เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (21ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชาเพื่อพบกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าได้มีการหารือใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ปัญหาข้อขัดแย้งบริเวณตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาไม่ต้องการให้การเผชิญหน้ากันของทหารทั้งสองฝ่าย อยากให้จะหมดไปโดยเร็วและทันทีทันใด ซึ่งทางกัมพูชาได้เสนอมาหลายครั้งแล้ว โดยอยากให้มีการแยกกำลังทหารออกจากกัน และให้ห่างจากกัน ทั้งนี้เมื่อแยกกำลังทหารออกจากกันแล้ว ความขัดแย้งในพื้นที่ที่มีขึ้น ก็ให้องค์กรที่เคยรับผิดชอบในเรื่องนี้จัดการ คือ ผ่านทางคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ( The Joint boundary commission) ซึ่งก็ไม่ได้หวังให้จัดการให้เสร็จภายใน 1-2 วันนี้ เพราะจัดการมา 20 ปีก็ได้แค่นี้ และเป็นการจัดการบนความเข้าใจกัน และบนความเป็นเพื่อนกัน และร่วมมือร่วมใจกัน ฉะนั้นจะใช้เวลานานเท่าไร ทางกัมพูชาก็ไม่ได้แคร์ หลังจากนั้นให้ใช้พื้นที่ตรงนี้มาร่วมกันพัฒนา หรือแลกเปลี่ยน หรือทำการค้าขาย เพื่อเอาความเจริญ และความก้าวหน้ามาสู่ประชาชนของประเทศทั้งสอง
"ผมฟังดูแล้ว ผมเห็นด้วย และชื่นใจในทีท่าของเขาที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงในการเป็นผู้หวังความสงบ หรือสันติภาพในการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นสิ่งที่เราชื่นใจ ทั้งนี้ ผมก็รับทราบ และบอกว่าจะพยายามให้ประชาชนในประเทศไทยได้รับทราบด้วย ซึ่งความจริงก็จะพูดจากันบ้างแล้ว ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องนี้หันหน้าเข้ามาหากันก็จบทันที ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเงินเสียทอง และไม่กดดัน ประชาชนทั้งสองฝั่งก็จะมีแต่ความสุข" พล.อ.ชวลิต กล่าว
สำหรับเรื่องที่ 2. คือสิทธิในเรื่องการค้นหาหรือขุดค้นในเรื่องบ่อน้ำมัน หรือแก๊สในทะเล ซึ่งเราได้ยินมาว่า กัมพูชาได้มอบสิทธิให้กับประเทศอื่นไปแล้ว เช่น บริษัทโทเทล ของฝรั่งเศส หรือให้กับประเทศจีน ซึ่งความจริงไม่ใช่เลย ในพื้นที่ซับซ้อน ซึ่งต้องเป็นข้อตกลงระหว่างไทย กับกัมพูชา ซึ่งเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย เขาได้พยายามเสนอเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ของไทย โดยที่เขาบอกว่า ได้เสนอให้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยบอก 2 ครั้งแล้ว ทำไมเราถึงหายไป เพราะเขาอยากจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว นอกจากนี้ในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นพื้นที่ของเขาก็เป็นสิทธิของเขา เราไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย โดยสรุปแล้ว ที่เราทราบว่ามีการให้สัมปทานคนนั้น คนนี้ มันไม่เป็นความจริง
เรื่องที่ 3 ที่กัมพูชาให้ความสนใจมาก และเน้นเหลือเกิน คือความสัมพันธ์ของเขา กับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาพูดชัดเจนว่า ความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้ทำงานทางการเมือง เป็นนักธุรกิจธรรมดา และเป็นนักการเมือง ก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ ความสัมพันธ์ต่างๆ ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง เขามีความรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมในฐานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำอะไรให้กับประเทศเยอะแยะ แต่ทำไมถึงวันนี้ แม้กระทั่งแผ่นดินที่จะอยู่ก็ยังไม่มี เขามีความเจ็บปวดในเรื่องนี้ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนไทย และไม่ได้เป็นครอบครัวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ภริยาของสมเด็จฮุนเซน เล่าให้ฟังถึงกับร้องไห้ เขามีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ตัวเขาเองกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นเพื่อนกันตลอดกาล และประเทศกัมพูชาพร้อมให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาพำนักอาศัย วันนี้เขาได้จัดบ้านพักอย่างดี สวยงามไว้พร้อมต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างมีเกียรติ ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ตนมองดูในด้านความสัมพันธ์ หรือหัวใจที่มีต่อเพื่อน เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีความห่วงในการเดินทางเยือนของกัมพูชาในครั้งนี้ ท่านจะนำเรื่องการเดินทางไปหารือพูดคุยกับทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า
"ห่วงหรือ พูดเป็นเล่นไป ห่วงจริง ไม่เห็นจะมีใครโทรศัพท์มาหาซักนิดเลย ไม่มีอะไรเลย"
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การเดินทางเยือนกัมพูชาครั้งนี้ ไม่ได้ไปในฐานะรัฐบาล แต่ไปในฐานะเพื่อน เมื่อ 20 ปีก่อนกว่าจะได้เจอกัน โดยพล.อ.ศรีสวัสดิ์ แก้วบุญพัน ของประเทศลาว ซึ่งบินจากพนมเปญ ไปเจอตนที่เวียงจันทน์ และตนบินจากกทม. บินไปเจอที่เวียงจันทน์ ตั้งแต่วันนั้นมาก็รู้จักกัน และดำเนินการเพื่อสันติภาพในภูมิภาคนี้ร่วมกัน
เมื่อถามว่าให้แยกการเผชิญหน้ากัน ไม่ได้หมายความว่าให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็ตกลงกันซิ ตกลงกันได้ว่า ต่อไปนี้จะลดความกดดันกันหน่อย กำลังที่ต่างคนต่างเผชิญหน้ากันถอยห่างกันหน่อยดีหรือไม่ จะห่างกันเท่าไร ขนาดนั้น หรือห่างกันไป หรือจะให้หน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่เป็นหน่วยทหารเข้าไปทดแทน หรือจะเอาแค่ห่างกัน 5- 10 ก.ม. นั่นคือก้าวแรกของการทำความตกลงกัน
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ในการลดกำลังทางทหารลง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คิดว่าเขาคงรู้แล้ว
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ กับปัญหาระหว่างประเทศ จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าไม่เกี่ยวกันหรอก ถึงแม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีปัญหา และมีเรื่องอื่นๆส่วนตัว ตนคิดว่าคน ๆนี้ก็ยังมีน้ำใจกับเพื่อนอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ ตนชื่นชมในความเป็นเพื่อน แม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่เขาก็ยังมีความรัก และผูกพันอยู่ พร้อมให้การช่วยเหลือ
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ จะเป็นแรงกดดันระว่างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการยกหูคุยกับสมเด็จฮุนเซนหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เมื่อถามย้ำว่า มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ หลบอยู่ที่กัมพูชา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่จริง ถ้าอยู่จะต้องเจอ ไม่มีใครโกหกตนหรอก เพราะตนก็มีสายอยู่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาพักอยู่กับ สมเด็จฮุนเซนในเร็วๆนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าไม่แน่นะ ทำเป็นเล่นไป เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ตอบรับหรือไม่ว่าจะมาอยู่ที่กัมพูชา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่มีใครทราบเลย
เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาประกาศที่จะให้ที่พำนักกับพ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นการประกาศเป็นศัตรูกับรัฐบาลไทยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าเขาบอกว่าเขาเป็นประเทศเอกราช เขามีอธิปไตยของเขาเอง พูดแบบนี้ก็น่าจะรู้แล้ว ถ้าเขาบอกว่ายุ่งอะไรกับผมล่ะ ซึ่งมันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหลักการ หรือปัญหาต่างๆ เพราะปัญหาต่างๆ ข้อขัดแย้งก็จะต้องพิจารณาบนหลักการ ความชอบธรรม ความถูกต้องถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
