ASTVผู้จัดการรายวัน - ทุนธนชาตเผยพร้อมประมูลซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย รอข้อมูลจาก FA เท่านั้น คาดเริ่มเปิดประมูลช่วง ม.ค.ปี 53 ลั่นหากควบรวมกระทบพนักงานจำนวนน้อย พร้อมดัน"ศุภเดช พูนพิพัฒน์"นั่งเอ็มดี แต่ถ้าไม่ชนะการประมูลมีแผนสำรองไว้แล้ว แย้มสนซื้อหุ้นทหารไทยถ้าไอเอ็นจีต้องขายใช้หนี้
นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัททุนธนชาติอยู่ระหว่างการรอรายละเอียดในการเข้าประมูลซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ของกองทุนฟื้นฟูฯ เข้าตรวจสอบคุณภาพสินทรัพย์ของทางธนาคารนครหลวงไทย โดยคาดว่ากองทุนฟื้นฟูฯจะเริ่มเปิดให้มีการเสนอราคาซื้อหุ้นได้ช่วงเดือนมกราคม 2553 และคาดว่าการขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยของกองทุนฟื้นฟูฯ จะเสร็จเรียบร้อยช่วงไตรมาส 2 ปี 2553
ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัททุนธนชาตไม่สามารถชนะการประมูลได้ทางธนาคารเองก็ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นแนวทางไหน แต่หากบริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลธนาคารก็จะเดินหน้าวางแผนธุรกิจต่อไปหลังจากที่กระบวนการซื้อขายเสร็จเรียบร้อย โดยในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ บริษัทจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการที่จะเข้าประมูลซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทยต่อผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการสร้างความโปร่งใสและให้ผู้ถือหุ้นมอบอำนาจไว้วางใจให้คณะกรรมการของธนาคารเข้าประมูล
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไม่ทราบว่าคู่แข่งที่เข้าร่วมประมูลจะเสนอราคาสูงหรือไม่เพียงใด แต่เชื่อว่าบริษัทเองอยู่ในวิสัยที่จะสามารถสู้ราคาได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเรามีข้อดีเรื่องการทำธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารมาโดยตลอด และมีกระบวนการบริหารด้านต่างๆในขณะที่ธนาคารนครหลวงไทยไม่มี แต่ทั้งนี้การเสนอราคาเพื่อประมูลกับคู่แข่งรายอื่นนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมด้วย
“เราก็จะสู้ราคาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องมีการพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าเราจะทุ่มราคาสูงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและเหมาะสมเลย เพราะถ้าได้ราคาแพงมากก็ไม่เหมาะสมกับนโยบายที่วางไว้ เราก็ไม่ต้องการเช่นกัน ซึ่งหากไม่ได้หุ้นธนาคารนครหลวงไทยก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะต้องโตต่อไปด้วยตัวเองแต่อาจจะช้าหน่อย ซึ่งการเติบโตของแต่ละธนาคารในปัจจุบันก็เหมือนกันหมดคือโตด้วยตัวเองส่วนการเติบโตจากการควบรวมกิจการยังมีน้อยอยู่”นายบันเทิง กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทและธนาคารนครหลวงไทยมีการควบรวมกิจการกันก็จะส่งผลให้ขนาดสินทรัพย์อยู่ที่ 8 แสนล้านบาทซึ่งจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 10% ของตลาดโดยรวม และทำให้อันดับของธุรกิจเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 5 เพราะขนาดของสินทรัพย์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำธุรกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้รวมถึงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น เพราะในปัจจุบันเราโตได้ด้วยตัวเองก็จริงแต่ก็ลำบากพอสมควรในเรื่องกำไรที่ได้จะไม่มากเท่ากับธนาคารขนาดใหญ่
สำหรับประเด็นเรื่องความกังวลว่าหลังการควบรวมกิจการอาจทำให้มีการปลดพนักงานเป็นจำนวนมากนั้น ขอยืนยันว่าการปลดพนักงานอาจมีบ้างเล็กน้อย แต่จากจำนวนสาขาของธนาคารธนชาตที่มากกว่า 200 สาขา และของธนาคารนครหลวงไทยมากกว่า 400 สาขา ทำให้เชื่อว่าการลดพนักงานหรือการยุบรวมสาขาจะเกิดขึ้นไม่มาก เพราะมีสาขาเพียงบางแห่งเท่านั้นที่ทับซ้อนกันอยู่เท่านั้น และในอนาคตธนาคารก็ต้องมีการขยายสาขาเพิ่มเติม ขณะที่ในแต่ละปีทั้งธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทยมีพนักงานที่ครบอายุการทำงานมากกว่าปีละ 1 พันคน จึงน่าจะมีความสมดุลกันได้
