xs
xsm
sm
md
lg

หัวข้อศึกษาท้ายปี

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

ตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงการต่อสู้ 193 วัน ชาวพันธมิตรฯ ได้สร้างประวัติศาสตร์ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างเอกอุ เกิดกระบวนการขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวขึ้นสู่เส้นทางการเมืองใหม่อย่างมีนัยสำคัญ เพราะการเมืองใหม่เป็นสิ่งที่คนไทยต้องการ สามารถทำให้ทุกคน “ได้” ยกเว้นพวกขี้โกง ขี้ฉ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงการเมือง และข้าราชการประจำ ถึงเวลาที่จะต้องละเลิกกับความอิ่มหมีพีมันจากการทุจริตคิดมิชอบ กอบโกยโกงกิน

การเมืองใหม่ที่ชาวพันธมิตรฯ กำลังช่วยกันสร้าง สามารถสะท้อนออกมาทางความคิด และเมื่อมีการจัดระเบียบ วิเคราะห์แยกแยะ และสังเคราะห์อย่างถูกหลัก ก็สามารถประมวลออกมาเป็นความคิดทฤษฎี สามารถนำไปอธิบายซ้ำจนเกิดความกระจ่างแจ้ง เป็นที่ยึดมั่นของมวลมหาชน สามารถนำไปประสานกับการเคลื่อนไหวปฏิบัติในด้านต่างๆ นำไปสู่ความสำเร็จ ประสบชัยชนะได้ในทุกขั้นตอน

ในมุมมองของผู้ทำงานด้านความคิดทฤษฎี ผู้เขียนเห็นว่า ความคิดทฤษฎีการเมืองใหม่ ที่ตั้งอยู่บนฐานการเคลื่อนไหวต่อสู้ของมวลมหาชน ในรูปขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของ “สองด้านของเหรียญ” การเมืองใหม่ ความคิดทฤษฎีที่ตั้งอยู่บนฐานการเคลื่อนไหวของมวลมหาชนดังกล่าว ย่อมช่วยเสริมสร้างปัญญาตื่นรู้ให้แก่ขบวนการอย่างไม่ต้องสงสัย กำหนดให้การเคลื่อนไหวดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง “เดินถูกทาง”ในทุกขั้นตอน

ก่อนสิ้นปี พรรคการเมืองใหม่ เครื่องมือสำคัญทางยุทธศาสตร์ของขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดให้มีการอบรมผู้ปฏิบัติงานระดับแกนนำของพรรคทั่วประเทศ

หน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ “สถาบันการเมืองใหม่” สังกัดอยู่ในคณะกรรมการเสริมสร้างความเป็นประชาธิปไตยในพรรค หนึ่งในสามคณะกรรมการที่พรรคการเมืองทุกพรรคจะต้องตั้งขึ้น ตามข้อบังคับของกฎหมายพรรคการเมือง ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ผู้เขียนได้รับเกียรติทำหน้าที่บรรยายเรื่องทฤษฎีการเมืองใหม่ จึงถือโอกาสประมวลหลักทฤษฎีการเมืองใหม่ ที่มีลักษณะแก่นแกนจริงๆ ไว้ ณ ที่นี่ เพื่อใช้ในการบรรยาย ดังต่อไปนี้

1. การเมืองใหม่ เป็นการเมืองของประชาชน นำโดยขบวนการการเมืองภาคประชาชน

2. การเมืองใหม่เกิดขึ้นได้ ด้วยการสร้างอำนาจประชาชน ซึ่งเป็นอำนาจกำหนดใหม่ ต่อสู้เอาชนะอำนาจกำหนดเก่า สถาปนาอำนาจกำหนดใหม่ขึ้นแทนที่อำนาจกำหนดเก่า

3. อำนาจกำหนดใหม่ ตั้งอยู่บนฐานปัญญา เกิดขึ้นจากการจุดเทียนปัญญา และการตื่นรู้ด้วยตนเอง 4. อำนาจกำหนดใหม่ เกิดขึ้นจากการรวมตัวของผู้รู้ผู้ตื่น ทั้งด้วยการจุดเทียนปัญญาจากภายนอก และจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง

5. อำนาจกำหนดใหม่ เป็นพลังรวมร่วมกันของคนทั้งสังคม โดยไม่มีการแบ่งแยกทางชนชั้น ทางเชื้อชาติ ศาสนา ลัทธิความเชื่อ สาขาอาชีพ และเพศวัยใดๆ ทั้งสิ้น

6. อำนาจกำหนดใหม่ ประกอบไปด้วยอำนาจปัญญา อำนาจจัดตั้ง อำนาจมวลมหาชน

7. อำนาจกำหนดใหม่ พัฒนาเติบใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน ด้วย “ปัจจัยพื้นฐาน” สามประการคือ หนึ่ง ความคิดทฤษฎีที่ถูกต้อง สอง แกนนำทุกระดับที่มีอุดมการณ์ และสาม มวลมหาชนที่หูตาสว่าง


อนึ่ง เพื่อให้การอบรมดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อย จำเป็นที่ผู้รับการอบรมจะต้องทำความเข้าใจในความหมายหรือ “จินตภาพ” สำคัญๆ ในทฤษฎีการเมืองใหม่ ดังนี้

1. การเมืองใหม่/แก่นแท้การเมืองใหม่

2. อำนาจกำหนดใหม่

3. ระบบประชาธิปไตยมวลมหาชน (ประชาธิปไตยกงล้อ)

4. เศรษฐกิจมวลมหาชน (เศรษฐกิจกงล้อ)


ท่านผู้อ่านที่สนใจ สามารถติดตามผลการอบรมในเว็บไซต์พรรคการเมืองใหม่ (www.newpoliticsparty.net) และหาอ่านทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ในบทความที่ผู้เขียนได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 จนถึงปัจจุบัน ในเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ (www.manager.co.th)

หากท่านสนใจอยากได้หนังสือรวมบทความทฤษฎีการเมืองใหม่ของผู้เขียน ก็ขอให้แจ้งเจตจำนงไปยังสถาบันการเมืองใหม่ ณ ที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ฝ่ายบริหารดำเนินการพิจารณาจัดพิมพ์จำหน่ายจ่ายแจกสู่สาธารณชนต่อไป

ก่อนโบกมือลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ผู้เขียนขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านสุขสบายดี ทั้งกายและใจ

                                         ด้วยจิตคารวะ

                                       สันติ ตั้งรพีพากร
กำลังโหลดความคิดเห็น