"ไม่เอาหรือพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ใกล้ๆ ง่ายๆ ดี ทั้งนี้ผมอยากจะไปดูบ้านที่สมเด็จฮุนเซน สร้างให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มีโอกาสเข้าไปดู เพราะเห็นเขาบอกว่าสวยด้วย ใหญ่ด้วย และขณะนี้ผมคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงไม่ได้เข้าไปอยู่มั้ง ส่วนจะให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่เมื่อไรนั้น ผมยังไม่ทราบ แต่ขณะนี้ทางกัมพูชาพร้อมทุกอย่าง" พล.อ.ชวลิตกล่าว
"ผมฟังดูแล้ว ผมเห็นด้วย และชื่นใจในทีท่าของเขาที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงในการเป็นผู้หวังความสงบ หรือสันติภาพในการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นสิ่งที่เราชื่นใจ ทั้งนี้ ผมก็รับทราบ และบอกว่าจะพยายามให้ประชาชนในประเทศไทยได้รับทราบด้วย ซึ่งความจริงก็จะพูดจากันบ้างแล้ว ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องนี้หันหน้าเข้ามาหากันก็จบทันที ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเงินเสียทอง และไม่กดดัน ประชาชนทั้งสองฝั่งก็จะมีแต่ความสุข" พล.อ.ชวลิต กล่าว
สำหรับเรื่องที่ 2. คือสิทธิในเรื่องการค้นหาหรือขุดค้นในเรื่องบ่อน้ำมัน หรือแก๊สในทะเล ซึ่งเราได้ยินมาว่า กัมพูชาได้มอบสิทธิให้กับประเทศอื่นไปแล้ว เช่น บริษัทโทเทล ของฝรั่งเศส หรือให้กับประเทศจีน ซึ่งความจริงไม่ใช่เลย ในพื้นที่ซับซ้อน ซึ่งต้องเป็นข้อตกลงระหว่างไทย กับกัมพูชา ซึ่งเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย เขาได้พยายามเสนอเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ของไทย โดยที่เขาบอกว่า ได้เสนอให้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยบอก 2 ครั้งแล้ว ทำไมเราถึงหายไป เพราะเขาอยากจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว นอกจากนี้ในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นพื้นที่ของเขาก็เป็นสิทธิของเขา เราไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย โดยสรุปแล้ว ที่เราทราบว่ามีการให้สัมปทานคนนั้น คนนี้ มันไม่เป็นความจริง
เรื่องที่ 3 ที่กัมพูชาให้ความสนใจมาก และเน้นเหลือเกิน คือความสัมพันธ์ของเขา กับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาพูดชัดเจนว่า ความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้ทำงานทางการเมือง เป็นนักธุรกิจธรรมดา และเป็นนักการเมือง ก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ ความสัมพันธ์ต่างๆ ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง เขามีความรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมในฐานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำอะไรให้กับประเทศเยอะแยะ แต่ทำไมถึงวันนี้ แม้กระทั่งแผ่นดินที่จะอยู่ก็ยังไม่มี เขามีความเจ็บปวดในเรื่องนี้ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนไทย และไม่ได้เป็นครอบครัวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ภริยาของสมเด็จฮุนเซน เล่าให้ฟังถึงกับร้องไห้ เขามีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ตัวเขาเองกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นเพื่อนกันตลอดกาล และประเทศกัมพูชาพร้อมให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาพำนักอาศัย วันนี้เขาได้จัดบ้านพักอย่างดี สวยงามไว้พร้อมต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างมีเกียรติ ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ตนมองดูในด้านความสัมพันธ์ หรือหัวใจที่มีต่อเพื่อน เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีความห่วงในการเดินทางเยือนของกัมพูชาในครั้งนี้ ท่านจะนำเรื่องการเดินทางไปหารือพูดคุยกับทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า
