“นช.ทักษิณ” โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ฟันธงล่วงหน้า ปชป.ไม่ถูกยุบพรรคชัวร์ ทำสู่รู้มีคนบอกห้ามยุบ ปชป. แขวะไม่เหมือนพรรคอื่นยุบอย่างรวดเร็ว แถมเหน็บโฆษก ปชป.เละเทอะกล่าวหามีส่วนร่วมปฎิวัติเขมร เฉไฉด่า รบ.ไม่สำนึกโยนความผิดให้ผู้นำเอกสารมาแฉ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่้างหลบหนีคดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอทคอมว่า “ทราบว่าโฆษกปชป.กล่าวหาผมมีส่วนปฏิวัติเขมร ฟังแล้วแทบไม่เชื่อคนที่เป็นหมอ ชาติตระกูลก็ดูดี ผมรู้จักครอบครัวทางเมียอย่างดี จะเละเทอะได้ขนาดนี้ เรื่องหนังสือ กต.ที่กษิตทำถึงอภิสิทธิ์แทนที่รัฐบาลจะสำนึกว่าผิดพลาดไปแล้วทั้งพฤติกรรมและวิธีคิดแต่กลับโยนความผิดเป็นของผู้เปิดเผย สุดยอด ปชป.”
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นพ.บุรณัชย์ สมุทธรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปีตย์ ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่กล่าวหาว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์วางแผนทำรัฐประหารรัฐบาลนายฮุนเซนโดยอ้างจากเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ นำออกมาเผยแพร่ โดย นพ.บุรณัชย์ ตอบโต้ว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยมีความคิดจะทำปฏิวัติในกัมพูชา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่างหา่กที่เกี่ยวข้องกับความพยายามปฏิวัติในกัมพูชาถึง 2 ครั้ง
ส่วนกรณีเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศ เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่ง นายจตุพร และ พ.ต.ท.ทักษิณนำไปบิดเบือนว่า นั่นคือแผนสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างจากข้อความที่ว่า “ต้องขจัดภัยคุกคาม"ต่อความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นภัยคุกคามของรัฐบาลชุดนี้”
อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่เอกสารดังกล่าว ถือว่าผู้เผยแพร่มีความผิด เนื่องจากเป็นเอกสารลับ ที่มีการวางแนวทางการปฏิบัติของรัฐบาล เพื่อรับมือกรณีหากความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเลวร้ายลงในระดับต่างๆ
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังตอบคำถามแฟนคลับรายหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นเรื่องการยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า “ฟันธงล่วงหน้าว่าไม่ถูกยุบ มีคนบอกมาแล้วว่าห้ามยุบ ดูอาการโรคเลื่อนเรื้อรังก็เดาได้แล้วล่ะครับ ไม่เหมือนกรณีพรรคอื่นยุบอย่างรวดเร็ว”
อย่างไรก็ตาม กรณีเงินจำนวน 258 ล้านบาทที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่า บริษัททีพีไอบริจาคให้พรรคประชาธฺปัตย์โดยมิชอบตามกฎหมาย และเสนอ กกต.ให้พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น ทาง กกต.ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า เงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปใช้ในกิจการของพรรคประชาธิปัตย์จริงหรือไม่ จึงทำให้ต้องมีการเลื่อนพิจารณาออกไป
ส่วนการยุบพรรคพลังประชาชนเพื่อปี 2551 นั้น เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคคือนายยงยุทธ ติยะไพรัช ทุจริตเลือกตั้งโดยการซื้อเสียงที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน กกต.จึงต้องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพัลงประชาชน ตามกฎหมายพรรคการเมือง