ASTVผู้จัดการรายวัน-“ปิยสวัสดิ์”หอบแผนลงทุนการบินไทย 5 ปี (53-57) หารือ “โสภณ” ก่อนเสนอบอร์ดพิจารณา 18 ธ.ค.นี้ เตรียมเพิ่มทุน ยืดหนี้ ซื้อเครื่องบินใหม่ 11 ลำ ตั้งเป้ารายได้ปี 53 ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7 % จากปี 52 โดยมีกำไรก่อนภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ4,300 ล้านบาท ส่วนEBITDA อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าพบวานนี้ (1 ธ.ค.) ว่า นายปิยสวัสดิ์ได้นำแผนกลยุทธ์ (แผน 5 ปี 2553-2557) มาหารือ ซึ่งสาระสำคัญของแผนระบุว่า การบินไทยมีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน รวมทั้งการยืดระยะเวลาหนี้เพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น หลังจากที่บริษัทมีภาระหนี้สะสมเป็นจำนวนมาก
โดยแผนกลยุทธ์ 5 ปี เบื้องต้นจะมีการปลดระวางเครื่องบินเด่าจำนวน 16 ลำ จัดหาเครื่องบินใหม่จำนวน 11 ลำเป็นเครื่องบินแบบพิสัยกลางจำนวน 7 ลำ และพิสัยไกลจำนวน 4 ลำ ซึ่งจะทำให้การบินไทยมีฝูงบินจำนวน 86 ลำ ใน 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้จะหารายได้เพิ่มลดรายจ่ายและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น โดยรายได้จะมาจากการปรับปรุงระบบการสำรองที่นั่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากปัจจุบันที่ 3 % เป็น 5-6% ใน 5 ปี ลงทุนด้านการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการบนเครื่องบิน ปรับปรุงที่นั่ง จัดเส้นทาง กำหนดจุดบินและเพิ่มเที่ยวบิน ที่เหมาะสม เป็นต้น
นอกจากนี้ แผนยังกำหนดบทบาทระหว่างการบินไทยและนกแอร์อย่างชัดเจน โดยให้นกแอร์ทำธุรกิจแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost Airline) อื่นๆ อย่างเต็มที่ ส่วนการบินไทยจะยกระดับการบริการเป็นระดับ 5 ดาว
“ดีดีนำแผนมาหารือแต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไปหลายเรื่อง ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงและเสนอที่ประชุมบอร์ดการบินไทยพิจารณาในวันที่ 18 ธ.ค. 52 ต่อไป ซึ่งเป้าหมายของแผนคือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์ให้การบินไทยแข็งแกร่งและยั่งยืน ส่วนจะลงทุนเท่าไร ต้องเพิ่มทุนเท่าไร เป็นรายละเอียดที่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะจะกระทบกับตลาดหลักทรัพย์และขณะนี้แผนยังไม่สรุป”นายโสภณกล่าว
นายปิยสวัสดิ์ อัมรนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ มุ่งเน้น 3 ด้านคือ เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า (Highly Customer Oriented) ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Highly Competitive) และเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวสูง (Highly Dynamic) สามารถตัดสินใจ ปรับตัวได้รวดเร็ว ตามความผันผวน ที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จะเน้นการปรับปรุงและพัฒนา การให้บริการทุกจุด ตั้งแต่ การสำรองที่นั่ง การปรับปรุงเก้าอี้ในเครื่องบิน อุปกรณ์และระบบสาระบันเทิงในเที่ยวบิน ( Inflight Entertainment ) ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี
ในแผนกลยุทธ์ฯ บริษัทได้มีเป้าหมายผลการดำเนินงานของปี 2553 ประมาณรายได้อยู่ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 จากปี 2552 มีกำไรก่อนภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 4,300 ล้านบาท EBITDA 32,000 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายของปริมาณการผลิตและการขนส่ง ปี 2553 กำหนดปริมาณที่นั่ง (ASK) ไว้ที่ 80,000 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) 59,000 ล้านคน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 จากปี 2552 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ร้อยละ 74 ปริมาณการผลิตสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ADTK) 4,400 ล้านตัน-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (RFTK) 2,200 ล้านตัน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 จากปี 2552
