแล้วก็ต้องสารภาพตามตรงว่า “สยอง!”
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลากหลายโหราจารย์ชื่อดัง ที่คาดการณ์สถานการณ์ว่าจะดุเดือดไปในทิศทางลบมากกว่าบวก แต่ต่างฝ่ายต่างกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์น่าจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ที่สุด
เหตุผลที่สำคัญที่ทำให้ต่างเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การเจรจาต่อรอง” ระหว่าง “คนลี้ภัยต่างแดน” กับ “กลุ่มอำนาจ” ในเมืองไทย ที่จะจบลงเอยอย่างไร โดยเฉพาะในกรณีด่านแรก “ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท”
ถ้ากรณีนี้จบ จะก้าวสู่การเจรจาต่อรองขั้นที่สอง กล่าวคือ “พระราชทานอภัยโทษ” ที่ปรารถนาที่สุด สำหรับกลับบ้านเกิด โดยต้องมีการสัญญาว่าจะล้างมือทางการเมือง แต่กรณีขั้นที่สองนี้ น่าจะเป็นการยากที่จะเกิดขึ้น!
เพราะฉะนั้น “ความเคลื่อนไหว” เพื่อ “การล้างแค้น” ก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่หนักหนาสาหัสมากนัก ถ้ากรณียึดทรัพย์เจรจาตกลงกันได้ว่าน่าจะโดนยึดเพียง 3 หมื่นกว่าล้านบาท
“ปัญหาความสมานฉันท์” ในบ้านเรานั้น ยังคงเป็น “ปัญหาโลกแตก” สำหรับรัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะต่อ “ประเทศไทย-ประชาชนคนไทย” ที่ต้องเอือมระอาเบื่อหน่าย แต่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ศรัทธา และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก
สถานการณ์บ้านเมืองน่าจะสั่นคลอนไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนพฤษภาคม ที่ “สภาผู้แทนปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไป” ยุติลง ประกอบกับการปรับสลับโยกย้ายบรรดาข้าราชการ ตำรวจ ทหารให้อยู่ในแถวเดียวกัน ซึ่งรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง จำต้องประคับประคอง “รัฐนาวา” ให้พ้นพายุมรสุมการเมืองให้ได้!
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะต้อง “การบริหาร” มากกว่า “การเมือง” โดยเฉพาะกรณี “เศรษฐกิจ” ที่ประชาชนคาดหวังไว้มาก ไม่ให้คะแนนแบบสอบผ่านฉิวเฉียดเหมือนปี 2552 แบบให้โอกาส
ชาติบ้านเมืองปี 2553 นี้ “แสงแดด” ค่อนข้างวิตกกังวลเท่านั้น ไม่ถึงกับ “เกรงกลัว” ว่าจะเป็นปี “เสือดุ” ถึงกับ “ขย้ำประเทศไทย” น่าจะเป็น “เสือคำราม” ที่ส่งเสียงดัง “ข่มขู่!” ให้ดูดุเข้าไว้
ทั้งนี้ เราคนไทยทุกคนต้องตระหนักและคำนึงถึงประเทศชาติ และไม่สำคัญเท่ากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านเน้นย้ำตลอดถึง “ความปกติสุข” เราคนไทยทุกคนต้อง “ตอบแทนในหลวง” และ “ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน!”
