เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยที่เพิ่งถูกสมาคมกีฬายิงปืนตัดชื่อออกจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม ได้เดินทางมายังสนามยิงปืนในสนามกีฬาแห่งชาติ กม.16 เพื่อแถลงข่าวถึงปัญหาระหว่างตนเองกับสมาคมฯ จนถูกส่งตัวกลับเมืองไทยภายใน 24 ชั่วโมง
โดยเจ้าเอ็กซ์ กล่าวถึงการกระทำของผุ้จัดการทีมยิงปืน พ.ต.อ. บูรพา ฤกษ์สังเกตุว่าเป็นการตัดความรวบรัดเกินไป และกล่าวถึงเหตุการณ์อันเป็นชนวนเหตุว่า “คำให้สัมภาษณ์ที่เขามองว่าผมก้าวร้าวนั้นผมพูดไปว่าผมไม่ใช่สุนัขรับใช้ของสมาคม ไม่ได้หมายความถึงคนอื่นและการโต้เถียงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะผู้ใหญ่ของสมาคมฯคาดโทษนักกีฬาทั้งที่ไม่ได้ทำผิด แถมใช้คำรุนแรงว่าจะตัดจากทีมบ้าง ถอนชื่อจากทีมบ้าง หรือถอนชื่อจากสมาคม จะส่งเรื่องไปยังสหพันธ์ยิงปืนโลก เป็นการข่มขู่กันชัดๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามจักรกฤษณ์ ว่าถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้จะยังเล่นให้กับทีมชาติต่อไปหรือไม่ เจ้าเอ็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า "ผมยังยืนยันว่าจะยิงปืนต่อไป ถ้าไม่ยิงถือว่าผมทรยศชาติ ผมไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ถึงขั้นต้องถูกลงโทษให้ส่งตัวกลับบ้านแต่ในวันนี้ผมแพ้ให้แก่ความอยุติธรรม ตอนนี้ไม่รู้จะตั้งหลักอย่างไรดี รู้สึกผิดหวังมากที่คนไทยมาทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง ไม่มองประโยชน์ของชาติมาก่อน เอาอารมณ์ของตนมาตัดสินเท่านั้น"
จากนั้น จักรกฤษณ์ ชูตั๋วเครื่องบินและพาสปอร์ตให้บรรดานักข่าวได้ดู พร้อมเผย "นี่คือสิ่งที่นักยิงปืนระดับโอลิมปิกได้รับ เป็นการสั่งเปลี่ยนเครื่องบินให้ผมกลับไทยเร็วที่สุด พร้อมคืนพาสปอร์ตแต่ผมไม่กลับและต้องขอขอบพระคุณ คุณธนา ไชยประสิทธิ์ (หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย) ที่ได้ประสานมาและแจ้งว่ายังไม่มีการเปลี่ยนตั๋ว ดังนั้นผมจะอยู่เชียร์เพื่อนต่อไป และผมได้ขอร้องให้พี่โอ (โอภาส) อย่าถอนตัวจากการแข่งขัน ต้องอยู่สู้ต่อไป เพื่อคนไทย แม้จะกดดันและขมขื่นก็ต้องยอม"
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ จักรกฤษณ์ ซึ่งเตรียมตัวกลับที่พักในตัวเมืองเวียงจันทร์ต้องพบกับเรื่องไม่คาดฝันเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว 2 นายตามมาประกบพร้อมคุมตัวเจ้าเอ็กซ์ ไปยังห้องของเจ้าหน้าที่เพื่อรอการสอบสวนและไม่อนุญาตให้นักข่าวตามสัมภาษณ์โดย ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลาวเผยว่า นายสนามยิงปืนได้รับจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรของผู้จัดการทีมยิงปืนไทยว่าถ้าเกิด "เอ็กซ์" เข้ามาก่อกวนก็ให้ดำเนินการได้ตามสมควร ซึ่งการที่ จักรกฤษณ์ มาแถลงข่าวโดยไม่แจ้งให้เราทราบนั้น ถือเป็นการกระทำความผิด
จากนั้นเวลาประมาณ 12.20 น. นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทยเดินทางมาถึงยังสนามยิงปืนในกม.16 ก่อนจะตรงเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาว และออกมาให้ข้อมูลกับสื่อไทยว่า "เหตุผลที่ทางการลาวคุมตัว เอ็กซ์ ไปสอบสวนก็เพราะเขาตั้งโต๊ะแถลงข่าวโดยไม่ขออนุญาต และทางฝ่ายจัดการแข่งขันมองว่าเป็นการกระทำที่อาจเกิดปัญหาได้ในภายหลัง จึงส่งเจ้าหน้าที่มาคุมตัวนักกีฬาไทย และ ซักถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในเวลานี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วและได้ประสานงานกับทางกระทรวงการต่างประเทศลาว เพื่อของความร่วมมือจากสถานทูตไทยในลาว ส่งตัว จักรกฤษณ์ กลับเมืองไทยด้วยเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายของวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมในเวลาประมาณ 21.50 น.”