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าพบวานนี้ (1 ธ.ค.) ว่า นายปิยสวัสดิ์ได้นำแผนกลยุทธ์ (แผน 5 ปี 2553-2557) มาหารือ ซึ่งสาระสำคัญของแผนระบุว่า การบินไทยมีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน รวมทั้งการยืดระยะเวลาหนี้เพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น หลังจากที่บริษัทมีภาระหนี้สะสมเป็นจำนวนมาก
โดยแผนกลยุทธ์ 5 ปี เบื้องต้นจะมีการปลดระวางเครื่องบินเด่าจำนวน 16 ลำ จัดหาเครื่องบินใหม่จำนวน 11 ลำเป็นเครื่องบินแบบพิสัยกลางจำนวน 7 ลำ และพิสัยไกลจำนวน 4 ลำ ซึ่งจะทำให้การบินไทยมีฝูงบินจำนวน 86 ลำ ใน 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้จะหารายได้เพิ่มลดรายจ่ายและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น โดยรายได้จะมาจากการปรับปรุงระบบการสำรองที่นั่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากปัจจุบันที่ 3 % เป็น 5-6% ใน 5 ปี ลงทุนด้านการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการบนเครื่องบิน ปรับปรุงที่นั่ง จัดเส้นทาง กำหนดจุดบินและเพิ่มเที่ยวบิน ที่เหมาะสม เป็นต้น
นอกจากนี้ แผนยังกำหนดบทบาทระหว่างการบินไทยและนกแอร์อย่างชัดเจน โดยให้นกแอร์ทำธุรกิจแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost Airline) อื่นๆ อย่างเต็มที่ ส่วนการบินไทยจะยกระดับการบริการเป็นระดับ 5 ดาว
“ดีดีนำแผนมาหารือแต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไปหลายเรื่อง ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงและเสนอที่ประชุมบอร์ดการบินไทยพิจารณาในวันที่ 18 ธ.ค. 52 ต่อไป ซึ่งเป้าหมายของแผนคือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์ให้การบินไทยแข็งแกร่งและยั่งยืน ส่วนจะลงทุนเท่าไร ต้องเพิ่มทุนเท่าไร เป็นรายละเอียดที่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะจะกระทบกับตลาดหลักทรัพย์และขณะนี้แผนยังไม่สรุป”นายโสภณกล่าว
นายปิยสวัสดิ์ อัมรนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ มุ่งเน้น 3 ด้านคือ เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า (Highly Customer Oriented) ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Highly Competitive) และเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวสูง (Highly Dynamic) สามารถตัดสินใจ ปรับตัวได้รวดเร็ว ตามความผันผวน ที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จะเน้นการปรับปรุงและพัฒนา การให้บริการทุกจุด ตั้งแต่ การสำรองที่นั่ง การปรับปรุงเก้าอี้ในเครื่องบิน อุปกรณ์และระบบสาระบันเทิงในเที่ยวบิน ( Inflight Entertainment ) ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี
ในแผนกลยุทธ์ฯ บริษัทได้มีเป้าหมายผลการดำเนินงานของปี 2553 ประมาณรายได้อยู่ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 จากปี 2552 มีกำไรก่อนภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 4,300 ล้านบาท EBITDA 32,000 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายของปริมาณการผลิตและการขนส่ง ปี 2553 กำหนดปริมาณที่นั่ง (ASK) ไว้ที่ 80,000 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) 59,000 ล้านคน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 จากปี 2552 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ร้อยละ 74 ปริมาณการผลิตสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ADTK) 4,400 ล้านตัน-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (RFTK) 2,200 ล้านตัน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 จากปี 2552