"ห่วงหรือ พูดเป็นเล่นไป ห่วงจริง ไม่เห็นจะมีใครโทรศัพท์มาหาซักนิดเลย ไม่มีอะไรเลย"
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การเดินทางเยือนกัมพูชาครั้งนี้ ไม่ได้ไปในฐานะรัฐบาล แต่ไปในฐานะเพื่อน เมื่อ 20 ปีก่อนกว่าจะได้เจอกัน โดยพล.อ.ศรีสวัสดิ์ แก้วบุญพัน ของประเทศลาว ซึ่งบินจากพนมเปญ ไปเจอตนที่เวียงจันทน์ และตนบินจากกทม. บินไปเจอที่เวียงจันทน์ ตั้งแต่วันนั้นมาก็รู้จักกัน และดำเนินการเพื่อสันติภาพในภูมิภาคนี้ร่วมกัน
เมื่อถามว่าให้แยกการเผชิญหน้ากัน ไม่ได้หมายความว่าให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็ตกลงกันซิ ตกลงกันได้ว่า ต่อไปนี้จะลดความกดดันกันหน่อย กำลังที่ต่างคนต่างเผชิญหน้ากันถอยห่างกันหน่อยดีหรือไม่ จะห่างกันเท่าไร ขนาดนั้น หรือห่างกันไป หรือจะให้หน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่เป็นหน่วยทหารเข้าไปทดแทน หรือจะเอาแค่ห่างกัน 5- 10 ก.ม. นั่นคือก้าวแรกของการทำความตกลงกัน
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ในการลดกำลังทางทหารลง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คิดว่าเขาคงรู้แล้ว
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ กับปัญหาระหว่างประเทศ จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าไม่เกี่ยวกันหรอก ถึงแม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีปัญหา และมีเรื่องอื่นๆส่วนตัว ตนคิดว่าคน ๆนี้ก็ยังมีน้ำใจกับเพื่อนอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ ตนชื่นชมในความเป็นเพื่อน แม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่เขาก็ยังมีความรัก และผูกพันอยู่ พร้อมให้การช่วยเหลือ
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ จะเป็นแรงกดดันระว่างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการยกหูคุยกับสมเด็จฮุนเซนหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เมื่อถามย้ำว่า มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ หลบอยู่ที่กัมพูชา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่จริง ถ้าอยู่จะต้องเจอ ไม่มีใครโกหกตนหรอก เพราะตนก็มีสายอยู่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาพักอยู่กับ สมเด็จฮุนเซนในเร็วๆนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าไม่แน่นะ ทำเป็นเล่นไป เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ตอบรับหรือไม่ว่าจะมาอยู่ที่กัมพูชา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่มีใครทราบเลย
เมื่อถามว่าการที่กัมพูชาประกาศที่จะให้ที่พำนักกับพ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นการประกาศเป็นศัตรูกับรัฐบาลไทยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าเขาบอกว่าเขาเป็นประเทศเอกราช เขามีอธิปไตยของเขาเอง พูดแบบนี้ก็น่าจะรู้แล้ว ถ้าเขาบอกว่ายุ่งอะไรกับผมล่ะ ซึ่งมันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหลักการ หรือปัญหาต่างๆ เพราะปัญหาต่างๆ ข้อขัดแย้งก็จะต้องพิจารณาบนหลักการ ความชอบธรรม ความถูกต้องถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
"ไม่เอาหรือพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ใกล้ๆ ง่ายๆ ดี ทั้งนี้ผมอยากจะไปดูบ้านที่สมเด็จฮุนเซน สร้างให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มีโอกาสเข้าไปดู เพราะเห็นเขาบอกว่าสวยด้วย ใหญ่ด้วย และขณะนี้ผมคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงไม่ได้เข้าไปอยู่มั้ง ส่วนจะให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่เมื่อไรนั้น ผมยังไม่ทราบ แต่ขณะนี้ทางกัมพูชาพร้อมทุกอย่าง" พล.อ.ชวลิตกล่าว