“เราไม่อยากให้พนักงานทั้ง 2 แห่งกังวลเรื่องการปลดพนักงาน แม้การควบรวมกิจการอาจทำให้มีการลดจำนวนพนักงานลงบ้าง แต่เราจะไม่ลดคนออกทันที เราใช้วิธีเกลี่ยพนักงานได้ สาขาที่มีอยู่ในตอนนี้ก็ไม่ได้ทับซ้อนมากมายนัก และอนาคตเราต้องเปิดสาขาเพิ่มอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในเบื้องต้นหากควบรวมกิจการแล้วทางคณะกรรมการและผู้บริหารของทางบริษัทเห็นว่าผู้ที่สมควรเข้ามานั่งเป็นเอ็มดีนั้น จะยังคงเป็นนายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ที่จะรับตำแหน่งดังกล่าว เพราะเห็นว่ามีความสามารถและคุณสมบัติที่จะรับตำแหน่งดังกล่าวได้” นายบันเทิง กล่าว
แย้มสนTMBหากไอเอ็นจีขาย
นายบันเทิงกล่าวต่อว่า จากการที่ทาง ไอเอ็นจี กรุ๊ป ไม่มีการซื้อหุ้นธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB จากกระทรวงการคลังเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่กำหนดให้สามารถซื้อได้ และมีแนวโน้มว่าไอเอ็นจี กรุ๊ป จะขายหุ้นของธนาคารทหารไทยออกไปเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ให้กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์นั้น โดยส่วนตัวยังไม่ทราบว่าประเด็นนี้เท็จจริงเป็นอย่างไร แต่หากไอเอ็นจี กรุ๊ป ขายหุ้นธนาคารทหารไทยจริง เราก็มีความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้นของธนาคารทหารไทยทันที เพราะธนาคารทหารไทยถือว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยจะเกิดขึ้นหากบริษัทฯ ไม่สามารถซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย ได้ แต่เราต้องพิจารณาให้รอบคอบด้วยว่าไอเอ็นจี กรุ๊ป ขายหุ้นธนาคารทหารไทยเพราะอะไร หากขายเพราะมีความจำเป็นเรื่องภาระการชำระหนี้เราก็จะเข้าซื้อ แต่หากขายเพราะธุรกิจของธนาคารทหารไทยย่ำแย่เราก็คงไม่ซื้อ แต่ในตอนนี้เรามองว่าเป็นหุ้นที่มีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับขนาดของธนาคาร
“หากไอเอ็นจีขายหุ้นจริงเราก็อาจเข้าไปซื้อ แต่ต้องขึ้นกับว่าเราซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทยสำเร็จหรือเปล่า เราต้องทำให้เสร็จไปทีละเรื่อง แต่ตอนนี้ถือว่าราคาหุ้นของธนาคารทหารไทยถูกมากและถือว่าเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจเมื่อดูจากขนาดของธนาคาร แต่เราต้องดูให้ดี เพราะของถูกแต่เป็นของปลอมก็มีเยอะ” นายบันเทิง กล่าว
นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัททุนธนชาติอยู่ระหว่างการรอรายละเอียดในการเข้าประมูลซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ของกองทุนฟื้นฟูฯ เข้าตรวจสอบคุณภาพสินทรัพย์ของทางธนาคารนครหลวงไทย โดยคาดว่ากองทุนฟื้นฟูฯจะเริ่มเปิดให้มีการเสนอราคาซื้อหุ้นได้ช่วงเดือนมกราคม 2553 และคาดว่าการขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยของกองทุนฟื้นฟูฯ จะเสร็จเรียบร้อยช่วงไตรมาส 2 ปี 2553
ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัททุนธนชาตไม่สามารถชนะการประมูลได้ทางธนาคารเองก็ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นแนวทางไหน แต่หากบริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลธนาคารก็จะเดินหน้าวางแผนธุรกิจต่อไปหลังจากที่กระบวนการซื้อขายเสร็จเรียบร้อย โดยในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ บริษัทจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการที่จะเข้าประมูลซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทยต่อผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการสร้างความโปร่งใสและให้ผู้ถือหุ้นมอบอำนาจไว้วางใจให้คณะกรรมการของธนาคารเข้าประมูล
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไม่ทราบว่าคู่แข่งที่เข้าร่วมประมูลจะเสนอราคาสูงหรือไม่เพียงใด แต่เชื่อว่าบริษัทเองอยู่ในวิสัยที่จะสามารถสู้ราคาได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเรามีข้อดีเรื่องการทำธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารมาโดยตลอด และมีกระบวนการบริหารด้านต่างๆในขณะที่ธนาคารนครหลวงไทยไม่มี แต่ทั้งนี้การเสนอราคาเพื่อประมูลกับคู่แข่งรายอื่นนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมด้วย