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดซ้ำรอยขึ้นมาอีกนั้น นายธนา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางสมาคมยิงปืนฯ นักกีฬา รวมไปถึง คณะกรรมการโอลิมปิกสากลแห่งประเทศไทยจะต้องปรึกษาหารือกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในภายหลัง”
จากนั้นในเวลาประมาณ 15.40 น. นายธนา ไชยประสิทธิ์ ได้พา เจ้าเอ็กซ์ ออกจากห้องสอบสวนและเดินทางไปยังบ้านเพื่อนของ เจ้าเอ็กซ์ในเมืองเวียงจันทร์ โดยระหว่างที่รอเวลาขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยนั้น จักรกฤษณ์ ที่มีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นได้เปิดเผยถึงนาทีระทึกว่า "ผมนึกว่าจะไม่รอดแล้ว ก็ยอมรับตามตรงว่ารู้สึกกลัวมากๆ วินาทีนั้นตำรวจ 4-5 นายเข้ามาประกบทุกคนมีอาวุธครบมือซึ่งสาเหตุที่โดนควบคุมตัวนั้นเป็นเพราะผมแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยไม่ได้ขออนุญาตทางการลาว แต่หลังจากการพูดคุย พร้อมกับ การชี้แจงของคุณธนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาวก็แจ้งให้ทราบว่าไม่มีความผิดและปล่อยตัวออกมา
นักแม่นปืนชื่อดังยังกล่าวทิ้งท้ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ผมบอกได้เลยว่าจะกลับมาแข่งขันยิงปืนอีกแน่นอน และการกดขี่ข่มเหงจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก วันนี้ทำสำเร็จแล้วที่ช่วยเรียกร้องให้นักยิงปืนไทยมีสวัสดิการที่ดีขึ้น แต่ตอนนี้คงต้องขอพักก่อน คงไม่ได้อยู่เชียร์เพื่อนๆ เพราะผมถูกกล่าวหาจนวินาทีสุดท้าย ถึงขนาดนำเอากฎหมายบ้านเมืองของประเทศลาวมาเพื่อใช้เล่นงานผม".
โดยเจ้าเอ็กซ์ กล่าวถึงการกระทำของผุ้จัดการทีมยิงปืน พ.ต.อ. บูรพา ฤกษ์สังเกตุว่าเป็นการตัดความรวบรัดเกินไป และกล่าวถึงเหตุการณ์อันเป็นชนวนเหตุว่า “คำให้สัมภาษณ์ที่เขามองว่าผมก้าวร้าวนั้นผมพูดไปว่าผมไม่ใช่สุนัขรับใช้ของสมาคม ไม่ได้หมายความถึงคนอื่นและการโต้เถียงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะผู้ใหญ่ของสมาคมฯคาดโทษนักกีฬาทั้งที่ไม่ได้ทำผิด แถมใช้คำรุนแรงว่าจะตัดจากทีมบ้าง ถอนชื่อจากทีมบ้าง หรือถอนชื่อจากสมาคม จะส่งเรื่องไปยังสหพันธ์ยิงปืนโลก เป็นการข่มขู่กันชัดๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามจักรกฤษณ์ ว่าถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้จะยังเล่นให้กับทีมชาติต่อไปหรือไม่ เจ้าเอ็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า "ผมยังยืนยันว่าจะยิงปืนต่อไป ถ้าไม่ยิงถือว่าผมทรยศชาติ ผมไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ถึงขั้นต้องถูกลงโทษให้ส่งตัวกลับบ้านแต่ในวันนี้ผมแพ้ให้แก่ความอยุติธรรม ตอนนี้ไม่รู้จะตั้งหลักอย่างไรดี รู้สึกผิดหวังมากที่คนไทยมาทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง ไม่มองประโยชน์ของชาติมาก่อน เอาอารมณ์ของตนมาตัดสินเท่านั้น"
จากนั้น จักรกฤษณ์ ชูตั๋วเครื่องบินและพาสปอร์ตให้บรรดานักข่าวได้ดู พร้อมเผย "นี่คือสิ่งที่นักยิงปืนระดับโอลิมปิกได้รับ เป็นการสั่งเปลี่ยนเครื่องบินให้ผมกลับไทยเร็วที่สุด พร้อมคืนพาสปอร์ตแต่ผมไม่กลับและต้องขอขอบพระคุณ คุณธนา ไชยประสิทธิ์ (หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย) ที่ได้ประสานมาและแจ้งว่ายังไม่มีการเปลี่ยนตั๋ว ดังนั้นผมจะอยู่เชียร์เพื่อนต่อไป และผมได้ขอร้องให้พี่โอ (โอภาส) อย่าถอนตัวจากการแข่งขัน ต้องอยู่สู้ต่อไป เพื่อคนไทย แม้จะกดดันและขมขื่นก็ต้องยอม"