“เราก็จะสู้ราคาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องมีการพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าเราจะทุ่มราคาสูงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและเหมาะสมเลย เพราะถ้าได้ราคาแพงมากก็ไม่เหมาะสมกับนโยบายที่วางไว้ เราก็ไม่ต้องการเช่นกัน ซึ่งหากไม่ได้หุ้นธนาคารนครหลวงไทยก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะต้องโตต่อไปด้วยตัวเองแต่อาจจะช้าหน่อย ซึ่งการเติบโตของแต่ละธนาคารในปัจจุบันก็เหมือนกันหมดคือโตด้วยตัวเองส่วนการเติบโตจากการควบรวมกิจการยังมีน้อยอยู่”นายบันเทิง กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทและธนาคารนครหลวงไทยมีการควบรวมกิจการกันก็จะส่งผลให้ขนาดสินทรัพย์อยู่ที่ 8 แสนล้านบาทซึ่งจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 10% ของตลาดโดยรวม และทำให้อันดับของธุรกิจเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 5 เพราะขนาดของสินทรัพย์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำธุรกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้รวมถึงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น เพราะในปัจจุบันเราโตได้ด้วยตัวเองก็จริงแต่ก็ลำบากพอสมควรในเรื่องกำไรที่ได้จะไม่มากเท่ากับธนาคารขนาดใหญ่
สำหรับประเด็นเรื่องความกังวลว่าหลังการควบรวมกิจการอาจทำให้มีการปลดพนักงานเป็นจำนวนมากนั้น ขอยืนยันว่าการปลดพนักงานอาจมีบ้างเล็กน้อย แต่จากจำนวนสาขาของธนาคารธนชาตที่มากกว่า 200 สาขา และของธนาคารนครหลวงไทยมากกว่า 400 สาขา ทำให้เชื่อว่าการลดพนักงานหรือการยุบรวมสาขาจะเกิดขึ้นไม่มาก เพราะมีสาขาเพียงบางแห่งเท่านั้นที่ทับซ้อนกันอยู่เท่านั้น และในอนาคตธนาคารก็ต้องมีการขยายสาขาเพิ่มเติม ขณะที่ในแต่ละปีทั้งธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทยมีพนักงานที่ครบอายุการทำงานมากกว่าปีละ 1 พันคน จึงน่าจะมีความสมดุลกันได้
“เราไม่อยากให้พนักงานทั้ง 2 แห่งกังวลเรื่องการปลดพนักงาน แม้การควบรวมกิจการอาจทำให้มีการลดจำนวนพนักงานลงบ้าง แต่เราจะไม่ลดคนออกทันที เราใช้วิธีเกลี่ยพนักงานได้ สาขาที่มีอยู่ในตอนนี้ก็ไม่ได้ทับซ้อนมากมายนัก และอนาคตเราต้องเปิดสาขาเพิ่มอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในเบื้องต้นหากควบรวมกิจการแล้วทางคณะกรรมการและผู้บริหารของทางบริษัทเห็นว่าผู้ที่สมควรเข้ามานั่งเป็นเอ็มดีนั้น จะยังคงเป็นนายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ที่จะรับตำแหน่งดังกล่าว เพราะเห็นว่ามีความสามารถและคุณสมบัติที่จะรับตำแหน่งดังกล่าวได้” นายบันเทิง กล่าว
แย้มสนTMBหากไอเอ็นจีขาย
นายบันเทิงกล่าวต่อว่า จากการที่ทาง ไอเอ็นจี กรุ๊ป ไม่มีการซื้อหุ้นธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB จากกระทรวงการคลังเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่กำหนดให้สามารถซื้อได้ และมีแนวโน้มว่าไอเอ็นจี กรุ๊ป จะขายหุ้นของธนาคารทหารไทยออกไปเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ให้กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์นั้น โดยส่วนตัวยังไม่ทราบว่าประเด็นนี้เท็จจริงเป็นอย่างไร แต่หากไอเอ็นจี กรุ๊ป ขายหุ้นธนาคารทหารไทยจริง เราก็มีความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้นของธนาคารทหารไทยทันที เพราะธนาคารทหารไทยถือว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยจะเกิดขึ้นหากบริษัทฯ ไม่สามารถซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย ได้ แต่เราต้องพิจารณาให้รอบคอบด้วยว่าไอเอ็นจี กรุ๊ป ขายหุ้นธนาคารทหารไทยเพราะอะไร หากขายเพราะมีความจำเป็นเรื่องภาระการชำระหนี้เราก็จะเข้าซื้อ แต่หากขายเพราะธุรกิจของธนาคารทหารไทยย่ำแย่เราก็คงไม่ซื้อ แต่ในตอนนี้เรามองว่าเป็นหุ้นที่มีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับขนาดของธนาคาร
“หากไอเอ็นจีขายหุ้นจริงเราก็อาจเข้าไปซื้อ แต่ต้องขึ้นกับว่าเราซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทยสำเร็จหรือเปล่า เราต้องทำให้เสร็จไปทีละเรื่อง แต่ตอนนี้ถือว่าราคาหุ้นของธนาคารทหารไทยถูกมากและถือว่าเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจเมื่อดูจากขนาดของธนาคาร แต่เราต้องดูให้ดี เพราะของถูกแต่เป็นของปลอมก็มีเยอะ” นายบันเทิง กล่าว