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ จักรกฤษณ์ ซึ่งเตรียมตัวกลับที่พักในตัวเมืองเวียงจันทร์ต้องพบกับเรื่องไม่คาดฝันเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว 2 นายตามมาประกบพร้อมคุมตัวเจ้าเอ็กซ์ ไปยังห้องของเจ้าหน้าที่เพื่อรอการสอบสวนและไม่อนุญาตให้นักข่าวตามสัมภาษณ์โดย ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลาวเผยว่า นายสนามยิงปืนได้รับจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรของผู้จัดการทีมยิงปืนไทยว่าถ้าเกิด "เอ็กซ์" เข้ามาก่อกวนก็ให้ดำเนินการได้ตามสมควร ซึ่งการที่ จักรกฤษณ์ มาแถลงข่าวโดยไม่แจ้งให้เราทราบนั้น ถือเป็นการกระทำความผิด
จากนั้นเวลาประมาณ 12.20 น. นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทยเดินทางมาถึงยังสนามยิงปืนในกม.16 ก่อนจะตรงเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาว และออกมาให้ข้อมูลกับสื่อไทยว่า "เหตุผลที่ทางการลาวคุมตัว เอ็กซ์ ไปสอบสวนก็เพราะเขาตั้งโต๊ะแถลงข่าวโดยไม่ขออนุญาต และทางฝ่ายจัดการแข่งขันมองว่าเป็นการกระทำที่อาจเกิดปัญหาได้ในภายหลัง จึงส่งเจ้าหน้าที่มาคุมตัวนักกีฬาไทย และ ซักถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในเวลานี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วและได้ประสานงานกับทางกระทรวงการต่างประเทศลาว เพื่อของความร่วมมือจากสถานทูตไทยในลาว ส่งตัว จักรกฤษณ์ กลับเมืองไทยด้วยเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายของวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมในเวลาประมาณ 21.50 น.”
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดซ้ำรอยขึ้นมาอีกนั้น นายธนา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางสมาคมยิงปืนฯ นักกีฬา รวมไปถึง คณะกรรมการโอลิมปิกสากลแห่งประเทศไทยจะต้องปรึกษาหารือกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในภายหลัง”
จากนั้นในเวลาประมาณ 15.40 น. นายธนา ไชยประสิทธิ์ ได้พา เจ้าเอ็กซ์ ออกจากห้องสอบสวนและเดินทางไปยังบ้านเพื่อนของ เจ้าเอ็กซ์ในเมืองเวียงจันทร์ โดยระหว่างที่รอเวลาขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยนั้น จักรกฤษณ์ ที่มีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นได้เปิดเผยถึงนาทีระทึกว่า "ผมนึกว่าจะไม่รอดแล้ว ก็ยอมรับตามตรงว่ารู้สึกกลัวมากๆ วินาทีนั้นตำรวจ 4-5 นายเข้ามาประกบทุกคนมีอาวุธครบมือซึ่งสาเหตุที่โดนควบคุมตัวนั้นเป็นเพราะผมแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยไม่ได้ขออนุญาตทางการลาว แต่หลังจากการพูดคุย พร้อมกับ การชี้แจงของคุณธนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาวก็แจ้งให้ทราบว่าไม่มีความผิดและปล่อยตัวออกมา
นักแม่นปืนชื่อดังยังกล่าวทิ้งท้ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ผมบอกได้เลยว่าจะกลับมาแข่งขันยิงปืนอีกแน่นอน และการกดขี่ข่มเหงจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก วันนี้ทำสำเร็จแล้วที่ช่วยเรียกร้องให้นักยิงปืนไทยมีสวัสดิการที่ดีขึ้น แต่ตอนนี้คงต้องขอพักก่อน คงไม่ได้อยู่เชียร์เพื่อนๆ เพราะผมถูกกล่าวหาจนวินาทีสุดท้าย ถึงขนาดนำเอากฎหมายบ้านเมืองของประเทศลาวมาเพื่อใช้เล่นงานผม".